ข้าพเจ้านางสาวพัชรียา ลามั่น  ประเภทนักศึกษา
หลักสูตร: การส่งเสริมและพัฒนาการทำขนมไทย
ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 มหาลัย 1 ตำบล
(มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ)
โดยมีการปฏิบัติงานประจำเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ดังนี้

ประชุมออนไลน์การปฏิบัติงานประจำเดือนตุลาคม

   

          วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ได้เข้าร่วมประชุมออนไลน์ผ่านทาง Google Meet จากการการประชุมมีการแนะนำผู้ร่วมงานคนใหม่ และได้มีการแบ่งพื้นที่เขตรับผิดชอบในการลงพื้นที่ปฏิบัติงานสำรวจข้อมูลชุมชน และมอบหมายการลงพื้นที่ปฏิบัติงานเพื่อสำรวจข้อมูลจัดเก็บข้อมูลประจำเดือนตุลาคม ดังนี้

1. การเก็บข้อมูลกลุ่มที่พักอาศัย

  • กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ เก็บข้อมูลที่พักอาศัยจำนวน 50 หลังคาเรือน
  •  กลุ่มประชาชน เก็บข้อมูลที่พักอาศัยจำนวน 30 หลังคาเรือน
  • กลุ่มนักศึกษา เก็บข้อมูลที่พักอาศัยจำนวน 20 หลังคาเรือน

2. การเก็บข้อมูลกลุ่มศาสนสถาน : กลุ่มประชาชนเป็นผู้รับผิดชอบ

3. การเก็บข้อมูลกลุ่มโรงเรียนและตลาด : กลุ่มบัณฑิตจบใหม่เป็นผู้รับผิดชอบ

 

การประชุมวางแผนกิจกรรมอบรมการจัดทำอุปกรณ์ป้องกันตนเองและการเก็บข้อมูลแบบสอบถาม U2T-SROI 

      วันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา อาจารย์ประจำหลักสูตรได้นัดหมายประชุมผ่าน Google meet โดยมีวางแผนการจัดกิจกรรมการอบรมการจัดทำอุปกรณ์ป้องทำกันตนเองมีการสาธิตการน้ำมันเหลือง ยาหม่อง สเปร์ยสมุนไพรป้องกันยุง โดยแบ่งให้นักศึกษารับผิดชอบในการเตรียมสาร สมุนไพรต่าง ๆ  ส่วนบัณฑิตจบใหม่และประชาชนจัดเตรียมสถานที่ในการจัดกิจกรรมการอบรม และการชี้แจงรายละเอียดการเก็บข้อมูลแบบสอบถาม U2T-SORI (Social Return On Investment) ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลการประเมินศักยภาพและผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

  • ตำบลเป้าหมาย                                                
  • ลูกจ้างโครงการ
  • ครอบครัวลูกจ้าง
  • ชุมชนภายใน
  • ชุมชนภายนอก
  • อาจารย์ผู้ดูแลโครงการ
  • เจ้าหน้าที่โครงการ (USI)
  • ผู้แทนตําบล
  • หน่วยงานภาครัฐ
  • อปท.
  • เอกชนในพื้นที่

 

 การจัดเตรียมสมุนไพร  

 ในวันที่ 8 9 และ 14 ตุลาคม 2564 กลุ่มนักศึกษาได้รับมอบหมายให้เตรียมสมุนไพรเพื่อใช้ทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในการจัดกิจกรรมอบรม ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ซึ่งสมุนไพรที่จัดเตรียม ได้แก่ ผิวมะกรูดและตะไคร้หอมหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หมักเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และนำไพลและขมิ้นมาปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 

 

กิจกรรมอบรมการจัดทำอุปกรณ์ป้องกันตนเอง

           ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ได้จัดกิจกรรมการกิจกรรมอบรมการจัดทำอุปกรณ์ป้องกันตนเองจากสมุนไพร ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองบัวลาย        มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมการอบรม ได้แก่ ตัวแทนแต่ละหมู่บ้านจำนวน 2 คน กลุ่มนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่และประชาชน โดยมีวิทยากรที่บรรยายการอบรม คือ ดร.สุกัญญา ทองขัน และดร.สุภาวรัตน์ ทัพสุริย์      อาจารย์จากสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งในการอบรมครั้งนี้จะเป็นการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เช่น สเปรย์กันยุงสมุนไพร น้ำมันเหลือง และยาหม่องไพล

