บทความ

ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2564

เรื่อง สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3

          ท่ามกลางสถานการณ์ประเทศไทยกำลังเผชิญการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 กระจายออกไปครบทุกจังหวัดอย่างหนักหน่วงกว่าที่เคยเจอมาผู้ติดเชื้อครอบคลุมทุกเพศทุกวัยสูงขึ้นทวีคูณ สาเหตุเป็นเช่นนี้เชื่อว่าเป็นการระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ สามารถกระจายได้เร็วมากยิ่งกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ทั้งในเมืองก็คงเคลื่อนย้ายออกจากบ้านตะลอนท่องเที่ยว พบปะสังสรรค์ไปมาหาสู่ทำธุระปะปังเสมือนปกติอยู่มากมายอันเกิดจากประชาชนใช้ชีวิตสะดวกยิ่งขึ้น แต่ไม่อาจปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเคร่งครัดเพียงพอ จนเข้าปะปนสัมผัสผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำกว่าจะรู้ตัวติดเชื้อก็ลุกลามออกไปเป็นวงกว้างมากแล้ว กลายเป็นติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน นำเชื้อโรคเข้าสู่คนในครอบครัวทำให้มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงหลักพันคนต่อวัน อย่างเช่น อินเดียมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3 แสนคนต่อวัน ประเทศยุโรปยกเว้น อังกฤษและอเมริกาใต้ก็ระบาดหนัก ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ อังกฤษ อิสราเอล กลับมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดอันมาจากการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังปรับนโยบายบริหารจัดการต่อสู้โควิด-19 สามารถคุมโรคระบาดได้ดียิ่งขึ้น จริงๆแล้ว ประสิทธิภาพวัคซีนใช้อยู่ทั่วโลกตามหลักการต้องป้องกันเชื้อไวรัสได้ดี และไม่ให้มีการเจ็บป่วยเกิดขึ้น แยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก “คุณสมบัติป้องกันเจ็บป่วย” บางชนิดคุณภาพสูง 70-90% ตามหลักฐานทางวิชาการชัดเจน เช่น วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตราเซเนกา จอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน บางยี่ห้อประสิทธิภาพ 50-60% เช่น วัคซีนซิโนแวค ตามชุดข้อมูลป้องกันเจ็บป่วย 56-67% ส่วนที่สอง “ป้องกันติดเชื้อแพร่เชื้อ” ต้องอาศัยหลักฐานการฉีดในวงกว้างเป็นองค์ประกอบของประสิทธิภาพป้องกันได้จริง เช่น วัคซีนไฟเซอร์ ที่ใช้ใน อังกฤษ อิสราเอล มีผู้รับวัคซีนแล้วป้องกันการติดเชื้อได้ ในส่วน แอสตราเซเนกาข้อมูลใช้จริงกำลังรวบรวมไม่นานมากนักแต่เห็นแนวโน้มการใช้ในอังกฤษที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเช่นกัน นั่นหมายถึงว่าวัคซีนชนิดนี้น่าจะมีประสิทธิภาพป้องกันได้ดีด้วย แต่ว่า สหรัฐฯ ก็ใช้วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็มีผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเช่นกัน  

          แม้สถานการณ์โควิด 19 ยังคงกลับมาระบาดในระลอกที่ 3 แต่ชาว U2T ยังคงเดินหน้าทำภารกิจสู้ภัยโควิดในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ดังผลการดำเนินงานที่เห็นผลเชิงประจักษ์ ในรูปแบบการขับเคลื่อนกิจกรรม “U2T ก้าวต่อไป สู้ภัยโควิด Covid-19 Week”  ที่คณะทำงานทุกส่วนฝ่ายได้ขับเคลื่อนทั้งในเชิงรูปแบบออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวประชาสัมพันธ์ หรือการปฏิบัติการเชิงรุก ในพื้นที่ชุมชนตำบลเจริญสุข โดยการดำเนินการครั้งนี้ ได้ดำเนินการภายใต้กิจกรรม 2 กิจกรรมหลัก คือ “กิจกรรมรุกคลีนพื้นที่เคลียร์เชื้อร้าย สร้างความปลอยภัยในชุมชน” และ “กิจกรรมรวมพลังฉีดวัคซีน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ลดการระบาด” โดยทั้ง 2 กิจกรรมหลักนั้น ได้มีกิจกรรมย่อยที่จัดทำเป็นขั้นตอน  5 Step คือ Stepที่ 1 กิจกรรมคลีนพื้นที่เคลียร์เชื้อร้าย Stepที่ 2 กิจกรรมสร้างเขตปลอดภัยจากโควิด19 กิจกรรม Stepที่ 3 การจัดหาเครื่องมือรับมือภัยโควิด19 ผนวกรวมกับกิจกรรมStepที่ 4 คือ การสอนทำอุปกรณ์ป้องกันโควิด19 และสุดท้าย Stepที่ 5 การรณรงค์ป้องกันและการฉีดวัคซีน  จากผลการดำเนินงานปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ ทั้ง 5 Step นั้น ทำให้เกิดการตระหนักรู้แต่ไม่ตระหนกในเชื้อไวรัสโควิด 19 สร้างเกราะคุ้มกันให้กับชุมชนตำบลเจริญสุข และตอบโจทย์ กิจกรรม U2T ก้าวต่อไป สู้ภัยโควิด Covid-19 Week ” อย่างแท้จริง  ฝากไว้ว่า วิกฤติระลอก 3 หนักหนาสาหัสกว่าครั้งใดๆ ต้องอาศัยความร่วมมือคนไทย เพื่อลดการระบาดโดยเร็ว เชื่อมั่นว่าแรงของพวกเราจะทำให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ไปด้วยกันได้.

แหล่งอ้างอิง

ไทยรัฐออนไลน์.(2564).โควิดระลอก 3 หนักหน่วง เสี่ยงแพร่ง่ายเสียชีวิตเร็ว.สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2564,จากเว็ปไซต์ https://www.thairath.co.th/news/local/2083736

อื่นๆ

เมนู