ข้าพเจ้า นางสาวปาริชาติ ไพรชัฎ กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ตำบลหนองยายพิมพ์ หลักสูตร : การส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด HS01 ของโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564
ในวันที่ 1/11/2564 เป็นวันที่ประเทศไทยเปิดประเทศจึงทำให้เศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่มีความครึกครื้นในการจับจ่ายใช้สอย แต่ยังคงต้องดูแลตนเองอย่างระมัดระวังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะในการดำเนินชีวิตประกอบกับการไปออกนอกสถานที่ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการของจังหวัดซึ่งอาจผ่อนปรนในหลายมาตรการ และสามารถทำให้การลงพื้นที่ในการดำเนินงาน ประกอบกับการได้ฉีดวัคซีนทั้ง 2 เข็มตามมาตรการจึงทำให้เกิดความกังวลน้อยลงในการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน
ประเด็นที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับการดำเนินงาน ได้เข้าร่วมการเสวนาออนไลน์ผ่านระบบ Zoom ในหัวข้อ เรื่อง “Quadruple Helix : จตุรภาคีสี่ประสานสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน” และได้ลงพื้นที่ทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ศาลาหมู่ที่ 1 บ้านหนองกง ตำบลหนองกง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ได้เข้าร่วมการเสวนาออนไลน์ผ่านระบบ Zoom ในหัวข้อเรื่อง “Quadruple Helix : จตุรภาคีสี่ประสานสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน” วิทยากรผู้เข้าร่วมเสวนา ดังนี้
- นายคำเดื่อง ภาษี ประธานปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์
- นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา นายกเทศมนตรีตำบลอีสาณ
- นายณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย ประธานหอการค้า จังหวัดบุรีรัมย์
- รองศาสตราจารย์ ดร.ประสาท เนืองเฉลิม จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- รองศาสตราจารย์ ดร.อัครพนท์ เนื้อไม้หอม คณบดี คณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์
- ดำเนินเสวนาโดย อาจารย์ชมพู อิสริยาวัฒน์ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจชุมชนสัมพันธ์ และภูมิทัศน์
มีวัตถุประสงค์ดังนี้
- เพื่อเผยแพร่ผลงานด้านการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
- เพื่อที่จะประสานเครือข่ายชุมชนที่คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาชุมชนต่อไป
การจัดเสวนาชุมชนในครั้งนี้ก็เนื่องจากเป็นการสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่กำลังจะเข้าสู่รับการประเมินผลงาน ซึ่งเป็นการสนองงานตามนโยบายของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนเป็นนโยบายขององค์การสหประชาชาติในเรื่องของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมหามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์มีความพร้อมในการเข้ารับการประเมิน มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้ดำเนินการกิจกรรมพัฒนาชุมชนให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง คำว่า Quadruple Helix : จตุรภาคีสี่ประสานสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เป็นคำที่กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัฒตกรรมได้ใช้ในการดำเนินการนโยบาย เรื่องพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ซึ่งสอดคล้องกับองค์การสหประชาชาติ จตุรภาคีสี่ประสานเชื่อมกันก็จะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน จตุรภาคีสี่ประสานดังกล่าวคือ
1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
2 ชุมชน และวัด
3 หน่วยงานเอกชน
4 หน่วงงานราชการ
SDGs คือ หลังจากเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ( Millennium Development Goals – MDGs ) ซึ่งต้องการเสริมสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน องค์การสหประชาชาติ จึงจัดทำเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs) ทั้งหมด 17 ข้อ มุ่งหวังจะช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เช่น ความยากจน ความไม่เท่าเทียม สภาวะโลกร้อน และสันติสุข เพื่อเสริมแนวคิด “ ไม่เป็นการทิ้งใครไว้ข้างหลัง” คาดว่าจะทำสำเร็จได้ภายในปี 2030
- No Poverty ขจัดความยากจนทุกรูปแบบทุกสถานที่
- Zero Hunger ขจัดความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
- Good Health and well-being รับรองการมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนทุกช่วงอายุ
- Quality Education รับรองการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ทุกคน
- Gender Equality บรรลุความเท่าเทียมทางเพศ พัฒนาบทบาทสตรีและเด็กผู้หญิง
- Clean Water and Sanitation รับรองการมีน้ำใช้ การจัดการน้ำและสุขาภิบาลที่ยั่งยืน
- Affordable and Clean Energy รับรองการมีพลังงาน ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เชื่อถือได้ยั่งยืน ทันสมัย
- Decent Work and Economic Growth ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องครอบคลุมและยั่งยืนการจ้างงานที่มีคุณค่า
