ข้าพเจ้านางสาว ปาจรีย์ นิโกรัมย์ เป็นประเภทบัตฑิตจบใหม่ ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้กับประเทศ) ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 

              กิจกรรมวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ดิฉันได้ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลใน APPLICATION CBD กับเพื่อนบัณฑิตจบใหม่เก็บในหัวข้อ พืชในท้องถิ่น ที่หมู่บ้าน บุคราม บ้านของคุณ ปทุมมา ชีพธรรมกุล ผลสำรวจที่ได้มีพืช 6 ชนิด ได้แก่ ต้นออมเงิน ต้นผักหวานป่า ต้นอินทผาลัม ต้นมะพร้าวน้ำหอมเตี้ย ต้นสะตอ ต้นสะเดา  และรายละเอียดของพืช 6 ชนิด ได้แก่

1)ต้นออมเงิน 1.เป็นไม้มงคล คนโบราณเชื่อกันว่า บ้านหลังไหนปลูก บ้านหลังนั้นจะมีเงินทองมาก เรียกความมงคลนี้ว่า มงคลนาม คือ ความมงคลตามชื่อของต้นไม้  2.สามารถนำเอาไปประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนได้  https://www.thaihometown.com/fengshui/8320

2) ต้นผักหวานป่า ผักหวานป่าเป็นอาหารและยาประจำฤดูร้อนที่ช่วยแก้อาการของธาตุไฟได้ตามหลักแพทย์แผนไทย ใบและรากมีสรรพคุณแก้อาการปวดศีรษะ รากมีรสเย็น เป็นยาแก้ไข้ สงบพิษไข้ ส่วนยอดใช้ปรุงเป็นยาเขียวลดไข้ ลดความร้อน  รากเป็นยาเย็น สรรพคุณเป็นยาแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ แก้กระสับกระส่าย  รากใช้ต้มกับน้ำรับประทานเป็นยาเย็นแก้พิษร้อนใน ส่วนยอดมีรสหวานกรอบช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ระบายความร้อน ยางใช้กวาดคอเด็ก แก้ลิ้นเป็นฝ้าขาว( https://medthai.com/)

3) สะตอ สะตอมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ช่วยทำให้เจริญอาหารช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยทำให้เม็ดเลือดแดงเกาะกลุ่มกันได้ดีขึ้น  มีผลต่อการแบ่งตัวของเซลล์( https://medthai.com)

4) สะเดา ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยบำรุงธาตุไฟ ขับน้ำย่อยอาหารทำให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงโลหิต        น้ำตาลที่ได้จากการหมักน้ำจากลำต้นมีแร่ธาตุ ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย( https://medthai.com/)

5) อินทผาลัม การรับประทานอินทผาลัมเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ  ประโยชน์อินทผลัมช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า ช่วยดับความหนาวเย็น  เมื่อร่างกายมีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง หากรับประทานอินทผาลัมภายในครึ่งชั่วโมงก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีกำลังเหมือนเดิม (https://medthai.com/)

6) มะพร้าวน้ำหอมเตี้ย น้ำมะพร้าวช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ขาวนวลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ในเนื้อและน้ำมันมะพร้าวอ่อนมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และยังมีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ภายใน 5 นาที( https://medthai.com/)

กิจกรรมการเสวนาออนใลน์วันที่ 28 ตุลาคม 2564  เรื่อง จตุรภาคีสี่ประสานสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน จัดขึ้นโดยคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์  เวลา 09:00-12:00 น.

โดยมี ประธานเปิดโครงการ รศ.มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ผู้ดำเนินการเสวนา นายชมพู อิสริยาวัฒน์รองคณบดีฝ่ายพันธกิจชุมชนสัมพันธ์และภูมิทัศน์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ และมีวิทยากรผู้ร่วมเสวนา ทั้ง 5 ท่าน              1) รศ.ดร ประสาท เนืองเฉลิม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม                                                                                                                            2) นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา นายกเทศมนตรีตำบลอิสาน                                                                                                                              3) นายคำเดื่อง ภาษี ประธานกลุ่มปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์                                                                                                              4) นายณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์                                                                                                                    5) รศ.ดร.อัครพนท์ เนื้อไม้หอม คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ 

มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานด้านการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ และ เพื่อจะประสานเครื่อข่ายชุมชนที่คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับพี่น้องชาวบ้านเพื่อที่จะได้มาทำงานร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาชุมชนต่อไป                                                                                                                                                                                ท่าน รศ.ดร.อัครพนท์ เนื้อไม้หอม คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์  กล่าวว่า จตุรภาคีสี่ประสาน เป็นคำที่กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมได้ใช้ในการดำเนินการนโยบายเรื่องพลิกโฉม มหาวิทยาลัย มี 4 ฝ่ายได้แก่ 1) มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ 2) ชุมชนและวัดวาอาราม 3) หน่วยงานเอกชน 4) หน่วยงานราชการ  การจัดเสวนาในวันนี้เนื่องมาจากการสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ที่กำลังเข้าสู่การประเมินผลงานจาก Time Haier Atucation ซึ่งเป็นการสนองงานตามนโยบายของชุมชนอย่างยั่งยืน

 อธิการบดีได้กล่าวขอบคุณ ท่านคณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยากร ท่านคำเดื่อง ภาษี ประธานกลุ่มชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ และทุกคนที่ได้เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ และได้กล่าวท่านถึงคณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่ได้จัดให้มีโครงการดีๆเช่นนี้ จากที่ท่านคณบดีได้กล่าวรายงานมาเรื่อง time Haier Atucation ที่มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการอยู่ จะต้องร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเพียงลำพัง แต่การพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นเราจะต้องร่วมมือกันทำ ให้เป็นรูปธรรมและชัดเจนขึ้น มันจำเป็นเพราะมหาวิทยาลัยไม่ใช่ผู้บริหารจะทำให้เกิด Ranking แต่เป็นความร่วมมือกันของทั้ง 7 คณะและมีบัณฑิณวิทยาลัยเป็นคณะที่ 8 ซึ่งแต่ละคณะมีพื้นที่รับผิดชอบคณะละ 3 – 4 อำเภอซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์มี 23 อำเภอ 188 ตำบล และ มี 2549 ชุมชน โดยอธิการบดีของมหาวิทยลัยได้เข้าเฝ้าในหลวง ร.10 พระองค์ทรงตรัสเป็นห่วงประชาชน จึงให้มหาวิทยลัยทำงานกับชุมชนอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ท่าน สุพจน์ สวัสดิ์พุทรา กล่าวว่า  กระผมได้ใช้วิชาการที่ได้ร่ำเรียนมา จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ มาทำประโยชน์พัฒนาให้ชุมชนยั่งยืน ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงคนและการเปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดีขึ้นโดยใช้ความร่วมมือ ภาครัฐและเอกชน หรือชาวบ้านทุกคน ทุกคนในชุมชนต้องมีส่วนร่วม ก่อนอื่นทางมหาวิทยาลัยได้ส่งนักศึกษาฝึกงานมาทำในเรื่องสิ่งแวดล้อม ของมหาวิทยาลัย ได้ให้เด็กพัฒนาร่วมกัน ทำให้เทศบาลตำบลอิสานได้รับรางวัล จากที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้ทำ ทำไมต้องพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืน เพราะประชาชนอย่างให้ประเทศเจริญ ได้กินดีอยู่ดี และมีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่ ดังนั้นประชาชนทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ ต้องมีส่วนร่วม ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรี อสม แม้กระทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ

ท่านรศ.ดร ประสาท เนืองเฉลิม กล่าวว่า แนวคิดของ scg เป็นแนวคิดที่สหประชาติได้กำหนดขึ้นมาเป็นแนวคิดที่จะให้การศึกษาเท่าเทียมกัน คำว่าความเท่าเทียม คือ นั่นคือการให้ทุกคนได้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่ ความเท่าเทียม จะกลายเป็นความเป็นธรรมและความยุติธรรมได้ก็ต่อเมื่อทุกคนเริ่มจากจุดเดียวกัน แต่คำว่า สภาวะเสมอภาค คือ ความเสมอภาคของมนุษย์เท่ากับการทำให้มนุษย์ทุกคนเท่ากัน

ท่าน ณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย กล่าวว่า เป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการเป็นเรื่องที่ต่างกันได้ มันต้องสามารถที่จะทำเป้าหมายเห็นภาพให้ชัดเจน เมื่อเป้าหมายของชีวิตไปถึงจุดๆหนึ่ง คนจะมีเป้าหมาย ประเทศจะมีเป้าหมาย มหาวิทยาลัยจะมีเป้าหมาย ถ้าแยกออกมามี 3 กลุ่ม กลุ่ม 1 คือกลุ่มที่ไม่รู้อะไรเลย แต่จำนวนเต็มเปลี่ยว กลุ่ม 2 กลุ่มที่รู้กว้าง แต่ใจเต็มเปลี่ยว กลุ่มที่ 3 กลุ่มรู้และทำได้ แต่ใจเต็มเปลี่ยวแต่ไม่ถึง ถ้ามีครบทั้ง 3 กลุ่ม ก็จะเดินหน้าไดเและขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่

