เขียนโดย : นางสาวยมาภรณ์ เอมโอช ( ภาคนักศึกษา )
เจ้าหน้าที่ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
เรื่อง : สรรพคุณของมะขามป้อม
ตำบลเจริญสุขเป็นตำบลเล็กๆ ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือทำการเกษตร ปลูกพืชสวนพืชไร่ เพื่อไว้อุปโภคบริโภคและจำหน่ายแลกเปลี่ยน เช่นการทำนาข้าว การปลูกอ้อย การทำสวนผลไม้ไม่ว่าจะเป็นสวนลำไย สวนฝรั่ง สวนกล้วย และยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ทำการเพาะปลูกสมุนไพรอย่างมะขามป้อม ซึ้งมะขามป้อมในพื้นที่ตำบลเจริญสุขจะมีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ดินในพื้นทีมีลักษณะดินเป็นดินลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟจึงมีความอุดมสมบูรณ์ มะขามป้อมเป็นพืชตระกูลไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นไม่ใหญ่และสูงมาก โดยเนื้อภายในของมะขามป้อมมีรสอมเปรี้ยวอมฝาดและขมที่ปลายลิ้นเล็กน้อย นิยมออกดอกและผลในช่วงหน้าหนาว พฤศจิกายนถึงปลายมกราคม และยังเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศได้ดีมากพอสมควร และทราบหรือไม่ว่ามะขามป้อมมีสรรพคุณมากมายกว่าที่เราคิด
สรรพคุณ มะขามป้อมและประโยชน์
มะขามป้อม มีสรรพคุณเป็นยา ที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศอินเดีย ที่เชื่อว่าเป็นถิ่นกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้ โดยสำหรับประเทศไทยแล้วมีการตีแผ่งานวิจัย ที่ยืนยันว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้สมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณเป็นยาต้านและป้องกันโรคหลายชนิด เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี3 แคลเซียม ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และเด่นที่สุดคือวิตามินซี เรียกได้ว่า มะขามป้อมเล็ก ๆ เพียง 1 ลูกมีปริมาณวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลและส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว และด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ ทำให้มะขามป้อมมีสรรพคุณและมีประโยชน์ที่น่าสนใจ ดังนี้
มะขามป้อมป้องกันไข้หวัด
ด้วยสรรพคุณ มะขามป้อม ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง มะขามป้อมจึงเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ป้องกันและแก้ไอ-ไข้หวัดได้เป็นอย่างดี โดยชาวบ้านนิยมนำผลของมะขามป้อมมาคั้นน้ำสด ดื่มวันละ 1-2 ช้อนชา ปริมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการไอ และไข้หวัดเนื่องจากอากาศเปลี่ยนได้ เพราะน้ำมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นธาตุเย็น จึงช่วยระบายความร้อนในร่างกาย พร้อมช่วยละลายเสมหะ บำรุงเสียง ทำให้ชุ่มคอและลดอาการระคายเคืองจากการไอได้เป็นอย่างดี
มะขามป้อมบำรุงผิวและผม
เพราะวิตามินซีที่สูงและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้นิยมรับประทานมะขามป้อมวันละ 2-3 ผลทุก ๆ วัน เพื่อบำรุงผิวพรรณจากภายใน และนิยมนำผลมาฝานบาง ๆ ผสมน้ำและนำมาทาหน้าเพื่อทำให้หน้าขาวใส ไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำ และด้วยสรรพคุณการชะล้างอ่อน ๆ มะขามป้อมจึงนิยมนำมาทำเป็นยาสระผมสำหรับชาวอินเดีย พร้อมใช้น้ำที่แช่ผลมะขามป้อมมาข้ามคืน เป็นน้ำสุดท้ายในขั้นตอนการสระผม
มะขามป้อมป้องกันมะเร็ง
การรักษาโรคมะเร็งบางชนิด อย่างมะเร็งตับ หรือโรคตับอักเสบ เพราะรสฝาดของมะขามป้อมมีส่วนผสมของกรดแกลลิคและสารแทนนิน ร่วมด้วยวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก จึงอาจมีส่วนสำคัญในการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้เจริญเติบโต กระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลือง และเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โทษของมะขามป้อมและข้อควรระวัง
สรรพคุณเป็นธาตุเย็น ทำให้การรับประทานมะขามป้อมควรอยู่ในปริมาณพอเหมาะ ไม่ควรกินต่อเนื่องมากเกินไป และควรระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเลือดจาง เลือดเหลว หรือผู้ที่มีปัญหาในกระเพาะเรื้อรังและมีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องเสียง่าย เพราะมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ คล้ายสับปะรด นอกจากนี้หากรับประทานเพื่อเป็นพืชสมุนไพรทางเลือกในการรักษาโรค อย่างโรคมะเร็ง หรือควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อรับประทานทุกครั้ง
แหล่งอ้างอิง
https://shopee.co.th/blog/indian-gooseberry-health-benefits/