ข้าพเจ้า นางสาวอำพร รัตนาธิวัด ประเภทประชาชน ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณการ 1 ตำบล 1 มหาลัย “มหาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ”  หลักสูตร(HS02)โคกหนองนาโมเดลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อขจัดปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนโดยข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานมีดังต่อไปนี้

วันพุธ ที่ 21 กรกฎาคม 2564 อาจารย์ประจำหลักสูตร ข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงานได้ลงพื้นที่ในการปลูกต้นไม้ที่โรงเรียนพิมพ์รัฐประชาสรรค์ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่ข้างๆ อบต.หนองยายพิมพ์ในเวลา 09.00น.ในการปฏิบัติงานครั้งนี้ร่วมกับตำบลหนองกง ตำบลหนองยายพิมพ์ ตำบลหนองโสน ก่อนที่จะทำการปลูกต้นไม้ทางโรงเรียนได้ให้ผู้ร่วมงานเข้าไปนั่งที่หอประชุม โดยนั่งเว้นระยะห่าง เพื่อได้พูดคุยเรื่องงานในวันนี้โดยมี พระครูวิสุทธิพัฒนาภิรม ทองใส คเวสโก พระสังฆาธิการ เจ้าอาวาสวัดตาไก้พลวง นายกเกรียงศักดิ์ แผ้วพลสง นายกอบต.หนองโสน นายบุญทัน ห้าวหาญ กำนันตำบลหนองโสน นายเสฏฐศิษฎ์ วัฒนภักดีกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนพิมพ์รัฐประชาสรรค์ จากนั้นก็ต่างพากันแยกย้ายไปยังบริเวณปลูกต้นไม้ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 4 ไร่ ต้นไม้ที่ปลูกได้แก่ ต้นสัก ต้นยางนา ต้นเต็ง เป็นต้น การปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ได้อาศัยแรงกาย แรงใจ จากผู้ปฏิบัติงาน และชาวบ้านทุกๆ คน ที่ได้มาช่วยกันปลูกต้นไม้ จนสำเร็จและลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดี

เวลา 12.00น. รับประทานอาหารกลางวันโดยวันนี้ได้มีโรงทาน ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว น้ำส้มเกร็ดหิมะ ลูกชิ้นทอด ส้มตำ ขนมจีน น้ำมะพร้าว ไอศกรีม แต่ทุกคนต้องนั่งรับประทานอาหารโดยเว้นระยะห่างกัน รับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ต่างพากันแยกย้ายกลับบ้าน

วันเสาร์ ที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.40น. อาจารย์ประจำหลักสูตรแจ้งผู้ปฏิบัติงานทุกท่านประชุมผ่าน Microsoft Teams ผ่านสมาร์ทโฟน การประชุมเพื่อรับฟังการแนะนำวิธีการเขียนรายงานการปฏิบัติงานประจำเดือนเพื่อประโยชน์ในการเขียนรายงานครั้งถัดไป

