ผ้าไหมนาโพธิ์
ในสมัยอดีตจังหวัดบุรีรัมย์ประสบภาวะแห้งแล้ง ไม่มีนา ไม่มีข้าว ไม่มีน้ำ หลังเข้าสู่โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำภูมิปัญญาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 5 ทศวรรษ สร้างสรรค์ผืนผ้าจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่รู้จักในนาม “ผ้าไหมบ้านนาโพธิ์”
ในปัจจุบันพื้นที่ตำบลดอนกอก อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการประกอบอาชีพการทอผ้าไหมเป็นจำนวนมาก และลวดลายที่มีความแตกต่างและมีความเป็นเอกลักษณ์ภายในตัวของผ้าไหมแต่ละผืน ความนิยมของแต่ละผืนขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจในการเลือกใส่ ในปัจจุบันผ้าไหมได้มีการนำทำเป็นชุด และเสื้อไหม เพราะในอดีตผ้าไหมจะทำเป็นแค่กระโปรงไว้ใช้ในงานที่มีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ และงานที่สำคัญทางวันสำคัญต่างๆที่จะต้องใช้ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการให้ใส่ชุดไหม 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อที่จะสื่อความโดดเด่นในอัตลักษณ์ของผ้าไหมนาโพธิ์
ซึ่งการทอผ้าไหม ได้เป็นการสร้างราได้ที่สำคัญให้กับคนในพื้นที่ และถือว่าคนในตำบลยังคงเป็นที่สนใจ เพราะพูดถึงอำเภอนาโพธิ์ ทุกคนจะรู้ว่าผ้าไหมนาโพธิ์ มีความสวยงามและราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องถึงได้