ดิฉันนางสาว ชนัฐดา หลวงมัจฉา ประเภท ประชาชน ทำงานภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระยะเวลาโครงการ 11 เดือน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ซึ่งได้รับมอบหมายในการปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อเก็บข้อมูลจำนวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านคู หมู่ที่ 6 บ้านคู หมู่ที่14 บ้านหนองผักมุ่ง หมู่ 15 บ้านดอนกลาง หมู่ที่ 4 และบ้านหนองแอ หมู่ที่5 หมู่ที่ของตำบลบ้านคู อำเภอนาโพธิ์ โดยแผนการดำเนินมีเป้าหมายการลงพื้นที่เก็บข้อมูลตามแบบฟอร์ม 3 แบบ คือ แบบฟอร์ม 01 ข้อมูลระดับบุคคล ครัวเรือนและชุมชน แบบฟอร์ม 02 ผลกระทบจากโรคโควิด-19 และ แบบฟอร์ม 06 แบบสำรวจเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่และเก็บข้อมูลU2T
กิจกรรมและแผนการดำเนินงานของโครงการ AG01(2)
ในช่วงวันที่ 1-11 พฤษภาคม 64ปฏิบัติงานประจำติดต่อสื่อสาร/ประสานงานภายในกลุ่มและเก็บรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ สรุปและรายงานความก้าวหน้า
ในช่วงวันที่ 6 พฤษภาคม 64 ประชุมออนไลน์กับทางทีมงานและอาจารย์ประจำหลักสูตร
ในช่วงวันที่ 12 พฤษภาคม 64 ลงพื้นที่ทำกิจกรรมเสริมสร้างความดีและจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชน ณ วัดใหม่สามัคคี บ้านโนนสะอาด และประชุมทีมเกี่ยวกับการลงพื้นที่เก็บข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว (U2T) ช่วงบ่ายลงพื้นที่สำรวจข้อมูลเชิงแหล่งท่องเที่ยวประจำตำบลบ้านคู อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์
ในช่วงวันที่ 13–14 พฤษภาคม 64 ปฏิบัติงานประจำติดต่อสื่อสาร/ประสานงานภายในกลุ่มและเก็บรวบรวมข้อมูลในการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละชุมชน
ศูนย์ตำบลบ้านคู การเลี้ยงโคขุน
การเลี้ยงโคที่ยังอายุน้อยให้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ โดยการให้อาหารแก่โคที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งอาหารหยาบ และอาหารข้นอย่างเต็มที่ ในสภาพการเลี้ยงแบบขังคอกอย่างเดียวหรือร่วมกับการปล่อยแปลงหญ้า
แหล่งของโคที่นำมาขุน อาจได้จากลูกโคในคอกผู้เลี้ยงเองหรือซื้อลูกโคจากแหล่งขายโคต่างๆ เช่น ตลาดนัดโค-กระบือ
1.โคพันธุ์พื้นเมือง
เป็นโคที่เนื้อมีไขมันน้อย ไม่เป็นที่นิยมเลี้ยง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตต่ำ น้ำหนักโคเมื่อขุนเสร็จประมาณ 380 กิโลกรัม ได้เปอร์เซ็นต์ซากประมาณ 51%
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 150 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 1 ปี
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 200 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 7-8 เดือน
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 250 กิโลกรัม ใช้เวลา 5-6 เดือน
2.โคลูกผสมบราห์มันพื้นเมือง
มีเลือดบราห์มันประมาณ 50-85 เปอร์เซ็นต์ มีไขมันแทรกปานกลาง น้ำหนักเมื่อขุนเสร็จประมาณ 450 กิโลกรัม มีเปอร์เซ็นต์ซากประมาณ 56%
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 150 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 10-12 เดือน
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 200 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 8-9 เดือน
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 250 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 5-6 เดือน
3.โคลูกผสมสามสายเลือด
โคที่มีเลือดผสมสามสายพันธุ์ ได้แก่
– บราห์มัน พื้นเมือง และชาร์โรเล่ส์
– บราห์มัน พื้นเมือง และลิมัวซิน
– บราห์มัน พื้นเมือง และซิมเมนทัล
ลักษณะที่ดีของโคพันธุ์ผสมนี้ คือ เลี้ยงง่าย เติบโตเร็ว มีคุณภาพซากดี มีเนื้อมาก ไขมันน้อย นิยมเลี้ยงมาก คือ พันธุ์ผสมของชาร์โรเล่ส์ รองลงมา คือ พันธุ์ผสมของลิมัวซิน เนื่องจากพันธุ์ผสมของชาร์โรเล่ส์มีขนาดใหญ่กว่า และเติบโตดีกว่า
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 150 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 10-12 เดือน
– เริ่มขุนที่น้ำหนัก 250 กิโลกรัม จะใช้เวลาขุน 6 เดือน
สภาพโค
โคที่นำมาขุน ถ้าเป็นโค 1 ปี ควรคัดเลือกโคที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ควรเป็นโคผอม เพราะมีโอกาสที่จะแคระแกร็น หรือขุนไม่ขึ้น เนื่องจาก โคทั่วไปจะมีอัตราการเติบโตมากในช่วงอายุ 1-2 ปี หลังจากนั้น อัตราการเติบโตจะค่อยๆลดลง
ส่วนโคที่มีอายุ 2 ปี โครงร่างได้ขยายใหญ่พอสมควรแล้ว ดังนั้น จึงสามารถคัดเลือกตัวที่มีลักษณะผอม แต่โครงร่างใหญ่นำมาขุนได้ เพราะหลังจากได้รับอาหารอย่างเพียงพอ โคจะมีอัตราการเจริญเติบโตแบบชดเชย และมีประสิทธิภาพการใช้อาหารจะสูงกว่าโคอ้วน การซื้อโคอายุ 2 ปี สามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก และช่วยให้ได้กำไรจากส่วนต่างราคามากกว่าโคอ้วนเพราะราคาเนื้อโคก่อนขุน และหลังขุนมีราคาต่างกัน
สิ่งที่ได้เรียนรู้
1.ได้เรียนรู้ว่าการเลี้ยงโคขุน
2.ได้รู้ว่าแหล่งท่องเที่ยวแต่ละหมู่บ้านมีอะไรบ้าง
3. ได้เรียนรู้การใช้วิถีชีวิตการทําอาชีพสร้างรายได้ที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละหมู่บ้าน
4. ได้เรียนรู้ถึงกลุ่มชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
แผนการดำเนินงานต่อไป
ทีมงาน AG01(2) แผนการดำเนินงานในเดือนมิถุนายน 64 โดยทำการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลของข้อมูล เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนการดำเนินงานต่อไป