การทำนาอาชีพหลักของชุมชน

การประกอบอาชีพของชุมชน ชุมชนตำบลดอนกอก  อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ มีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น การรับราชการ รับจ้าง ทำสวน ปลูกผัก และทอผ้าไหม แต่คนในชุมชนยังคงยึดอาชีพการทำนา เป็นอาชีพหลัก ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าทุกวันนี้การทำอาชีพเสริม หรืออาชีพอื่น จะทำรายได้มากกว่าการทำนาก็ตาม การทำนาของชุมชนตำบลดอนกอกนี้ เราจะทำนาปี คือการนาแค่ปีล่ะหนึ่งครั้ง เนื่องมาจากการขาดแคลนแหล่งน้ำ ที่ใช้ทำนา  เราจึงต้องอาศัยการทำนาในฤดูฝนเท่านั้น เกษตรกรในชุมชนจะทำเพื่อบริโภคและแบ่งขายตามผลผลิตของแต่ล่ะปี  เกษตรการนิยมทำนาหว่านกันเป็นส่วนมาก โดยจะแบ่งเป็น 2 วิธีคือ

1.การทำนาหว่านข้าวแห้ง เป็นการหว่านเมล็ดข้าวแห้ง ในสภาพดินที่มีความชื้นอยู่บ้างไม่แห้งมาก เป็นการหว่านหลังจาก การไถแปร ครั้งสุดท้าย   แล้วหว่านข้าว ลงไปพร้อมไถกลบทันทีเนื่องจากพื้นดินมีความชื้นอยู่แล้ว การหว่านแบบนี้จะใช้เวลา 5-7 วันข้าวก็จะงอกขึ้นมา

       2.การทำนาหว่านข้าวงอก การหว่านน้ำตม การหว่านข้าววิธีนี้ จะนำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาแช่น้ำไว้ 3 คืนเพื่อเมล็ดข้าวมีรากงอกออกมา เราจึงนำมาหว่านในดินที่เปียกเป็นดินตม การหว่านข้าววิธีนี้เกษตรกรจะควบคุมอัตตราการงอกของข้าวได้เป็นอย่างดี เนื่องมีการเพาะเมล็ดไว้แล้วนั่นเอง การดูแลและการใส่ปุ๋ย เนื่องการทำนาต้องอาศัยฝน ไม่มีแหล่งน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ทำนาเกษตรจึงต้องหมั่นดูแลน้ำไม่ให้ขาด ดูแลเพื่อวัชพืชและแมลงศรัตตรูพืช การใส่ปุ๋ยเกษตรกรยังใช้ปุ๋ยเคมี แต่มีบางส่วนที่มันมาใช้ปุ๋ยคอกลดตุ้นทุนในการผลิตลงบ้า ส่วนการเก็บเกี่ยว เกษตรนิยมใช้รถเกี่ยว แทนการเกี่ยวมือเหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะความสะดวก และการเกี่ยวแบบเดิมต้องอาศัยแรงงานคน มีค่าจ้างและใช้เวลานาน เกษตรจึงหันมาใช้รถเกี่ยวข้าวแทน ซึ่งราคาก็ตกอยู่ที่ไร่ล่ะ  600 – 700 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ล่ะท้องที่ ส่วนราคาผลผลิตนั้น จะอยู่ที่ 900-1,200 บาทต่อตัน

อื่นๆ

เมนู