วันศุกร์ ที่ 30 กรกฎาคม 2564 อาจารย์ประจำหลักสูตร ข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงาน ได้ลงพื้นที่ทำความสะอาด ที่วัดหนองโสน ณ เวลา 09.00น. โดยผู้ปฏิบัติงานทุกท่านต้องผ่านการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ตรงที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยมีนายกเกรียงศักดิ์ แผ้วพลสง ได้มาพูดคุยกับผู้ปฏิบัติงาน U2T ท่านนายกได้บอกว่าวัดหนองโสนแห่งนี้ได้จัดเป็นสถานที่ไว้ให้กับผู้ที่กลับมาจากต่างจังหวัด เพื่อที่จะได้มากักตัวในบริเวณวัดแห่งนี้ เพื่อให้มีการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปได้ด้วยดี โดยจะมีเชือกสีแดงล้อมไว้ สำหรับผู้กักตัว คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปไม่ได้ และจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลา มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นระยะในบริเวณรอบภายในวัด ซึ่งข้าพเจ้าจะสังเกตเห็นว่ามีการบริจาคสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ข้าวสาร ปลากระป๋อง นม ขนม มาม่า ไข่ และอื่นๆ อีกมากมาย จากผู้ใจบุญที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จึงทำให้รู้ว่าคนไทยเราไม่ทิ้งกัน จากนั้นท่านนายกมอบหมายให้ภรรยาผู้ใหญ่มิตร บุญเต็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหนองโสน ได้มาชี้แจงงานในวันนี้ และทางอาจารย์ประจำหลักสูตรได้ซื้อไม้กวาดทางมะพร้าว ไม้กวาดพื้น แปรงขัดห้องน้ำ น้ำยาล้างห้องน้ำ ที่ตักขยะ นำมามอบให้แก่ทางวัดหนองโสน โดยเริ่มจากการทำความสะอาดภายในบริเวณในโบสถ์ และรอบโบสถ์ ซึ่งข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงานได้เข้าไปกวาดฝุ่น ขี้นกพิราบ ภายในโบสถ์ และบางส่วนก็ได้ทำความสะอาดข้างนอกโบสถ์ จากนั้นก็มาปัดกวาดใกล้ศาลาวัด กวาดบริเวณโรงครัวเพราะมีเศษใบไม้ปลิวเข้าไปเป็นจำนวนมาก เสร็จแล้วข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงานก็ได้ช่วยกันล้างถ้วย ล้างชาม เพื่อที่จะเตรียมเลี้ยงเพลพระ บางส่วนก็ได้ขึ้นไปบนศาลาเพื่อเตรียมอาหารถวายเพลพระ

เวลา 11.00น.ถวายเพลพระแด่พระภิกษุสงฆ์ 5 รูป ร่วมด้วยอาจารย์ชมพู อาจารย์ศุภกิจ อาจารย์สมยงค์ นายกเกรียงศักดิ์ ปลัดกรุณา และผู้ปฏิบัติงาน U2T ทุกท่าน ร่วมถวายเพลในครั้งนี้ด้วยเสร็จแล้วแยกย้ายกันกลับ

วันจันทร์ ที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00น. อาจารย์ประจำหลักุตรได้ให้ผู้ปฏิบัติงานลงพื้นที่ช่วยกันขุดหลุมเตรียมปลุกต้นไม้ที่จะจัดงานขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ได้แก่ ประชาชน 4 คน บัณฑิต 4 คน รวมกันทั้งหมด 8 คน ได้นัดพบรวมกันที่บริเวณคลองโนนตะโก ใกล้ถึงศูณย์การเรียนรู้บ้านโคกว่าน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานได้นำเอาจอบและเสียมไปด้วย การขุดหลุมในวันนี้ได้มีพระภิกษุสงฆ์  ร่วมกับชาวบ้านมาช่วยกันขุดซึ่งระยะทางในการขุดหลุมประมาณ 2 กิโลเมตร โดยวันนี้จะขุดแค่ฝั่งเดียวก่อน ขุดฝั่งทิศตะวันออกของคลองน้ำ ซึ่งก่อนขุดจะมีรถไถใหญ่พรวนดินให้ก่อน เพราะดินเดิมมีสภาพที่แข็งไม่สามารถขุดได้ ขุดหลุมแต่ละหลุมห่างกัน 1×1 เมตร ลึก 30-40 เซนติเมตร แล้วนำไม้ไผ่ที่ผ่าเป็นซีกประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร มาปักไว้ข้างหลุม เพื่อจะได้เป็นแถวตรงกันอย่างสวยงาม เสร็จแล้วรับประทานอาหารร่วมกัน เมนูในวันนี้ คือ ส้มตำ ไก่ทอด ข้าวเหนียว ข้าวเม่า

วันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00น. อาจารย์ประจำหลักสูตร ข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณคลองโนนตะโก บ้านโคกว่าน ตำบลหนองโสน และร่วมด้วยกลุ่มรักษ์นางรองสีเขียวยั่งยืน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอำเภอนางรอง และศูนย์ประสานงานชุมชนสัมพันธ์ HUSOC มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยมีท่านพระครูวิสุทธิพัฒนาภิรม เจ้าอาวาสวัดตาไก้พลวง นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง นายไตรเทพ งามกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ นายเกรียงศักดิ์ แผ้วพลสง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน นางกรุณา สวัสดิ์สิงห์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน นายเปลื้อง แผ้วพลสง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยายพิมพ์ นางสาวบังอร ยินดีชาติ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกง นายเดช สวัสดิ์พูน กำนันตำบลหนองยายพิมพ์ นางสาวจตุพร ศรชัย กำนันตำบลหนองกง ผศ.ดร อัครพนธ์ เนื้อไม้หอม คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ การปลูกต้นไม้ในครั้งนี้เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้มีพื้นที่สีเขียวทั่วบริเวณที่ปลูก ส่วนต้นไม้ที่นำมาปลูก จะมีต้นสัก ต้นพะยูง หญ้าแฝก ต้นยางนา ต้นมะฮอกกานี ซึ่งจะปลูกไปจนสุดริมฝั่งคลองประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้ง 2 ฝั่งคลอง ข้าพเจ้าจะยกตัวอย่างต้นมะฮอกกานี หากพูดถึงต้นไม้ ที่มีชื่อว่า มะออกกานีเชื่อว่าหลายคนต้องสงสัยและไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่ถ้าหากทุกคนได้ทราบข้อมูล ก็จะเข้าใจลักษณะโดยทั่วไป ของต้นมะออกกานี หลายคนต้องร้อง อ๋อ ขึ้นมาทันทีเพราะอาจจะเคยเห็นต้นไม้ชนิดนี้มาบ้างแล้ว ซึ่งจะปลุกตามฝั่ง 2 ข้างทาง ริมฝั่งถนน หรือปลูกไว้ตามบ้านเรือน โดยในวันนี้ข้าพเจ้า จะมาให้ข้อมูลหรือสาระสำคัญเกี่ยวกับต้นมะออกกานีว่าน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลยจ้า

ชื่อวิทยาศาสตร์มะฮอกกานีใบใหญ่  swietenia macrophylla King

ชื่อวงศ์ :  MELIACEAE

ชื่อสามัญ : Bay wood,  Honduras mahogany

ชื่อวิทยาศาสตร์มะฮอกกานีใบเล็ก  swietenia macrophylla (L.) Jacq.

ชื่อวงศ์ : MELIACEAE ชื่อสามัญ Dominican mahogany

ลักษณะทั่วไป

ลักษณะทรงพุ่มของมะฮอกกานีใบใหญ่จะเป็นทรงกระบอก ใช้เวลานานกว่าที่กิ่งก้านจะแผ่พุ่มกว้างออกไป  โตเต็มที่จะสูงได้ถึง 15-20เมตร  ขนาดของทรงพุ่มกว้างประมาณ 4-6 เมตร ลำต้น เป็นสีน้ำตาลเข้มปนดำ เปลือกลำต้นหยาบ

ส่วนมะฮอกกานีใบเล็ก ทรงพุ่มเป็นวงรีหรือรูปไข่ สวยงามกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของทรงพุ่ม อยู่ที่ประมาณ 5-6เมตร ระยะห่างจากหลุมปลูกถึงตัวบ้านอย่างน้อยๆ ก็ควรจะมีถึง 7 เมตร  ต้นมะฮอกกานีใบเล็กโตเต็ม 15-18เมตร  เตี้ยกว่ามะฮอกกานีใบใหญ่เล็กน้อย  ลำต้นเป็นสีน้ำตาลเข้มปนดำ แต่ผิวเปลือกจะละเอียด เนียนกว่ามะฮอกกานีใบใหญ่

ใบ ดอก  มะฮอกกานีใบใหญ่ ใบจะใหญ่กว่ามะฮอกกานีใบเล็กประมาณ 1เท่าตัว  หลังใบสีเขียวเข้ม เป็นมัน ส่วนท้องใบสีเขียวอ่อน ไม่มีฤดูผลัดใบ หรือใบร่วงโกร๋นจนหมด

