ข้าพเจ้านายสมพจน์ กรวยทอง กลุ่มประชาชน หลักสูตรการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด HS01 ในโครงยกระดับเศรษฐกิจและสังคมราบตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากให้ประเทศ)
วันที่ 04 เดือนธันวาคม พ.ศ.2564 ข้าพเจ้านายสมพจน์ กรวยทอง ได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ การผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน เกี่ยวกับปุ๋ยมูลไส้เดือน ณ ศาลากลางหมู่บ้านหมู่ 1 ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีท่านวิทยากร นางสาวฉะไมพร แผ้วพลสง กำนันตำบลหนองยายพิมพ์ และ นายสำราญ สาทิพย์จันทร์ หัวหน้าคุ้ม 1 ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไส้เดือนและการเลี้ยงไส้เดือนมีประโยชน์อย่างไร การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อจำหน่ายในท้องตลาดและการจำหน่ายแบบออนไลน์ และ โครงการ U2T ตำบลหนองยายพิมพ์ ได้ส่งมอบโลโก้ตายายพิมพ์ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปุ๋ยอินทรีย์ โดยได้รับการออกแบบผลิตภัณฑ์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
พันธุ์ไส้เดือนที่ใช้ในการผลิตปุ๋ย คือ ไส้เดือนพันธุ์แอฟริกัน AF เพราะเป็นไส้เดือนที่มีลำตัวค่อนข้างใหญ่ และไส้เดือนพันธุ์แอฟริกันจะมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างเร็ว กินเก่งกว่าไส้เดือนสายพันธุ์อื่นจึงเหมาะแก่การนำมาทำปุ๋ยมูลไส้เดือน
ข้อดีของปุ๋ยไส้เดือน
1. เป็นปุ๋ยที่มาจากธรรมชาติและไม่มีกลิ่น
2. ไม่เป็นอันตรายต่อพืช หากใช้ในอัตราส่วนที่สูงจะสามารถช่วยให้รากงอกเร็วขึ้น
3. ปรับปรุงคุณภาพดิน ลักษณะของมูลไส้เดือนเป็นเม็ดเล็กๆ ช่วยปรับปรุงให้ดินไม่แน่นเกินไปส่งผลให้รากใหญ่และเจริญเติบโตเร็ว
4. มีจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ซึ่งไม่สามารถพบได้ในมูลสัตว์หรือปุ๋ยหมักอื่นๆ
5. มีธาตุอาหารมากมายที่พืชต้องการ และมีฮอร์โมนซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ละการแตกของรากพืช
ประโยชน์ของปุ๋ยมูลไส้เดือน
1. ช่วยปรับสภาพดินให้ดีขึ้น
2. ไม่ทำให้เกิดรากไหม้ในพืชแม้จะใช้ในปริมาณมาก
3. ไม่มีกลิ่นและยังช่วยในการดับกลิ่น
4. ช่วยปรับสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งให้สะอาดและใส่
5. ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
6. ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและช่วยในการกำจัดแมลง
7.มูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยเย็นกว่าใช้กับต้นไม้ได้เลย ไม่ทำอันตรายกับต้นไม้ ต่างกับปุ๋ยคอกอื่น ที่ต้องผ่านการหมักก่อนถึงจะนำมาใช้ได้
8.มูลไส้เดือนดินสามารถช่วยเก็บความชื้นและปลดปล่อยออกมาให้พืชอย่างช้าๆ เมื่อพืชต้องการ ยืดระยะเวลาการให้น้ำแก่พืชได้นานขึ้น
9.ช่วยลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหาร เป็นตัวปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ ทำให้ประหยัดปุ๋ย
10.ต้นไม้ที่ปลูกในกระถางนานๆ ปุ๋ยมูลไส้เดือนจะไม่ทำให้ดินแข็ง จึงสามารถยืดระยะเวลาการปลูกออกไปได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนกระถาง
11.มูลไส้เดือนจะมีความสมบูรณ์ที่ลงตัวระหว่างสารชีวภาพและช่องว่างอากาศ ซึ่งเป็นความสมดุลที่เหมาะที่จะให้รากพืชเปราะบางชอนไชลงไปได้อย่างง่ายดายเพื่อหาสารอาหารและน้ำ ยิ่งรากมีมากเท่าไหร่ พืชก็จะสามารถรวบรวมอาหารและน้ำได้มากขึ้นเท่านั้นและก็จะสุขภาพดีขึ้นด้วย
12.กรณีใช้ผสมดิน ที่เป็นดินเหนียว จะช่วยเพิ่มอากาศในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และช่วยในการถ่ายเทน้ำและอากาศได้สะดวก
