ข้าพเจ้า นางสาว ถาวรีย์ แก้ววิเศษ ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มนักศึกษา ตำบลหนองยายพิมพ์
หลักสูตรการส่งเสริมเเละพัฒนาการผลิตปุ๋ยอัดเม็ด HS01
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 16 : 00 น. มีการประชุมผ่านทาง Google meet โดยอาจารย์ พลอยไพลิน ศรีวิเศษ ได้แบ่งหน้าที่ให้กับกลุ่มปฏิบัติงานต่างๆ ภายในเดือนตุลาคม อาจารย์ได้มอบงานให้ แต่ละกลุ่มลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่เป็นแบบสอบถามและ ได้แบ่งออกเป็น 11 เป้าหมาย แต่ข้าพเจ้าได้รับหน้าที่ทำแบบสอบถาม ลูกจ้างโครงการแล้วนำข้อมูลมากรอกลงในระบบ
วันที่ 9 ตุลาคม 2564 เวลา 9 : 00 น. การจัดอบรมออกแบบบรรจุภัณฑ์ ณ ศาลากลางหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านหนองยายพิมพ์ ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ การเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ โดยวิทยากร ดร.สินีนาฏ รามฤทธิ์ จากสาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ และ สาขาศิลปะและการออกแบบคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จากการอบรมนั้นทำให้ได้รู้ขั้นตอนในการออกแบบว่าต้องเริ่มอย่างไร
เมื่ออบรมเสร็จแล้ว วิทยากรจึงให้ผู้ที่เข้าร่วมอบรม ได้มาเป็นส่วนร่วมในการออกแบบชื่อบรรจุภัณฑ์และได้ออกความคิดเห็นกันว่าจะเอาชื่ออะไรบ้างแล้วว่าโหลตกันว่าชี่อใดจะได้ผลโหลตมากที่สุด จนได้ชื่อแบรด์ (Brand) ว่า ” ปุ๋ยยายพิมพ์ ” แต่ส่วนของโลโก้ (Logo) จะเอาเอกลักษณ์ของรูปปั้นยายพิมพ์ ช่วงบ่ายอาจารย์ประจำหลักสูตร ได้ให้คำแนะนำการเขียนบทความและ การปฏิบัติงานของแต่ละกลุ่มที่ได้รับไป ว่าควรทำอย่างไรบ้าง
วันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 9 : 00 น. มีการลงพื้นที่เข้าร่วมโครงการการส่งเสริมอาชีพเกษตรผสมผสานเพื่อสร้างรายได้ครัวเรือนในรูปแบบโคกหนองนาโมเดลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้แนะนำเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเป็น 3 ด้าน มีดังนี้
ด้านเกษตร
1 .มีการปรับพื้นที่เป็น 3 ส่วนคือโคก-หนอง-นา เพื่อจัดสรรการท่าเกษตรขนาดย่อม ได้แก่ 1 ไร่และ 3 ไร่แบ่งสัดส่วนเป็น 3 แบบ ได้แก่ 1: 1 ,1: 2 และ 2: 3
2. มีการจัดการแก้ไขปัญหาสภาพดินโดยการปลูกพืชคลุมดินเพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะสม
3 .มีการปลูกไม้ยืนต้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยในด้านต่างๆเช่นต้นสักทองต้นยางนาต้นพยุงต้นมะฮอกกานีต้นไม้แดง
4 .มีการปลูกผักสวนครัวและผลไม้เพื่อการบริโภคและจําหน่าย ด้านเกษตรนั้น จะมีการเกษตรผสมผสานไปแล้ว 80 %
ด้านปศุสัตว์
1. มีการแบ่งพื้นที่อยู่ของสัตว์เลี้ยง เช่น วัวเป็ดไก่มีการเลี้ยงสัตว์โดยใช้อาหารที่สามารถผลิตเองได้ โดยมีการนำเอาข้าวโพดบดใบข้าวโพด มาทำเป็นอาหารสัตว์เพื่อความประหยัดต้นทุน
ด้านปศุสัตว์มีการเลี้ยงสัตว์ไปแล้ว30 %
ด้านประมง
1.มีการเลี้ยงพันธุ์ปลา เช่น ปลานิลปลาทับทิมปลาตะเพียน มีการเลี้ยงแหนแดงเพื่อไว้จําหน่าย
2.มีการกำจัดและบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้เหมาะแก่การเลี้ยงปลา ด้านประมงมีการเลี้ยงสัตว์น้ำไปแล้ว 50%
ปัญหาที่พบ
ปัญหาสภาพดินที่มีลักษณะเป็นดินแข็งมากกว่าดินร่วน เป็นดินที่มีกรวดแข็งจํานวนมาก ทําให้ปลูกพืชค่อนข้างยากปัญหาสภาพน้ำมีน้ำน้อยและ แห้งแล้งเนื่องจากฝนไม่ตก
ประโยชน์
จากการทำโคกหนองนาโมเดล เกิดการพึ่งพาตนเอง มีผลผลิตไว้บริโภคและ จำหน่ายทำให้มีรายได้เข้าครัวเรือน เกิดการพึ่งพากันเอง มีการสร้างเครือข่ายโคกหนองนาจำนวนหลายแปลง เพื่อแบ่งปันความรู้ในการทำโคกหนองนาโมเดลให้แก่กัน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการปฏิบัติตน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีการปรับพื้นที่นาของตัวเอง ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ คนรุ่นใหม่ก็สามารถนำปรัชญา 3 ด้านไปใช้ได้ เพราะจะเป็นการสืบสารต่อไปอีกในอนาคตได้