ข้าพเจ้า นายนัฐพงษ์ จันทร์คง ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

กิจกรรมสำหรับวันที่  21 เดือนกรกฎาคม 2564 เวลา 09 .00 น. ได้มีกิจกรรมปลูกป่าโรงเรียนพิมพ์รัฐประชาสรรค์อยู่ในเขตพื้นที่ต.หนองยายพิมพ์ โดยมีคณะสงฆ์ อาจารย์ บัณฑิต นักศึกษาและชาวบ้าน มาร่วมกันปลูกป่าในครั้งนี้ โดยบริเวณที่ปลูกนั้นเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างโรงเรียนซึ่งมีพื้นที่หลายไร่ และก่อนที่จะปลูกป่านั้นได้มีการเปิดงานโดย มีพระอาจารย์ทองใส เจ้าอาวาสวัดตะไก้พลวงเป็นประธานในพิธี  และได้ปลูกต้นไม้โดยมีต้นไม้ดังต่อไปนี้ 1.ต้นสัก 2.ต้นพะยูง 3.ต้นมะฮอกกะณี และต้นยางนา ซึ่งต้นที่นำมาปลูกมีประโยชน์ดังนี้ 1.ต้นสัก เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อน ลำต้นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็ก ๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำ ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมค่อนข้างทึบ เปลือกสีเทา เรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นตามความยาวลำต้น ขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ บางส่วนในภาคกลางและภาคตะวันตก มีอยู่บ้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สักมักจะได้รับความเข้าใจผิดเสมอว่าเป็นไม้เนื้อแข็งเนื่องจากว่ามันมีลักษณะพิเศษที่เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีความทนทานกว่าไม้เนื้อแข็งหลาย ๆ ชนิด และประโยชน์ของมันก็คือ ใบนำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือด (ใบ) เนื้อไม้และใบมีรสเผ็ดเล็กน้อย สรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต (เนื้อไม้,ใบ) ใบมีรสเผ็ดเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษโลหิต (ใบ) ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย (เนื้อไม้) เปลือกไม้มีสรรพคุณแก้อาการปวดศีรษะ (เปลือกไม้) เมล็ดใช้เป็นยารักษาโรคตา (เมล็ด) ใบใช้ทำเป็นยาอมแก้เจ็บคอ (ใบ) ช่วยแก้ไข้ คุมธาตุในร่างกาย (เนื้อไม้) เนื้อไม้ใช้รับประทานเป็นยาขับลมได้ดีมาก ส่วนใบก็มีสรรพคุณเป็นยาขับลมเช่นกัน (เนื้อไม้,ใบ) เนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาขับพยาธิ (เนื้อไม้) เนื้อไม้ ใบ และดอกมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ (เนื้อไม้,ใบ,ดอก) ใบใช้เป็นยาแก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ (ใบ) ช่วยรักษาประจำเดือนไม่ปกติ (ใบ) ช่วยรักษาโรคผิวหนัง (เนื้อไม้) เปลือกมีสรรพคุณเป็นยาฝาดสมาน (เปลือก) เปลือกไม้มีสรรพคุช่วยบรรเทาอาการบวม (เปลือกไม้) ส่วนเนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาแก้บวม (เนื้อไม้) ช่วยแก้ลมในกระดูกหลังจากนั้นก็ปลูกเสร็จตอนเที่ยงซึ่งอาหารตอนเที่ยงจะเป็นอาหารโรงทานหลังจากรับประทานเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ

 

 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ได้เข้าร่วมการรับฟังการแนะนำวิธีการเขียนรายงานการปฏิบัติงานประจำเดือนซึ่งจะมีรายระเอียดเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นตั้งแต่เวลา 14.30 น. – 15.00 น.

กิจกรรมวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. ได้มีการนัดมาทำความสะอาด ณ วัดหนองโสน ซึ่งในวัดหนองโสนนั้นจะมีเขตสีแดงแบ่งไม่ให้คนนอกผ่านเข้าไปเพราะมีผู้กักตัวโควิด-19 อยู่จึงได้ไปทำความสะอาดที่โบถส์และที่ศาลาวัด อุปกรณ์ที่ใช้จะมีไม้กวาดก้านมะพร้าว ที่ตักขยะและไม้กวาดธรรมดา น้ำยาและที่ขัดพื้น และมีการถวายอาหารเพลพระ และได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงแล้วก็กลับ

กิจกรรมวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ได้ทำการนัดกันลงพื้นที่ขุดหลุมเวลา 09.00 น. เพื่อขุดหลุมเตรียมไว้สำหรับวันแม่เป็นระยะทางความยาว 1 กิโลเมตรกว่าๆ เพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564  และภายในสถานที่ก็มี คณะอาจารย์ คณะสงฆ์ และท่านคณะบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฐบุรีรัมย์ ผู้ปฏิบัติงานบัณฑิต ชาวบ้านและนักศึกษา ต.หนองโสน ได้ร่วมด้วยช่วยกันขุดหลุมใน ณ ที่นี้

กิจกรรมวันที่ 12 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ได้ร่วมด้วยช่วยการปลูกป่าไม้เนื่องในวันแม่แห่งชาติภายใต้โครงการ ปลูกป่าและหญ้าแฝกเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชชนนี พันปีหลวง ประจำปี 2564 ซึ่งช่วงเช้าได้ทำพิธีกล่าวเปิดงานและภายในงานก็มี ท่านสส.ไตรเทพ งามกมล นายกอบจ.จังหวัดบุรีรัมย์เป็นประธานในพิธี และผู้เข้าร่วมงานอีกหลายๆท่าน คณะอาจารย์ คณะสงฆ์ และท่านคณะบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฐบุรีรัมย์หลังจากจบการกล่าวเปิดงานก็ได้ร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้จนถึงเวลาเที่ยงก็ได้ทานข้าวด้วยกันก่อนแยกย้ายกลับ

 

 

กิจกรรมวันที่ 13 สิงหาคม 2564 สำรวจโคกหนองนาโดยที่นัดรวมตัวกันที่ปั๊ม PT ตรงข้ามหน้าทางเข้าตำบลหนองโสน ณ เวลา 08.30 น. ซึ่งมีแปลงที่ยังไม่ได้ลงเก็บข้อมูลทั้งหมด 4 แปลง ดังนี้

1.แปลง กำนันบุญทัน ห้าวหาญ  บ้านหนองม่วง หมู่ที่ 3 ตำบล หนองโสน

2.แปลง นายวงศกร สุดาจันทร์     บ้านห้วย หมู่ 7 ตำบลหนองโสน

3.แปลง นางเปรมวิกา คนงาม  บ้านระนามพลวง หมู่ 6  ตำบลหนองโสน

4.แปลง นางจิตรานุช โพธิ์หิรัญ บ้านโสนน้อยพัฒนา หมู่ 12 ตำบลหนองโสน

ซึ่งได้มีการเก็บข้อมูลสอบถามเกี่ยวกับลักษณะรายละเอียด โคกหนองนาโมเดล และได้ทำการบันทึกภาพโคกหนองนา จากมุมสูงโดยเครื่องโดรน

 

 

 

อื่นๆ

เมนู