พ่อคำเดื่อง ภาษี  ได้กล่าวว่า โลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไป แต่คนไทยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง คนเราคิดว่าโลกยังเหมือน เดิมมักทำสิ่งเดิมๆใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ไม่ปลูกหรือทดแทนสิ่งที่เสียไป ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา เกิดปัญหาก็ต้องแก้ปัญหาโดยเริ่มจากไม่อดไม่อยากได้ทรัพยากร ประเทศไทยสามารถทดแทนทรัพยากรใหม่ขึ้นมาได้ แต่ส่วนมากมัก ทำในสิ่งที่ไม่รู้ ทำในสิ่งที่ไม่รัก ทำแล้วไม่จบ แต่ถ้าเราทำกลับกัน ก็จะทำให้เกิดการพัฒนา

 กิจกรรมการอบรมทักษะ 4 ด้าน มีทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะดิจิทัล ทักษะด้านการเงิน ทักษะด้านสังคม

วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ได้เข้า อบรมออนใลน์ของ ThaiMooc  ได้แก่ วิชาภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจโรงแรม เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ วิชาภาษาอังกฤษสำหรับสำนักงาน เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย และวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เป็นเวลา 10 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่                                                                                                  วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าอบรมออนใลน์ของ ThaiMooc  วิชาการรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเวลา 10 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่วิชาพลเมืองดิจิทัล เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยศิลปากร และการสร้างสรรค์สื่อดิจิทัลบนเครื่อข่ายสังคมออนใลน์เป็นเลา 5 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี                                                                                  วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าอบรมออนใลน์ของ ThaiMooc วิชาการสร้างทีมงานเพื่อพัฒนางานแบบมืออาชีพ เป็นเวลา 6 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยนเรศวร วิชาการสร้างเครื่อข่ายด้วยการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนใลน์ เป็นเวลา 6 ชั่วโมงของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ                                                                                                                                                                                      วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าอบรมออนใลน์ ThaiMooc  วิชาจิตวิทยาข้ามวัฒนธรรมในที่ทำงาน เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ                                                                                                                                                                    วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 และวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าอบรมวิชาการลงทุนให้หุ้นเป็นเวลา 60 ชั่วโมง ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทั้ง 4 ทักษะนี้ ดิฉันได้เข้าอบรมครบตามหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์กำหนดและผ่านทุกรายวิชาแล้วค่ะ

กิจกรรมสุดท้าย กิจกรรมวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 การลงพื้นที่เก็บข้อมูลใน APPLICATION CBD เก็บเพิ่มเติมจากวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ดิฉันได้ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล ในหัวข้อพืชในท้องถิ่น ที่บ้านโคกว่าน  ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านของคุณ ประคอง เธียรวัณ ผลสำรวจที่ได้ 26 ต้น  คือ ใบเตย กระชาย ต้นยอ ผักบุ้ง ต้นชวนชม มะนาว ต้นคุณนายตื่นสาย ทานตะวัน น้อยหน่า ต้นไผ่ มะเขือ ต้นไชยา กระท้อน ต้นทองอุไร แก้วมังกร ขนุน ส้มโอ ดอกแค ชะพู  ต้นมะยม ต้นมะม่วงห่าวมะนาวโห่ ต้นดอกเข็ม  เสาวรส รายละเอียด มีดังนี้

1 )ใบเตย 1. ช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น และช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ (น้ำใบเตย)                                                                           2. การดื่มน้ำใบเตยจะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี เพราะใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น ดื่มแล้วจึงรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย           รสหวานเย็นของใบเตยช่วยชูกำลังได้  ( https://medthai.com/)

2) กระชาย   1. น้ำกระชายปั่น ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ทำให้เหนื่อยลง           2. ช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก บำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ                                                                                               3. ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงสุขภาพดี เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วงได้ ( http://www.msu.ac.th/msumagaz/smain/readpost.php?mid=241)

3) ต้นยอ ช่วยขับลมในลำไส้ ขับผายลม   ช่วยบำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร แก้สะอึก แก้เหงือกเปื่อย เหงือกบวม  ขับระดูเสีย ขับเลือดลม ฟอกเลือด( https://www.disthai.com/)

4) ผักบุ้ง มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส มีน้ำมีนวล  มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย ความแก่ชรา และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดหรือลดอัตราการเกิดของโรคมะเร็งได้ ช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง สายตาสั้น อาการคันนัยน์ตาบ่อย ช่วยบำรุงธาตุ( https://medthai.com/)

