การลงพื้นที่ปฏิบัติงานประจำเดือน เมษายน เป็นการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในการทำวิดีโอของตำบลและได้ไปศึกษาดูวิธีการ ทำผ้าภูอัคนีหรือผ้าย้อมดินผูเขาไฟ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่โด่ดเด่นของตำบลเจริญสุข โดยมีคุณแม่สำรวย ศรีมะเรือง ประธานกลุ่มสตรีทอผ้าไหมผ้าฝ้าย ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้ให้ความรู้ในครั้งนี้
คุณแม่สำรวยเล่าว่า ผ้าภูอัคนีหรือผ้าย้อมดินภูเขาไฟ เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านเจริญสุขเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วโดยคุณแม่สำรวย ได้ทดลองนำเอาดินภูเขาไฟจากภูเขาพระอังคารที่ดับสนิทแล้วมาเป็นวัตถุดิบในการย้อมเส้นฝ้ายและไหม โดยครั้งแรกสียังไม่ค่อยติดทน เมื่อนำไปซักแล้วสีตกซีดไม่สวยจึงทดลองเอาผ้าฝ้ายที่ย้อมแล้วไปต้มกับเปลือกไม้ประดู่ซึ่งให้สีน้ำตาลคล้ายๆกัน ปรากฏว่าได้สีสันที่สวยงามและติดทนนานขึ้น ปัจจุบันคุณแม่สำรวยต่อยอดด้วยการนำเอาสมุนไพรจากธรรมชาติมาทดลองย้อมควบคู่กับดินภูเขาไฟทำให้ได้เส้นใยที่มีสีสันสวยงามมากยิ่งขึ้น เช่นเปลือกมะพูดให้สีเหลือง เปลือกสะเดาและเปลือกกระโดนให้สีโอรส น้ำตาล ดอกอัญชันให้สีครามเปลือกเงาะให้สีชมพูอ่อนเ ปลือกมะขามให้สีดำ เป็นต้น
โดยผ้าภูอัคนีมีขั้นตอนการทำดังนี้ เริ่มจากนำดินจากเขาพระอังคารมาร่อนทำความสะอาดนำมาผสมกับน้ำธรรมชาติ เช่นน้ำฝนหรือน้ำที่ใช้แช่เปลือกประดู่ กวนให้เข้ากัน นำเส้นฝ้ายหรือไหมลงไปหมักโคลนประมาณ 4 ชั่วโมง นำขึ้นมาบีบน้ำพอหมาดแล้วนำไปต้มในน้ำเปลือกประดู่ประมาณ 40 นาทีเคี่ยวให้เส้นฝ้ายซึมซับน้ำเต็มที่ น้ำประดู่จะเป็นตัวเชื่อมสีของดินกับเส้นฝ้ายให้ติดทนนานขึ้น จากนั้นนำขึ้นมาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการทอผ้า ลวดลายที่ชาวบ้านนิยมทอ เช่น ลายสายฝน ลายสไลด์ลายตะแกรง ลายเส้นเล็กๆสานกัน คุณแม่สำรวยยังได้นำผ้าขาวม้ามาทอเป็นผ้าภูอัคนีสีหวานสำหรับตัดเสื้อด้วย นอกจากลายดั้งเดิมแล้วยังได้หน่วยงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เข้ามาช่วยพัฒนารูปแบบและ ททท.สำนักงานสุรินทร์ เข้ามาช่วยดูแลเรื่องประชาสัมพันธ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเหมาะเป็นของฝากของขวัญอีกด้วย
ผ้าภูอัคนีมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ ผ้าที่ถูกย้อมด้วยดินภูเขาไฟจนมีสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลแดง เนื้อผ้านุ่มเบา เย็นสบาย สีคงทน และในทุกๆขั้นตอนจะใช้วัสดุธรรมชาติในการย้อมผ้าภูอัคนี