ข้าพเจ้า นางสาววิลาวัลย์ โกเมน ประเภทประชาชน เป็นผู้ปฏิบัติงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณการ 1 ตำบล 1 มหาลัย “มหาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ” ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ หลักสูตร(HS02)
ในวันที่ 20 มิถุนายน 2564 ข้าพเจ้า ทีมผู้ปฏิบัติงานและอาจารย์ประจำหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณการ 1 ตำบล 1 มหาลัย “มหาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ”หรือ U2T ร่วมมือกับ อบต.หนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดกิจกรรมอบรม Health Care รณรงค์ป้องกันโควิด-19 โดยจัดกิจกรรมเดินรณรงค์รอบๆ หมู่บ้าน ตำบลหนองโสน ให้ความรู้เรื่องไวรัสโคโรนา (Covid-19) อาการแสดงและวิธีป้องกันการติดเชื้อ การล้างมือให้ถูกวิธี การใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีและนำเจลแอลกอฮอล์เพื่อนำไปแจกให้กับชาวบ้าน เชิญชวนให้ชาวบ้านฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตอนนี้ทำให้ผู้คนเกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลก มีการปิดเมือง ปิดประเทศ เพื่อป้องกันการกระจายของโรค ทำให้ผู้คนไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าอยู่ในที่มีผู้คนแออัด และคอยติดตามข้าวสารเพื่ออัพเดทการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ซึ่งข้อมูลที่ได้รับนั้นก็มีทั้งจริงและปลอมปะปนกันหรือบางข้อมูลที่เคยยึดถือเป็นแนวทางในการป้องกันเชื้อก็อาจต้องปรับเปลี่ยนให้กับสถานการณ์ขึ้น ดั้งนั้นก่อนทุกอย่างจะสายเกินไปเราอยากให้ทุกคนป้องกันตัวเอง ทั้งคนรอบข้างให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้านและล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แออัด และมีผู้คนจำนวนมาก
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ข้าพเจ้า ทีมผู้ปฏิบัติงานและอาจารย์ประจำหลักสูตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอนางรอง นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต) ฝึกซ้อมกระบวนการหน้าเสาธง 5 ขั้นตอน
- กล่าวคำปฏิญาณตน
- เชิญธงชาติ
- ปฏิบัติศาสนกิจ
- ยืนสงบนิ่ง
- การตอกย้ำอุดมการณ์
เพื่อเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบโคก หนองนา โมเดล ณ บริเวณหน้าเสาธงแปลงของนายบุญลือ นวลปักษี บ้านบุคราม หมู่ที่ 11 หลังจากทำพิธีเสร็จร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้ หลังจากปลูกต้นไม้จากแปลงของนายบุญลือ นวลปักษี เสร็จแล้วก็ตามมาด้วยการร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้ภายใต้โคก หนองนา โมเดล ของนายจุล ชื่นชู และนายมีชัย หรบรรพ์ บ้านโคกหว่าน หมู่ที่ 1 ตำบลหนองโสน ทำกิจกรรมเสร็จอาจารย์ทำการนัดหมายให้มาศึกษาโคก หนองนา โมเดล อีกครั้งวันที่ 28 มิถุนายน 2564
“โคก หนองนา โมเดล” จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนมีเศรษฐกิจรากที่มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ ถือได้ว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของประเทศชาติ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการน้ำและพื้นที่การเกษตร โดยมีการผสมผสานภูมิปัญญาพื้นบ้านให้สอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ โคกหนองนา จึงเป็นแนวทางทำเกษตรอินทรีย์และสร้างชีวิตยั่งยืนจัดสรรธรรมชาติอย่างสมดุล โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 30:30:30:10 โคก คือคันนาเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการปลูกพืชต่างๆ การขุดหนองน้ำไม่เพียงเป็นประโยชน์ในการกักเก็บน้ำเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวโยงกับการทำโคกอีกด้วย เพราะคันที่ได้นั้นจะนำไปถมเป็นที่อยู่อาศัยและการเพาะปลูก ตลอดจนเลี้ยงสัตว์ต่างๆ ทั้ง วัว ควาย หมู เป็ด และไก่ ส่วนโคกอีกส่วนหนึ่งต้องแบ่งเพื่อปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ เป็นการใช้สอยประโยชน์จากพื้นที่ในสัดส่วนโคกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล สืบสานศาสตร์พระราชา เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ต่างๆ ใช่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกว่าจะสำเร็จลุล่วงก็ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจากหลายภาคส่วน ที่ทำโคกหนองนาโมเดลมีทั้งหมด 3 ไร่ เป็นการทำเกษตรในพื้นที่ขนาดจำกัดหรือขนาดเล็ก เป็นการกักเก็บน้ำไว้ทั้งบนดิน(ด้วยหนองคลองใส้ไก่ และคันนา) และใต้ดิน (ด้วยป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง) ตามแนวพระราชดำริของในหลวง ร.9 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน
และในวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ข้าพเจ้าและทีมผู้ปฏิบัติงานประเภทประชาชนได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมตามแบบฟอร์ม 06 (สำรวจเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่) โดยข้อมูลในแบบสำรวจอ้างอิงตามแนวทางปฏิบัติของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารสุข คือ สำหรับที่พักอาศัย ตลาด ศาสนสถาน และโรงเรียน ของตำบลหนองโสนทั้ง 3 หมู่บ้านที่รับผิดชอบ บ้านโคกสูง บ้านโคกน้อย และบ้านระนามพลวง กรณีที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้มารายงานตัว ณ พื้นที่กักตัวของตำบลหนองโสน โดยต้องกักตัว 14 วันกอ่นเข้าหมู่บ้าน การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะเกิดการระบาดของโรคระบาดโควิด 19 แต่เราป้องกันโดยสวมหน้ากากอนามัยและพกแจลล้างมือเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและชาวบ้านในชุมชน ชาวบ้านในชุมชนให้ความร่วมมือดีมาก