ข้าพเจ้านางสาวนุชจิรา ลุ่มนอก ประเภทบัณฑิตจบใหม่ AG 02 (02)ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์
หลักสูตร: AG 02-(01-03) โครงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ยุค 4.0 และยกระดับมาตรฐานสินค้า OTOP ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ดำเนินงานลงพื้นที่ ร้านกนกศิลป์ไหมไทย บ้านหนองหว้า หมู่11 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 เวลา 08.00-16.00
ดิฉันได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ร้านกนกศิลป์ไหมไทย บ้านหนองหว้า ม.11 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำการเก็บข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผ้าไหม เจ้าของร้านคือนายธงชัย ลุ่มนอก ได้ทำการจดทะเบียนขออนุญาตในการทำธุรกิจการค้าผ้าไหมโดยตรง
ผ้าไหมแต่ละผืนกว่าจะทอได้มาเป็นผืน ต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน ซึ่งแบ่งการเลี้ยงตัวหม่อนออกเป็น 3 ระยะดังนี้
-ระยะฟักออกจากไข่ ใช้เวลา 1สัปดาห์
-ระยะเลี้ยงตัวหม่อน ใช้เวลา 2 สัปดาห์
-ระยะฟักเป็นรังไหม ใช้เวลา 1 สัปดาห์ครึ่ง
หลังจากฟักตัวเป็นรังไหมก็จะนำรังไหมเข้าสู่กรรมวิธีสาวไหมให้เป็นเส้นและนำเส้นไหมเข้าสู่กรรมวิธีการย้อมสี พร้อมการมัดหมี่ตามลายที่กำหนดและเข้าสู่ขั้นตอนการทอผ้าไหม ซึ่งลายผ้าไหมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ จ.บุรีรัมย์ คือ ลายบันไดสวรรค์
ตัวอย่างชื่อลายผ้าไหมที่ทำรายได้สูง
– ผ้าซิ่นตีนแดงลายพญานาคลงทอง ราคา4,500-10,000
– ผ้าซิ่นตีนแดงลายบันได่สวรรค์ ราคา3,500-4,000
– ผ้าซิ่นตีนแดงลายหงส์ลงทอง ราคา3,300-3,800
– ผ้าซิ่นตีนแดงลายนกยูงลงทอง ราคา3,300-3,800
– ผ้าซิ่นตีนแดงลายนกลงทอง ราคา3,300-3,800
การลงทองผ้าไหม คือ การเพิ่มมูลค่าผ้าไหมมัดหมี่ธรรมดาทำให้ลายมีความโดดเด่น ซึ่งใช้ทองคำเปลวบดละเอียดผสมกาวยางพาราเคมีแบบดี ซึ่งราคาทองอยู่ที่กิโลละ1,000บาท และการลงทองแต่ละครั้งนั้น ใช้เวลา 1 ผืน ต่อ 1 วัน ราคาผืนละ 700 บาท