จากเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในชุมชนตำบลนาโพธิ์มีข้อมูลหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากตอนต้นปีที่ทำการลงข้อมูล cbd ไว้ ไม่ว่าจะเป็น พืชพันธ์ สัตว์เลี้ยง ประชากร อาหารในท้องถิ่น ร้านอาหาร หรือแม้แต่แหล่งน้ำแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ข้าพเจ้าผู้ปฏิบัติงานในตำบลนาโพธิ์ก็ได้ทำการลงข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนเก็บข้อมูลลงในระบบ พบว่ามีทั้งแหล่งน้ำที่บางเดือนจะทำให้น้ำแห้งขอดแล้ง บางแหล่งน้ำเป็นหนองน้ำเสียที่ไม่ใช้ประโยชน์ ตัวของข้าพเจ้าจึงศึกษาหาข้อมูลในอินเทอเน็ต เป็นเกร็ดความรู้ในการบำบัดน้ำ การใช้น้ำในหนองให้เกิดประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย มาให้ผู้อ่านได้อ่านและนำความรู้ไปใช้ในอนาคต หรือใช้กับแหล่งน้ำของตน

 

การบำบัดน้ำเสีย

ปัญหาของน้ำเสียมักเกิดจากการรบกวนธรรมชาติของมนุษย์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ

  1. น้ำเสียที่เกิดจากอินทรีย์สาร เช่น มูล ซากพืช ซากสัตว์
  2. น้ำเสียที่เกิดจากอนินทรีย์สาร เช่น สารเคมี

 

 

วิธีการบำบัดน้ำเสีย

วิธีการสำหรับการบำบัดน้ำเสียในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายวิธี แบ่งออกเป็น 2 พวกใหญ่ คือ

  1. ระบบใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ได้แก่ อุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อการบำบัดโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึง ณ ที่นี้ เพราะในโครงการหลวงจะเน้นการพึ่งพลังงานธรรมชาติมากกว่า
  2. ระบบการใช้พลังงานธรรมชาติ ที่นิยมในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 แบบใหญ่ๆ ซึ่งจะเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสถานที่ต่างๆ กันไป
    1.  ระบบสระผึ่ง (Oxidation Pond) ลักษณะทางกายภาพของระบบนี้ก็คือบ่อน้ำนั่นเอง แนวคิดหลักของระบบนี้คือการอาศัยการเติมออกซิเจนลงไปในน้ำด้วยพลังงานธรรมชาติ (แดด, ลม) บ่อที่ขุดขึ้นมาเพื่อการนี้จึงจะมีลักษณะตื้นๆ โดยมีความลึกอยู่ระหว่าง 60-150 ซม. เพื่อให้แสงสามารถส่องลงได้ทั่วถึง ระบบนี้อาจใช้เครื่องกลในการเข้าช่วยในการเติมออกซิเจนด้วย เพื่อให้การบำบัดเป็นไปได้เร็วขึ้นและใช้เนื้อที่ของสระน้อยลงเรียกว่า Aerated Pond
    2. ระบบสระน้ำปลูกพืช Constructed Wetland เป็นระบบที่ให้น้ำเสียไหลผ่านพืชน้ำกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความสามารถในการดูดซึมของเสีย เมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งก็ปล่อยน้ำออกมา

การบำบัดน้ำเสียทั้งสองประเภทนี้ในโครงการหลวงได้มีตัวอย่างที่ดีที่ควรศึกษาดังนี้ แต่ละโครงการจะใช้ระบบที่ใช้พลังงานธรรมชาติเป็นหลัก

 

http://https://www.youtube.com/watch?v=OtLIOvbNtnI

อื่นๆ

เมนู