สเปรย์กันยุงสมุนไพร

ส่วนประกอบ

 

  • เอทิลแอลกอฮอล์ 1 ลิตร
  • ตะไคร้หอมหั่นฝอย 100 กรัม
  • ผิวมะกูด 50 กรัม
  • การบูร 50 กรัม

วิธีทำ

    1. นำตะไคร้หอมและเปลือกมะกูดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาห่อด้วยผ้าขาวบาง

    2. แช่มะกรูดและตะไคร้ในเอทิลแอลกอฮอล์ เติมการบูร 50 กรัม ปิดฝาหมักทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ (เขย่าทุกวัน)

    3. กรอกใส่ขวดพร้อมนำใช้งาน

น้ำมันเหลือง

การเตรียมน้ำมันไพล

ส่วนประกอบ

  • ไพล 200 กรัม
  • ขมิ้น 50 กรัม
  • น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันปาล์ม 100 กรัม

วิธีทำ

       นำไพลและขมิ้นที่แก่จัด มาปลอกเปลือกไพลและขมิ้นหั่นเป็นชิ้นบาง (คล้ายกับการทำกล้วยฉาบ) จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันปาล์ม โดยใช้ไฟกลาง จนกระทั่งไพลและขมิ้นกรอบเหลือง (ระวังอย่าให้ไหม้) กรองเอาน้ำมันจะได้น้ำมันไพล (จะได้ประมาณ 70-80 มิลลิลิตร)

ส่วนประกอบของน้ำมันเหลือง

  • เมนทอล 120 กรัม
  • การบูร 80 กรัม
  • พิมเสน 40 กรัม
  • น้ำมันไพล 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ

       ผสมเมนทอล การบูร และพิมเสน คนให้ละลาย (ถ้าละลายไม่หมดสามารถเพิ่มเมนทอลลงไปทีละน้อย) แล้วจึงเติมน้ำมันไพล และเทลงขวดเพื่อนำไปใช้งาน

ยาหม่องไพล

ส่วนประกอบ

  • วาสลิน 120 กรัม
  • พาราฟิน 80 กรัม
  • น้ำมันไพล 60 มิลลิลิตร
  • พิมเสน 20 กรัม
  • เมนทอล 20 กรัม
  • การบูร 20 กรัม
  • น้ำมันยูคาลิปตัส 30 มิลลิลิตร
  • น้ำมันระกำ 100 มิลลิลิตร

วิธีทำ

    1. ชั่งตวงพาราฟินและวาสลินภาชนะ แล้วนำมาให้ความร้อน จะสังเกตเห็นว่าพาราฟินและวาสลินจะเริ่มละลาย (เปลี่ยนเป็นสีใส)

    2. ผสมเมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันระกำ น้ำมันยูคาลิปตัส และน้ำมันไพล คนจนสารละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

    3. เมื่อพาราฟินและวาสลินใสจนเป็นเนื้อเดียวกันให้เติมของผสมระหว่างเมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันระกำ และน้ำมันยูคาลิปตัส จากข้อ 2) แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน

    4. เทสารละลายที่ได้ใส่ภาชนะที่บรรจุยาหม่อง ตั้งทิ้งไว้จนยาหม่องแข็งตัว

หมายเหตุ

1. ไม่ควรใช้ความร้อนที่สูงเกิน จะทำให้กลิ่นระเหยหมดและอาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้

   2. การให้ความร้อนที่มีเปลวไฟ ให้ทำการตุ๋นในน้ำร้อนเพื่อป้องกันการเกิดไฟลุกไหม้

   3. สามารถปรับเพิ่มได้ตามอัตราส่วน เมื่อต้องการยาหม่องในปริมาณที่มากขึ้น

เกร็ดความรู้
  • การบูร มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาว ออกฤทธิ์ร้อน สรรพคุณช่วยบรรเทาโรคตาแดง ขับเสมหะ ขับลม
  • เมนทอล มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นหอม บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก แก้ไข้ แก้ไอ ลดการอักเสบในลำคอ บรรเทาอาการปวดศีรษะ
  • พิมเสน มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น มีกลิ่นหอม ใช้สูดดม แก้วิงเวียนศีรษะ ใช้ทาแก้ปวดเมื่อยแก้เคล็ดขัดยอก
  • พาราฟิน ใช้เป็นส่วนผสมเพื่อทำให้น้ำมันแข็งตัว
  • วาสลิน ใช้เป็นส่วนผสมเพื่อทำให้เกิดความลื่นมัน แสะดวกในการทานวด
  • น้ำมันระกำ เป็นน้ำมันใส มีกลิ่นหอม มีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้เคล็ดขัดยอก
  • น้ำมันยูคาลิปตัส สรรพคุณแก้หวัดคัดจมูก ขับเสมหะ ขับลม แก้โรคหอบหืด