ดอก หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า มะฮอกกานีมีดอก ก็เพราะดอกเล็กมากๆ ดอกยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย หลังจากเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ไปแล้ว หรือหลังจากที่มะฮอกกานีผลิใบใหม่ขึ้นมา ก็เริ่มเห็นดอกของมะฮอกกานี ดอกจะเป็นสีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม

การดูแลรักษา

มะฮอกกานีเป็นไม้ยืนต้นที่การกินการอยู่ค่อนข้างง่าย ชอบแดดเต็มวัน  ดินร่วน ไม่ต้องรดน้ำบ่อย  เรื่องโรคแมลงรบกวน มะฮอกกานีใบใหญ่จะมีปัญหาเรื่องหนอนกัดกินใบเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้สร้างปัญหามากนัก ส่วนมะฮอกกานีใบเล็ก ไม่ค่อยมีเรื่องโรคเรื่องแมลงรบกวน

การใช้งานจัดสวน ปลูกประดับ

ทั่วไปแล้ว คนนิยมปลูกมะฮอกกานีไว้ให้ร่มเงา  ตามลานจอดรถ ริมถนน หรือปลูกไว้ริมรั้วเอาไว้บังสายตาคนภายนอก ช่วยให้บ้านดูร่มรื่น  สามารถปลูกเดี่ยวๆ ต้นเดียวก็ได้หรือจะปลูกเป็นแถว เป็นแนวไปตามแนวรั้ว กำแพง ถนน โดยเว้นระยะห่างประมาณ 6-8เมตร ระยะห่างที่ใกล้มากที่สุดระหว่างต้นไม่ควรน้อยกว่า 4เมตร เพื่อความสวยงาม  ทรงพุ่มจะไม่ยื่นมาเกยกันครับ

แหล่งที่มา https://www.facebook.com/111126277273300/posts/113186447067283/

วันศุกร์ ที่ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 08.30น. อาจารย์ประจำหลักสูตร ข้าพเจ้าและผู้ปฏิบัติงานได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลโคกหนองนาโมเดล ทั้งหมด 4 แปลง ดังนี้

แปลงที่ 1 กำนันบุญทัน ห้าวหาญ หมู่ 3 บ้านหนองม่วง

แปลงที่ 2 นายวงศกร สุดาจันทร์ หมู่ 7 บ้านห้วยพัฒนา

แปลงที่ 3 นางจิตรานุช โพธ์หิรัญ หมู่ 8 บ้านสี่เหลี่ยมน้อย

แปลงที่ 4 นางเปรมวิกา คนงาม หมู่ 6 บ้านระนามพลวง

จากการลงพื้นที่จะสังเกตเห็นได้ว่า ลักษณะของแปลงแต่ละแปลง จะไม่เหมือนกันเพราะ บางแปลงสภาพดินเป็นดินทรายหรือดินทรายปนดินร่วน บางแปลงจะเป็นเนื้อดินเหนียวผสมกับดินกรวด จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพืช และอีกอย่างสภาพฝนทั่วไปในตอนนี้ ฝนทิ้งช่วงนาน ถ้าตกก็ตกมาไม่มาก ทำให้ไม่มีน้ำกักเก็บไว้ภายในสระของตัวเอง จึงทำให้ต้นไม้ ที่ปลูกไว้เจริญเติบโตได้ไม่ค่อยดี แต่บางแปลงถึงมีน้ำในสระแต่น้ำก็ขุ่นมาก เจ้าของแปลงจึงต้องทำน้ำหมักมาบำบัดน้ำในสระ โดยจะเทลงไปในสระเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ปรับสภาพน้ำในสระดีขึ้น เจ้าของแปลงบางแปลงก็มีพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งทำให้ต้นไม้ในแปลงนั้นเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจึงไม่มีปัญหาต่อระบบการจัดการน้ำ

จากการลงพื้นที่ครบทั้งหมด 4 แปลง ต่างพากันแยกย้ายกันกลับบ้าน

อื่นๆ

เมนู