ข้าพเจ้า นายนัฐพงษ์ จันทร์คง ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ต.หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
หลักสูตร : เกษตรผสมผสานในรูปแบบโครงการโคกหนองนาโมเดล ตามหลักสูตรปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน HS02 ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2564
กิจกรรมเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 09.00 น. – 13.30 น. ซึ่งได้ทำการลงพื้นที่ปลูกป่าซ่อมแซมปลูกเพิ่มเติมต่อจากรอบที่แล้วซึ่งมีต้นที่นำไปปลูกดังนี้ 1.ต้นสัก 2.ต้นพะยูง 3.ต้นมะฮอกกะณี และต้นยางนา ซึ่งต้นที่นำมาปลูกจะยกตัวอย่างมา 1 ต้น ดังนี้
มะฮอกกานี เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 ม. ขนาดทรงพุ่ม 6-10 ม. ผลัดใบ ทรงกระบอก ค่อนข้างแน่น ลำต้นเปลาตรง เปลือกต้น สีน้ำตาลหรือเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามแนวยาวและหลุดล่อนเป็นแผ่น
· ใบมะฮอกกานี ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แกนกลางใบ ประกอบยาว 20-50 ซม. ใบย่อย 3-8 คู่ เรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-6 ซม. ยาว 6-15 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่น เป็นลอน สีเขียวเข้มเป็นมัน
· ดอกมะฮอกกานี สีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 10-15 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อนโคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ รูปช้อน ปลายมน ติดอยู่กับ หลอดเกสรตัวผู้โดยโคนกลีบเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้ 8-10 อัน เชื่อมติดกัน เป็นหลอด เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 0.7-1.2 ซม.
· ผลมะฮอกกานี ผลแห้งแตก รูปไข่ กว้าง 6-9 ซม. ยาว 14-18 ซม. เปลือกหนา สีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อสุกมีสีน้ำตาลอมเทา แตกจากโคนเป็น 5 พู เมล็ดเป็นแผ่น มีปีกรูปรียาว ปลายปีกบาง สีน้ำตาล หลายเมล็ด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือกต้น เมล็ด
สรรพคุณตามตำรายาไทย :
· เปลือกต้น รสฝาดขม ฝนทาสมานแผล ต้มดื่มแก้ไข้เจริญอาหาร
· เมล็ด รสขมจัด นึ่งให้สุกบดปั้นเม็ดรับประทาน แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไข้จับสั่น ไข้ป้าง ตัดไข้จับ
ที่มา : ต้นมะฮอกกานี – พันธุ์ไม้ (google.com)
กิจกรรมวันที่ 12 กันยายน เวลา 09.00 น. – 12.00 น. ได้เข้าร่วมประชุมทำการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องถอดบทเรียนของผู้ปฏิบัติงานทุกคน ซึ่งจะเป็นการสอบถามถึงการที่ผู้ปฏิบัติงานทุกๆท่านได้ลงพื้นที่โคกหนองนาโมเดลทั้ง 11 โคกว่าเราได้อะไรบ้างได้เจอปัญหาอะไบ้าง ผู้ปฏิบัติงานได้เข้าร่วมถอดบทเรียนและวิเคราะห์วางแผนงานที่ได้ทำมา ซึ่งการถอดบทความในครั้งนี้สามารถสรุปเนื้อหาทั้งหมด มีทั้งสิ้น 3 ด้านดังนี้ (1) ด้านการเกษตร สิ่งที่ได้เรียนรู้ แบ่งสัดส่วนในการทำพื้นที่โคกหนองนาโมเดลเพื่อใช้พื้นที่ทั้งหมดให้เกิดประโยชน์ การแก้ปัญหาการปรับสภาพดินโดย การปลูกต้นไม้เพื่อปรับสมดุลของสภาพดิน เพื่อให้พร้อมต่อการปลูกพืชชนิดอื่นๆ
– ปัญหาที่พบ 1. สภาพดิน หน้าดินแห้ง ดินไม่เก็บน้ำดินส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวปนกรวดแข็งไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก 2. สภาพน้ำ น้ำในสระมีสภาพขุ่นมัวไม่ใสสะอาด ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากช่วงนี้ฝนไม่ตก 3. พืชพันธุ์ พืชพันธุ์ที่นำมาปลูกบางต้นไม่สมบูรณ์
– ประโยชน์ที่ได้รับ เกิดการพึ่งพาตนเองมีผลผลิตไว้กินเอง เกิดรายได้จากการนำผลผลิตไปจำหน่าย มีความมั่นคงในการดำรงชีวิต ช่วยให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากการปฏิบัติตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
(2) ด้านปศุสัตว์ สิ่งที่ได้เรียนรู้ ได้เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในสัตว์แต่ละประเภท และทำให้รู้ว่าแต่ละพื้นที่มีการเลี้ยงสัตว์หลายประเภท ได้เรียนรู้ในการสร้างที่อยู่อาศัยของสัตว์ประเถทต่างๆ
– ปัญหาที่พบ 1. การกระจายความเสี่ยงเมื่อเกิดความเสียหายและการเกิดโรคระบาดของสัตว์ 2. ผลกระทบของสภาพดินที่มีลักษณะเป็นดินแข็งมากกว่าดินร่วน 3. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามฤดูกาล
– ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและเป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารโปรตีนให้แก่ครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรใช่ประโยชน์ร่วมกันมากที่สุด
(3) ด้านประมง สิ่งที่ได้เรียนรู้ ได้รู้จักชนิดปลาต่างๆ ได้รู้กรรมวิธีการเลี้ยงปลาแต่ละสายพันธุ์ ได้เรียนรู้วิธีการบำบัดน้ำเสียเพื่อให้เหมาะต่อการเลี้ยงปลา
– ปัญหาที่พบ 1. น้ำขุ่นมัวไม่ใสสะอาด บางพื่นที่มีปริมาณน้ำน้อยทำให้มีน้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร 2.ขาดแคลนน้ำในการกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงและฝนไม่ตกตามฤดูกาล
– ประโยชน์ที่ได้รับ สร้างรายได้ให้กับตนเองและเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว มีอาหารไว้สำหรับบริโภคโดยไม่ต้องซื้อการรู้จักประหยัด อดออมและลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวใช้ชีวิตแบบพอเพียง สถานที่เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์การเรียนรู้บ้านโคกหว่าน ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งโคกหนองนาทั้ง 11 โคกมี ดังต่อไปนี้
1.แปลง นายลือ นวลปักษี
2. แปลง นายจุล ชื่นชู
3. แปลง นายมีชัย หรบรรพ์
4. แปลง นางสาวดนุลดา ธรรมศิริ
5. แปลง นางสาวปรีดา จรกระโทก
6. แปลง นายสว่าง อุดมดัน
7. แปลง นายอุทัย งามแพง
8. แปลง นางเปรมวิภา คนงาม
9. แปลง กำนันบุญทัน ห้าวหาญ
10. แปลง นางจิตรานุช โพหิรัญ
11. แปลง นายวงศกร สุดาจันทร์