 

การเก็บข้อมูลแบบสอบถาม U2T-SORI (Social Return On Investment) 

          ในการจัดเก็บข้อมูลแบบสอบถามโครงการการติดตามประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมโครงการ แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการดำเนินกิจกรรม    ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (U2T) โดยในการปฏิบัติหน้าที่ลูกจ้างโครงการครั้งนี้ ซึ่งดิฉันได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกลุ่มเป้าหมายลูกจ้างโครงการ

การสำรวจข้อมูลแบบสอบถามสำหรับที่พักอาศัยประจำเดือนตุลาคม

จากการเก็บแบบสำรวจข้อมูลสำหรับที่พักอาศัยประจำเดือนตุลาคมสรุปได้ดังนี้

  • การประเมินตนเองเเละบุคคลที่อาศัยอยู่ในครัวเรือน
    จากการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการประเมินอาการตนเองอยู่สม่ำเสมอ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงก็จะรีบไปพบเเพทย์ เพื่อทำการตรวจสอบอาการของตนเอง มีการป้องกันตนเองในการใช้ชีวิตประจำวันคือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เเละเว้นระยะห่าง 2 เมตรในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หากมีญาติกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงก็ส่งตัวไปกักตัวทันที เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • การสังเกตอาการเเละบุคคลที่อาศัยอยู่ในครัวเรือน
    จากการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการสังเกตุอาการของตนเองเเละอาการบุคคลที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบากอย่างใดอย่างหนึ่ง และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย ชาวบ้านในชุมชนจะรีบไปพบเเพทย์ทันที
  • การดูเเลสุขอนามัยตนเองเเละบุคคลที่อาศัยอยู่ในครัวเรือน
    จาการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการดูเเลสุขอนามัยด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำเเละสบู่ หรือเจลเเอลกอฮอลล์ โดยเฉพาะก่อนเตรียมปรุงอาหาร ก่อนรับประธานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หลังหยิบจับสิ่งสกปรก หลังเยี่ยมผู้ป่วยในสถานพยาบาล หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง เเละหลังกลับมาจากนอกบ้านอย่างสม่ำเสมอ
  • การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่เเละใช้ช้อนส่วนตัว
    จาการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก เเละมีการใช้ช้อนส่วนตัวหรือช้อนกลางในการรับประธานอาหาร เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
  • ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน
    จาการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการระมัดระวังในการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นเช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ช้อน เเก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
  • ทำความสะอาดตนเองหลังกลับจากการทำภารกิจหรือกิจกกรรมนอกบ้าน
    จาการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในชุมชนมีการล้างมือ ชำระร่างกาย เปลี่ยนเครื่องเเต่งกายทันที เมื่อกลับจากการทำภารกิจข้างนอกหรือกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อป้องกันการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

สรุปการปฏิบัติงานเดือนตุลาคม

            จากการดำเนินการปฏิบัติงานประจำเดือนตุลาคม กลุ่มผู้ปฏิบัติงานตำบลบ้านสิงห์ได้เข้าร่วมการอบรมการจัดทำอุปกรณ์ป้องกันตนเองโดยได้เรียนรู้การทำสเปรย์กันยุงสมุนไพร น้ำมันเหลือง และยาหม่องไพล รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลแบบสอบถามโครงการการติดตามประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมโครงการ แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการดำเนินกิจกรรม ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (U2T) และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการลงพื้นที่เก็บข้อมูล เพราะต้องมีการระมัดระวังในการลงพื้นที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันตนเองและคนในชุมชน รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และได้มีการเข้าถึงข้อมูลอย่างครบถ้วนที่จะทำให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโครงการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป

 

อื่นๆ

เมนู