5) ต้นชวนชม นิยมปลูกเพื่อใช้งานในด้านภูมิทัศน์มากกว่า เนื่องจากเป็นไม่รูปทรงสวยสามารถปลูกลงกระถาง เป็นไม้ประธานในสวนหย่อม ปลูกริมถนน ริมสระว่ายน้ำ หรือสวนกรวด ได้อย่างสวยงาม เพราะออกดอกตลอดปีและหลากสีสัน (http://patcharaporn54123590104.blogspot.com/p/blog-page_3370.html)

6) มะนาว ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ  ช่วยแก้อาเจียน เป็นลมวิงเวียนศีรษะ เมาเหล้าได้  ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงและต่ำ   รู้หรือไม่ว่ามะนาวก็เป็นยาอายุวัฒนะและช่วยในการเจริญอาหารได้ด้วย แก้อาการวิงเวียนหลังคลอดบุตร (https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791858)

7) ต้นคุณนายตื่นสาย คุณนายตื่นสายเป็นสมุนไพรที่ใช้ห้ามเลือดได้ดี เรียกว่า ว่านจอด ใช้ห้ามเลือด หยุดเลือด เวลาขวานถูก มีดฟัน จะนำทั้งลำทั้งใบมาขยี้หรือทุบแปะที่แผลจะทำให้เลือดหยุดเร็ว ไม่เป็นแผลเรื้อรัง หมอยาทางภาคใต้ใช้คุณนายตื่นสายกันมานานแล้ว โต๊ะจิและยายมือลอ มะแซเล่าว่า พ่อของท่านทั้งสองซึ่งเป็นหมอยาในสมัยโน้น ใช้คุณนายตื่นสายบ่อยมากในการรักษาคนไข้ ตามตำรับซึ่งนำมาเผยแพร่ข้างท้ายนี้ โดยใช้แก้พิษไข้ต่างๆ (https://www.thailandplus.tv/archives/124972)

8) ทานตะวัน มีน้ำมันจากเมล็ดทานตะวันมีรสร้อน สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือดได้ (น้ำมันจากเมล็ด)ใบทานตะวันมีรสเฝื่อน เป็นยาแก้เบาหวาน(ใบ) (https://medthai.com/)

9) น้อยหน่า ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา  น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีไขมันต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน และรักษาสุขภาพ (แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานถือเป็นข้อยกเว้น)  ช่วยรักษาโรคหอบหืด (วิตามินซี) (https://medthai.com/)

10 ) ต้นไผ่  ใช้หน่อไผ่เป็นอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เช่น เหล็ก และ สังกะสี เป็นต้น การใช้สอยในชีวิตประจำวัน โดยการจักสานเครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ และสร้างที่อยู่อาศัย เป็นต้น การสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวในระดับท้องถิ่นจากจำหน่ายส่วนต่างๆ ของไผ่ (https://www.hrdi.or.th/Articles/Detail/21)

11) มะเขือ ที่ประเทศอินเดียจะใช้น้ำต้มจากผลมะเขือเปราะเป็นยารักษาโรคเบาหวาน (ผล) ผลใช้เป็นยาลดไข้ (ผล)                       ใช้เป็นยาแก้ไข้พิษร้อน กระทุ้งพิษไข้ ใช้เป็นยาขับน้ำชื้น ผลตากแห้งนำมาบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งใช้ปรุงเป็นยาแก้ไอ ส่วนการแพทย์อายุรเวทของอินเดียจะใช้รากมะเขือเปราะเป็นยารักษาอาการไอ (ราก, ผล) (https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791856)

12)ต้นไชยา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการหมุนเวียนโลหิต ช่วยย่อยอาหาร ช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา  รักกษาโรคหอบหืดช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาริดสีดวงทวาร( https://mthai.com/health/45002.html)

13) กระท้อน กระท้อนมีประโยชน์ ผลใช้รับประทานเป็นอาหาร ใช้ทำอาหารคาวหวานได้หลากชนิด เช่น แกงคั่ว แกงฮังเล ผัด ตำกระท้อน ส่วนอาหารหวานก็เช่น กระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนดอง กระท้อนกวน กระท้อนแช่อิ่ม เยลลี่กระท้อน แยมกระท้อน น้ำกระท้อน หรือใช้กินเป็นผลไม้สดก็ได้เช่นกัน (ผล)  ประโยชน์กระท้อน ลำต้นใช้ทำเป็นไม้ใช้สอยต่าง ๆ เช่น ทำไม้กระดาน เป็นต้น (ต้น)  ประโยชน์ของกระท้อน กระท้อนเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มีฤทธิ์เย็น จึงเหมาะกับผู้ที่เกิดในเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม ซึ่งธาตุเจ้าเรือนอยู่ในธาตุน้ำ( https://medthai.com/)

