ข้าพเจ้านางสาว ถาวรีย์ แก้ววิเศษ ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มนักศึกษา ตำบลหนองยายพิมพ์
วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2546 เวลา 13:30 น. ได้มีการลงพื้นที่ ณ ศาลากลางหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านหนองยายพิมพ์ ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ การอบรมครั้งนี้ เกี่ยวกับการทำปุ๋ยไส้เดือน
ผู้ประสานงานฝ่ายเลี้ยงไส้เดือน
1. นายสำราญ สาทิพย์จันทร์ ประธานกรรมการ
2. นางสาวพา สอวิหก รองประธานกรรมการ
3. นางสาวเซ็ง ดอกเกษ รองประธานกรรมการ
4. นายปรีชา สากำสด กรรมการ
5. นายสนม นาคินชาติ กรรมการ
6. นายสมาน เทียรวรรณ์ กรรมการ
7. นายเสน่ส์ คงสืบชาติ กรรมการ
ที่มาของการทำปุ๋ยไส้เดือนนั้น ตำบลหนองยายพิมพ์ ได้รับงบประมาณจากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำนวน 400000 บาท เงินจำนวนนี้ ไม่ใช่เฉพาะเลี้ยงไส้เดือนอย่างเดียวเท่านั้น แต่การเริ่มต้นเลี้ยงไส้เดือน คือ การกำจัดขยะอินทรี ขยะอินทรี คือ เศษอาหารจากครัวเรือนต่างๆ ซึ่งตามหมู่บ้านของหนองยายพิมพ์นั้น ด้วยความที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มีต้นไม้และผลไม้ที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย จึงไม่เป็นปัญหามากสักเท่าไร จึงได้มีการจัดโครงการเพื่อรองรับในอนาคต แต่พื้นที่อาจจะเล็กลง การบริหารปัญหาการกำจัดขยะ อาจจะเพิ่มมากขึ้น เริ่มต้นที่ขยะอินทรีนั้น คือ การแก้ปัญหา จากงบทาง อบต. หมู่ 1 บ้านหนองยายพิมพ์ เป็นกลุ่มเป้าหมายในหมู่บ้านแรก และจะมีการต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ได้เริ่มทำโครงการมา 6 เดือน ก็เริ่มมีการเก็บมูลไส้เดือนและน้ำไส้เดือน บุคลากรหลักได้มาช่วยเหลือหมู่บ้าน คือ อบต.หนองยายพิมพ์ เป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ในส่วนของการฝึกวิธีการเลี้ยงไส้เดือนเลี้ยงแบบไหน อย่างไร และได้นำไส้เดือน อุปกรณ์มาใช้อย่างไร หลักๆมีดังนี้
การเลี้ยงไส้เดือน มี 2 แบบ
1 . เลี้ยงในวงบ่อซีเมนส์
2 . เลี้ยงในกะละมัง
การเลี้ยงในกะละมังจะสะดวกและง่ายต่อการบริหารจัดการ แต่มูลไส้เดือนมันจะใช้พื้นที่เยอะพอสมควร ก็จะมีปัญหาถ้าหากทำในที่ไม่มีพื้นที่เยอะ ขั้นตอนการเลี้ยงใส้เดือน โดยพี่สำราญ จะเป็นคนบอกขั้นตอนต่างๆ