- Industry Innovation and Infrastructure พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการปรับตัวให้เป็นอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนทั่งถึง และสนับสนุนนวัตกรรม
- Reduced Inequalities ลดความเหลื่อมล้ำทั้งภายในและระหว่างประเทศ
- Sustainable Cities and Communities ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัยทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- Responsible Consumption and Production รับรองแผนการบริโภค และการผลิตที่ยั่งยืน
- Climate Action ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ
- Life Below Water อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- Life on Land ปกป้อง ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกอย่างยั่งยืน
- Peace and Justice Strong Instiutions ส่งเสริมสังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- Partnerships for the Goals สร้างพลังแห่งการเป็นหุ้นส่วน ความร่วมมือระดับสากลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งหมดนี้คือเป้าหมาย SDGs 17 ข้อ ที่สหประชาชาติ ที่ทั่วโลกจะทำให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งหลายประเทศก็ได้ออกวิสัยทัศน์เชิงนโยบายหลายแบบ ทั้งญี่ปุ่นกับ Society 5.0 , ประเทศไทย 4.0 และ Smart Nation ของสิงคโปร์ เป็นต้น
ในการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้ความรู้เกี่ยวกับ การประสานงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และองค์การสหประชาชาติในเรื่องของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่ง SDGs เป็นการเสริมสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน องค์การสหประชาชาติ จึงจัดทำเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ทำงานร่วมกับประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาชุมชนต่อไป
วันที่ 30 ตุลาคม 2564 ได้ลงพื้นที่ทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ศาลาหมู่ที่ 1 บ้านหนองกง ตำบลหนองกง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ในการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดเพื่อช่วยในการลดต้นทุนการผลิต ยังเป็นการลดปริมาณปุ๋ยเคมี และยังได้ช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนในการขายมูลสัตว์เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เนื่องจากการทำนาเป็นหนี้เพราะต้นทุนในการผลิตสูง เลยหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำจากมูลสัตว์ เพื่อลดต้นทุนในการเกษตร และยังได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพและใช้งานได้จริง ในการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดได้มีผู้นำชุมชนสมาชิกในชุมชนมาสาธิตการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด และอาจารย์ประจำหลักสูตรผู้ดูแลโครงการ พร้อมผู้เข้าร่วมอบรมในการทำปุ๋ยครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มนักศึกษาทุกคน กลุ่มบัณฑิตเฉพาะที่เข้าปฏิบัติงานใหม่ และกลุ่มประชาชนเฉพาะที่เข้าปฏิบัติงานใหม่ ทั้งนี้ในการสาธิตการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด มีผู้สาธิตการทำดังนี้
- นายประทวน ดำเสนา
- นางสมหวัง ขำมณี
- นางสร้อย นวลปักศรี
- นางหัน ปักษา
ในขั้นตอนการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดของสูตร ว ว. 6-3-3 (เร่งต้น) มีการเตรียมวัตถุดิบในการทำปุ๋ย ดังนี้
- แม่ปุ๋ย 46-0-0 จำนวน 11 กิโลกรัม
- แม่ปุ๋ย 18-46-0 จำนวน 7 กิโลกรัม
- แม่ปุ๋ย 0-0-60 จำนวน 5 กิโลกรัม
- ปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 77 กิโลกรัม
วิธีทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดของสูตร ว ว. 6-3-3 (เร่งต้น) คือ การนำปุ๋ยคอกมาผสม ใส่ปุ๋ยยูเรีย ใส่ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต และโพแทสเซียมคลอไรด์ ตามอัตราส่วนของมูลสัตว์ ทำการเข้าผสม และเข้าเครื่องบดปุ๋ยผ่านทางความชื้น หลังจากนั้นนำปุ๋ยไปอัดเม็ดด้วยเครื่องอัดเม็ด และนำไปตากแดดประมาณ 6-7 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดระยะเวลา หลังจากนั้นเป็นการบรรจุถุงพร้อมจำหน่าย
ประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด
- ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ ให้แก่ดิน ช่วยปรับสภาพดินให้ดีขึ้นแก่ดินเสื่อมสภาพ แก้ดินขาดธาตุอาหาร แก้ดินเป็นกรด
- แก้ดินเสียเนื่องจากใช้ปุ๋ยเคมีมากๆ เป็นเวลานาน
- ช่วยให้รากพื้นเกิดมาแข็งแรง พืชกอใหญ่ ต้นใหญ่
- บำรุงช่อดอกให้ยาวสมบูรณ์ บำรุงลูกให้โตเร็ว
- ช่วยให้ผลผลิตมาก น้ำหนักดี คุณภาพดี ขายได้ราคา
- ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคเชื้อราในดิน
ในการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดได้ความรู้เกี่ยวกับในขั้นตอนการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดของสูตร ว ว. 6-3-3 (เร่งต้น) รวมถึงวิธีทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดไม่ว่าจะเป็นการผสมเข้าเครื่องบดปุ๋ยผ่านทางความชื้น และนำปุ๋ยไปอัดเม็ดด้วยเครื่องอัดเม็ดและตากแดดให้ครบชั่วโมงจึงจะนำมาบรรจุใส่ถุงได้ และประโยชน์ของปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มอินทรีย์ให้แก่ดิน แก้ดินเสีย และยังช่วยให้ผลผลิตมากอีกด้วย