อบรมการทำน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพ
ขึ้นชื่อว่าน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพย่อมเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทุกวันนี้ผู้คนหันมาสนใจรักสุขภาพตัวเองกันมากขึ้นดังนั้นก็ย่อมที่จะรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เสมอ นอกจากอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ก็กำลังเป็นที่นิยมอยู่กันในขณะนี้รวมไปถึงน้ำผลไม้ต่างๆที่นิยมนำมาหมักเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารมากขึ้น
ในการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการ U2T ประจำเดือนธันวาคมนอกจากจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์แล้วทางทีมดำเนินงานและทางตำบลยังได้มีการจัดอบรมเกี่ยวกับการทำน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพอีกด้วย ครั้งนี้ได้โดยเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ในการทำน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยได้ให้ความรู้ในส่วนของขั้นตอนการทำการเตรียมวัสดุอุปกรณ์วิธีการกระบวนการต่างๆในการทำน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพ ก่อนอื่นให้เราเตรียมผลไม้ที่มีสภาพสมบูรณ์ไม่สุกจนเกินไปเน้นรสชาติที่มีรสออกเปรี้ยวเพื่อที่น้ำหมักจะได้มีความอร่อยยิ่งขึ้น ให้เราผลไม้มาล้างน้ำให้สะอาดแล้วคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นให้เอาน้ำผลไม้ที่คั้นได้มาผสมกับหัวเชื้อที่ได้เตรียมไว้ซึ่งก็คือหัวเชื้อยีสต์ แล้วไปบรรจุลงในขวดโหลที่เตรียมไว้สำหรับการหมัก ให้ปิดปากฝาไว้โดยให้ผ้าขาวบางคลุมปากโหลไว้แล้วมัดให้แน่นกันสิ่งแปลกปลอมเข้าได้ การหมักไม่จำเป็นต้องปิดปากโหลให้สนิทควรให้มีอากาศเข้า สามารถถ่ายเทได้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ ใช้เวลาประมาณ 3 วันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เราจะทิ้งไว้ในระยะเวลา 7 วันน้ำหมักถึงจะได้ที่ ให้เราคอยสังเกตขวดโหลที่เราหมักไว้อยู่เสมอ ในส่วนของภาชนะที่ใช้หมัก วิทยากรได้แนะนำว่าให้เป็นขวดโหลแก้วที่ผ่านการทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนจะได้ไม่มีสิ่งใดมาปนเปื้อนกับน้ำหมักของเรา เมื่อน้ำหมักได้ที่แล้วให้เราชิมรสชาติ น้ำหมักที่ทำรสชาติและกลิ่นจะออกเป็นแอลกอฮอล์ จะมีรสชาติที่ถูกปากสามารถดื่มได้ปกติ เป็นรสชาติที่อร่อย ยิ่งเราแช่ไว้ในตู้เย็นจะทำให้น้ำหมักผลไม้ของเรามีความสดชื่นยิ่งขึ้น
น้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพเราสามารถทำได้เอง สะดวกและอุปกรณ์การทำก็มีไม่มากดื่มแล้วยังได้สุขภาพที่ดีแถมยังช่วยในระบบขับถ่ายช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เป็นประโยชน์มากๆต่อผู้คนที่รักสุขภาพอย่างเราเป็นอย่างยิ่ง
การลงพื้นที่เก็บข้อมูลกลุ่มผู้เปราะบาง
การลงพื้นที่เก็บข้อมูลกลุ่มผู้เปราะบาง ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่7และหมู่10 ตำบลถาวรอำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดบุรีรัมย์โดยเข้าพบผู้นำหมู่บ้านเพื่อแจ้งรายละเอียดสอบถามข้อมูลเบื้องต้นและขออนุญาตลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากนั้นจึงเข้าไปเก็บข้อมูลกับกลุ่มผู้เปาะบาง เมื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูลแต่ละหลังคาเรือนต้องแจ้งจุดประสงค์และรายละเอียดให้ครัวเรือนนั้นทราบก่อนจึงจะสามารถทำการเก็บข้อมูลได้ ในการเก็บข้อมูลต้องได้รับการยินยอมจากผู้ที่จะให้ข้อมมูลก่อนทุกครั้งเราถึงจะสามารถเริ่มทำการเก็บข้อมูลได้ จากการเก็บข้อมูลในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านเป็นอย่างดีจึงสามารถทำการเก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วนตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้