นำวงบ่อซีเมนส์มาวางไว้ขนาด 80 เซนติเมตร นำน้ำมาแช่ต้นกล้วย พอสเด็ดแล้ว แช่ไว้ประมาณ 14 วัน แล้วปล่อยน้ำกับต้นกล้วยทิ้งออกไป ให้บ่อซีเมนส์มันตื้น จากนั้นนำขี้วัวแห้งมาใส่ถุงปุ๋ยลึกๆ เพื่อให้ปุ๋ยมันเย็นและไม่ให้มีความเค็ม ใส่น้ำรดทุกวันๆเช้า-เย็นเป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้ความเค็มนั้นหายไป แล้วนำลงมาใส่ในบ่อซีเมนส์ ความชื่นและเปียกอยู่ระดับปานกลาง และนำกากมะพร้าวมาผสมด้วยประมานครึ่งถุง จะต้องมีกะละมังเจาะรูที่เรารดน้ำนั้น อย่าให้ไหลออก ต้องมีกะลังรองน้ำที่เรารดไว้ แล้วเราก็เก็บน้ำในกะละมังมาใส่ขวดหรือใส่ภาชนะใดก็ได้ นำมาผสมกันกับน้ำไว้รดผักและผลไม้ บ่อ 1 บ่อใช้ไส้เดือนประมาณ 1 กิโลกรัม ที่เอามาผสมกัน จากนั้นรดน้ำให้มีความชุ่มช่ำ 20 วัน และหยุดพักให้ใส้เดือน ได้กินเศษผักผลไม้ ผลไม้ที่ใส้เดือนชอบกินที่สุด คือ กล้วย แตงโม ขนุน จากนั้นพอดูหน้าดินแห้งแล้ว นำมาร่อนเอามูลของไส้เดือน และเอามาผึ่งไว้ที่ร่มประมาณ 2-3 วัน ถ้าเอาไปตากแดดอาจจะเสียคุณภาพของมูลไส้เดือนได้ นำกะละมังเล็กๆที่ปลูกผักมาใส่ นำไปโรยรอบๆ ถ้าใส่มากอาจจะทำให้เค็มได้ จะทำให้ผักเฉ๋า นำน้ำที่ผสมกับมูลไส้เดือนประมาณ 2 ช้อน แล้วรดทุกวัน ส่วนอาหารถ้าเรามีมากก็เอาใส่ลงไปทั้งหมดเลย แต่ต้องทำให้เป็นชิ้นเล็กแล้วใส่ลงไป พอหมดแล้วก็ต้องใส่ชิ้นใหม่ลงไป จากนั้นนำไปบรรจุใส่ถุงไว้จำหน่ายและส่งออกได้
อุปกรณ์ในการเลี้ยงไส้เดือน มีดังนี้
1. บ่อปูนซีเมนส์ ปูนทราย ปูนฝาบ่อและต้องเจาะรูด้านข้างบ่อ เพื่อให้น้ำนั้นไหลออกได้ ด้านล่างจะมีขารองไว้
2. ต้นกล้วย นำต้นกล้วยมาใส่ในบ่อแล้วแช่น้ำไว้ 14 วัน เพื่อทำให้ท่อมีความจืดเพราะท่อนั้นมีความเค็ม
3. กากมะพร้าว
4. มูลวัว จะต้องแช่น้ำก่อน ใส่ทั้งถุงแล้วรดน้ำตาม หรือ เทใส่กะละมังหรือถังที่ใช้ใส่ผสมปูน แช่ไว้ 14 วันเพื่อลดความเค็ม และให้ใส้เดือนนั้นอยู่ได้
5. ไส้เดือน พันธุ์เอเอฟประมาณกิโลกรัมละ 700 บาท ที่เลี้ยงพันธุ์นี้เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด
เรื่องของต้นทุนบ่อเลี้ยงไส้เดือน
ต้นทุนอยู่ที่ฟอรนไม่เหมือนกัน บาทในการที่จะทำบ่อขึ้นมา ฝา ยา ท่อพีวีซี ส่วนตัวมูลไส้เดือนหรือปุ๋ยต้นทุน จะอยู่ที่ประมาณ 30 บาท ใช้แต่กากมะพร้าว 30 บาท ตัวไส้เดือนกิโลกรัมละ 800 บาท มูลใส้เดือนในบ่อนั้นประมาณ 10 กิโลกรัม จะมีพวกปุ๋ยมะพร้าวด้วย ไม่ใช่ฉะเพราะไส้เดือนอย่างเดียว ในการทำแต่ละครั้ง ก็จะตกประมาณ 500 บาท พอได้แล้ว ก็จะลงทุนบ่อเท่านั้น การดูแลรักษาอย่าให้มีมด
สุดท้ายปีหน้าอาจจะมีการมาศึกษาเกี่ยวกับไส้เดือนต่อ