14) ทองอุไร สามารถนำใบและดอกของทองอุไร มาเทใส่กับน้ำร้อนชงเป็นชากินต่างน้ำ ลดไข้ แก้หวัดได้ แก้อาการดีซ่าน แก้ปวดหัว แก้ปวดประจำเดือน กระตุ้นประจำเดือนให้มาปกติ ขับปัสสาวะ แก้ปัญหาเกี่ยวกับไต ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และรักษาเบาหวาน (http://www.sansaisiri.com/)

15) แก้วมังกร ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ชุ่มชื่น เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรีต่ำ( https://medthai.com/)

16) ขนุน ช่วยบำรุงโลหิต ทำให้เลือดเย็น (แก่นขนุนหนังหรือขนุนละมุด, ราก, แก่น) ขนุนมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ชูหัวใจให้สดชื่น (เนื้อหุ้มเมล็ดสุก, เนื้อในเมล็ด, ผลสุก, เมล็ด)  ช่วยบำรุงร่างกาย (เมล็ด)  ขนุนหนังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินอีสูงติด 10 อันดับแรกของผลไม้ และยังมีวิตามินซีสูงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง (https://medthai.com/)

17) ส้มโอ ส้มโอมีใยอาหารสูง จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้ดีมากๆ  ซึ่งหากคุณคือว่าที่คุณแม่ละก็ กินส้มโอมากหน่อยช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นแน่นอน ส้มโอมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ส้มโอมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ อย่างไลโคปีน ซึ่งพบในส้มโอเนื้อสีชมพู หรือเนื้อสีแดง ใครไม่อยากแก่เร็วต้องกิน (https://www.kcfresh.com/th/node/46)

18) ดอกแค  ยอดแค อุดมไปด้วยวิตามินซึ่งมีส่วนช่วยต่อต้านและยับยั้งมะเร็ง เพราะมีสารที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี (ดอก, ยอดอ่อน) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษาอาการหวัด (ดอก) ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ (ใบสด, ดอกโตเต็มที่)  ช่วยคุมธาตุในร่างกาย (เปลือกต้น)( https://medthai.com/)

19) ชะพู ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ  ใบชะพลูมีรสเผ็ดร้อน ช่วยทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น ใบชะพลูมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณมากซึ่งช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืน แก้โรคตาฟาง เป็นต้น  (https://medthai.com/)

20) ต้นมะยม ใบมะยมแก้เบาหวาน ด้วยการใช้ใบสดและรากใบเตยพอประมาณนำมาใส่หม้อ เติมน้ำแล้วต้มเอาน้ำดื่ม ซึ่งจะช่วยไปกระตุ้นตับอ่อนให้แข็งแรงและสามารถผลิตน้ำตาลในภาวะสมดุลโดยไม่ต้องพึ่งอินซูลินจากภายนอก ช่วยลดความดันโลหิต ด้วยการใช้ใบแก่พร้อมก้านประมาณ 1 กำมือ นำมาใส่หม้อเติมน้ำพอท่วม ใส่น้ำตาลเล็กน้อยเพื่อดับรสเฝื่อน ต้มให้เดือดประมาณ 5 นาที แล้วนำมาดื่มจนความดันเป็นปกติแล้วจึงหยุดรับประทาน (สูตรทางเลือก ท่านใดที่รักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอยู่แล้วไม่ควรหยุดยาที่แพทย์ให้รับประทาน) ใบช่วยบำรุงประสาท (https://medthai.com/)

21) ต้นมะม่วงห่าวมะนาวโห่ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอย  ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง                               แก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า  เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร (https://medthai.com/)

22) ดอกเข็ม รากใช้ปรุงเป็นยาบำรุงไฟธาตุ  รากใช้เป็นยารักษาตาพิการ รากใช้เป็นยาแก้เสมหะและกำเดา รากใช้เป็นยาบรรเทาอาการบวม (https://medthai.com/)

23) เสาวรส ใช้ทำเป็นครีมบำรุงผิว ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรง ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี   สามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย ช่วยในการบำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม (https://www.disthai.com/)

>>จากการปฏิบัติงานในเดือนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี และสิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่ คือได้รู้เรื่อง การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ การพอเพียง 

วิดีโอประจำเดือนพฤศจิกายน 2564

อื่นๆ

เมนู