13.มูลไส้เดือนดินจะมีสารประกอบของกรดฮิวมิคซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุ อาหารที่จำเป็นต่อพืชหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu) ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในโมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ
วิธีเลี้ยงไส้เดือน
ทำโรงเรือน
บ่อซีเมนส์รดน้ำ 20 วัน พอแต่ชื้น หยุดพักให้เศษดิน เศษผัก ผลไม้ เป็นต้น
ศัตรูของไส้เดือน เช่น มด ไก่ กันช็อก
วัสดุอุปกรณ์
1. บ่อซีเมส ปูทราย ใช้ฝาบ่อลองพื้น เจาะรูตรงด้านข้างให้น้ำไหลออก
2. ต้นกล้วย ใส่ในท่อแช่น้ำไว้ 14 วัน ให้ท่อมันจืด
3. กากมะพร้าว ปุ๋ยมะพร้าว ไว้ตอนกิ่งและมูลวัว แช่น้ำก่อน แช่ไว้ในถุงหรือถาดใหญ่ แช่ไว้ 14 วัน ลดความชื้น
4. ไส้เดือน พันธ์ AF ต้นทุน 600-700 บาท สายพันธ์ความทนทาน และขยายพันธ์ได้เร็ว
อาหารของไส้เดือน
-เศษอาหาร
-เศษผัก
-เศษอาหาร
-เศษอาหารในครัวเรือน
เพิ่มเติมเรื่องอาหาร
เศษผัก เศษอาหาร แหล่งอาหารชั้นดีและใช้ต้นทุนน้อย ซึ่งผักที่นำมาใช้นั้นต้องดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่ได้อย่างไรบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเน้นเศษผักที่มีเส้นใย ย่อยง่าย เช่น ผักกาดขาว คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดหอมหลีกเลี่ยงผักบางชนิด เช่น ตะไคร้ เพราะมีเส้นใยหนา เมื่อนำมาใช้ไส้เดือนจะย่อยสลายได้ยาก เพราะไส้เดือนไม่มีฟันเคี้ยว แต่อาศัยวิธีการดูดแทน ใช้เวลาในการย่อยเศษซากเหล่านี้ประมาณหนึ่งเดือน ส่วนกากที่ย่อยไม่หมดนำไปใช้คลุมดินตามโคนต้นไม้ได้ เป็นทั้งปุ๋ยและช่วยรักษาความชื้นให้หน้าดินอีกต่างหาก ผลไม้ที่ไม่ควรนำมาใช้เป็นอาหารไส้เดือน คือ มะนาว สับปะรด พริก เพราะมีความเป็นกรดหรือด่างที่มีผลต่อผิวและระบบย่อยของไส้เดือน
1 อาทิตย์ รดน้ำ 20 วัน พัก 1 อาทิตย์ และมาร่อนและจะมีความชื้น ผึ่งล่ม แต่ไม่ตากแดด ผึ่งลม 3-5 วัน น้ำไส้เดือนเจาะรูทุกท้อ ท่อพีซีมูลไส้เดือนไหลและสะสมเอาไว้ใส่ต้นไม้ ร่อนดิน 1-2 วัน เอาให้แห้งจริงๆ ต้องดูสภาพหน้าดิน
วิธีการเลี้งไส้เดือน
1.ต้องแยก ขี้หรือดิน
2.ดินเม็ดละเอียด ความแตกต่างจะเป็นขี้ไส้เดือนจะเป็นเม็ดเล็กๆ
3.น้ำหมักเข้มข้น
4.มูลขี้ไส้เดือนตากแดด
5.กองเพาะเลี้ยงหรือกระบะต้องทำในที่ร่มเพื่อป้องกันแสงแดดและฝน
6.จะต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
7.ไม่ควรใช้ปุ๋ยคอกใหม่
8.มูลวัวควรตากให้แห้งและควรบดก่อนนำมาใช้
9.การใช้มูลสัตว์ชนิดอื่นๆ ควรมีการผสมกับมูลวัวก่อน
10.ไส้เดือน 1 กิโลกรัม มีจำนวนประมาณ 1,000 ตัว
11.ไส้เดือน 1 กิโลกรัมจะกินอาหารได้ 5 กิโลกรัมต่อวัน
12.ไส้เดือน 10 กิโลกรัม จะกินอาหารได้ 1 ตันต่อเดือน
13.ไส้เดือน 1,000 ตัว สามารถเลี้ยงในพื้นที่ขนาด 1 ตารางเมตร
14.ควรใช้ไส้เดือนสีเข้มที่พบบริเวณผิวหน้าดินถึงลึก 25 ซม. สำหรับเลี้ยงทำปุ๋ยมูลไส้เดือน
15.ระหว่างฝนตกให้นำมูลวัววางตามยาวของกองเพาะเลี้ยงป้องกันไส้เดือนหลบหนี
หลังจากอบรมเชิงปฏิบัติการวิทยากรได้พาผู้ปฏิบัติงานลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาการเลี้ยงและขยายพันธุ์ไส้เดือน ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านได้ลงพื้นที่จริงและพบไส้เดือนที่อยู่ในบ่ซีเมส ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านได้สัมผัสขั้นตอนวิธีการร่อนมูลไส้เดือนเพื่อแยกออกจากมูลวัวและผึ่งลมไว้ประมาณ 1 วัน ก่อนบรรจุลงในถุงเพื่อจำหน่าย ปุ๋ยมูลไส้เดือน ขาย ถุง 1 กิโลกรัม/35 บาท 3 ถุง 100 บาท