ข้าพเจ้า นางสำรวม ไกรพะเนาว์ ประเภท ประชาชน
ED05 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบล แบบบูรณาการ ๑ มหาวิทยาลัย ๑ ตำบล “มหาวิทยาลัย สู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ”

เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ โควิด-19 ที่มีการระบาดระลอกใหม่ ที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันและการทำงานของประชาชนทุกคน ข้าพเจ้าจึงอยากนำเสนอบทความของข้าพเจ้า เกี่ยวกับ “โควิดกับชีวิตชุมชน

ตามสถานการณ์ปัจจุบันก็ได้ทราบกันดีว่ามีโรคระบาดเกี่ยวกับเชื้อไข้หวัดที่เเพร่กระจายมาจากประเทศจีนเรียกว่า โรคโควิด-19 จีนแจ้งอนามัยโลกว่าเกิดการระบาดโรคนี้อย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่วันที่31 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยอาการของโรคนี้มีการดังนี้

1. มีไข้

2.ไอแห้ง

3.หายใจติดขัด

4.ปอดอักเสบ และถ้ามีอาการหนักอาจมีการล้มเหลวของอวัยวะอื่นๆร่วมด้วย

ผู้ป่วยโรคนี้อาการของแต่ละคนอาจไม่แสดงอาการเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน และมักมีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นวัยที่ขาดภูมิคุ้มกัน และกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคอ้วน ซึ่งอาจจะเสียชีวิตได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาวหรือกลุ่มผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว โดยผู้ชายจะเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิง

ระยะฟักตัวของโรคโควิด-19

เป็นช่วงที่ไวรัสพยายามเข้าไปอยู่ในร่างกาย ไวรัสชนิดต่างๆทำงานโดยการเข้าไปและยึดเซลล์ร่างกายไว้ ไวรัสโคโรน่าซึ่งมีชื่อเรียกว่า “sars-cov-2” สามารถเข้าสู่ร่างกายเมื่อคุณหายใจรับเชื้อเข้าไป หากมีคนติดเชื้อไอหรือจามใกล้ๆ เมื่อคุณไปจับบริเวณที่มีเชื้อติดอยู่ เชื้อจะเเพร่เข้าไปตามเซลล์ที่เยื่อบุคอ ท่อทางเดินหายใจและปอดก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโรงงานผลิตไวรัสโคโรน่า ที่แพร่กระจายไวรัสใหม่ไปติดเซลล์อื่นเพิ่มอีก ในช่วงนี้อาจมีอาการไข้ สำหรับบางคนอาจจะไม่แสดงอาการ ทุกภาคส่วนจึงระดมกัน ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม. ฝ่ายปกครอง ร่วมกันตั้งด่าน วัดอุณหภูมิ ใช้เจลล้างมือเวลาเข้าออกหมู่บ้าน แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย ก่อนและออกจากบ้านเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค กักตัวผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 14 วัน เพื่อดูอาการและเคาะประตูให้ความรู้ทั่วไปแก่คนในหมู่บ้าน ตำบล ให้รู้เท่าทันโรค และรู้จักป้องกัน คือการกินร้อน ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

           

 

โรคนี้สามารถทำลายได้ทั้งร่างกายและการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย เช่น ไม่สามารถค้าขาย หรือประกอบอาชีพได้ การปิดตลาด หรือห้างร้านค้าต่างๆ ก็ส่งผลต่อการหาอาหาร และยังส่งผลให้อาหารหรือสินค้าต่างๆมีราคาแพงขึ้นด้วย ซึ่งอาหารเป็น1ในปัจจัย4 ที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อเกิดโรคระบาด จึงเป็นที่มาของการต้องเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไว้เลี้ยงชีพ ในอนาคตถ้าเราไม่สามารถคุมโรคนี้ในเวลาที่เร่งด่วนได้ ก็จากจะนำมาสู่สภาวะขาดแคลนอาหาร ฉะนั้นการปลูกพืชผักไว้กินเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยได้ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านได้ทรงเล็งเห็นอนาคตมองการไกล ให้เรา พอมี พอกิน พอใช้ พออาศัย และแบ่งปัน เหมือนการยื่นเบ็ดตกปลาให้ประชาชน มิใช้ยื่นปลาให้แก่ประชาชน แต่จะสอนการจับปลาให้แก่ประชาชน เพื่อที่จะได้มีกินมีใช้ในอนาคต

                                   

หรือโครงการโคก หนอง นา โมเดล ที่มีการจัดสรรพื้นที่ว่างเปล่าที่มีอยู่ ปลูกต้นไม้และขุดคลองนำ้ เพื่อที่จะได้มีน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งและคลองน้ำยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์อื่นๆได้มากมาย เช่น เลี้ยงปลา ใช้รดน้ำต้นไม้ พืชผัก  และทำนาแบบอินทรีย์ เลี่ยงปุ๋ยเคมีและลดต้นทุนการผลิต ผลผลิตต่างๆก็จะได้กิน ได้ขาย ได้แจก นำมาซึ่งความสุขและความยั่งยืนของชุมชนนั้นๆ ทั้งยังได้ความรัก ความสามัคคี เอื้อเฟี้อแบ่งปัน และในอนาคตโครงการเหล่านี้ก็สามารถน้ำไปศึกษาต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจได้อีกด้วย

ส่วนการทำงานของข้าพเจ้านั้น ทางกลุ่มได้จัดให้มีการประชุมประจำเดือนออนไลน์ และมีการหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน มีการเเจ้งกำหนดการต่างๆ และได้ร่วมเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อที่จะใช้ในการปฏิบัติงานในเดือนหน้าต่อไป

 

วิดีโอการลงพื้นที่

 

อื่นๆ

เมนู