ข้าพเจ้านางสาวกมลชนก จงชิดกลาง ผู้ปฏิบัติงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลบ้านสิงห์
รับผิดชอบในเขตพื้นที่ บ้านสิงห์ หมู่ 3 ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 22 ตุลาคม 2564
เข้าร่วมการอบรมการขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการขึ้นทะเบียนสินค้า OTOP ณ ศาลาประชาคม บ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้รับเกียรติจากท่านวิทยากร คือ คุณภัทรวดี มักขุดทด นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ และ คุณชยุต ชำนาญเนาว์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่สละเวลามาให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกๆท่านและประชาชนในตำบลบ้านสิงห์
โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาความยากจน และเพื่อเดินหน้าสู้กับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่หนักหน่วง รัฐบาลในสมัยนั้นจึงได้จัดทำโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นมา โดยมีแนวทางให้คนในแต่ละชุมชนใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการการพัฒนาสินค้าควบคู่ไปกับความทันสมัย ที่สามารถต่อยอดส่งออกไปขายต่างประเทศได้ ซึ่งสินค้าแต่ละชิ้นเป็นทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น แล้วนำมาเพิ่มมูลค่าให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกคนได้เป็นอย่างดี โดยมีหลักการพื้นฐานในการจัดทำดังนี้
- ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล
- พึ่งตนเองและคิดอย่างสร้างสรรค์
- การสร้างทรัพยากรมนุษย์
สำหรับจุดมุ่งหมายของโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ พ.ศ. 2544 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชน
- สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน ให้สามารถคิดเอง ทำเอง ในการพัฒนาท้องถิ่น
- ส่งเสริมภูมิปัญหาท้องถิ่น
- ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ OTOP
การบริหารจัดการกลุ่ม (5 ก.)
- ก1 กลุ่ม/สมาชิก ที่มีความสมัครใจพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของกลุ่ม
- ก2 กรรมการ ซึ่งได้รับมอบหมายและเป็นตัวแทนจากสมาชิกให้บริหารกลุ่ม
- ก3 กฎ กติกา ระเบียบข้อบังคับกลุ่ม เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ระหว่างสมาชิกและคณะกรรมการ
- ก4 กองทุน ปัจจัย เงินหรือเครื่องมือ ที่ท าให้กิจกรรมของกลุ่มดำเนินการได้และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของกลุ่ม
- ก5 กิจกรรม เป็นสิ่งที่ร่วมกันปฏิบัติเพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน
ประเภทผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
ที่จะนำมาดำเนินการลงทะเบียน ต้องผ่านกระบวนการผลิต โดยใช้ภูมิปัญญาจำนวน 5 ประเภท ดังนี้
- ประเภทอาหาร
หมายถึง ผลผลิตทางการเกษตร และอาหารแปรรูป ซึ่งได้รับมาตรฐาน อย., GAP,GMP, HACCP, Qmark, มผช., มอก., มาตรฐานเกษตรอินทรีย์, ฮาลาล และมีบรรจุภัณฑ์ เพื่อการจ าหน่ายทั่วไป แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1) ผลิตผลทางเกษตรที่ใช้บริโภคสด
2) ผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบ และผ่านกระบวนการแปรรูปเบื้องต้น
3) อาหารแปรรูปกึ่งสำเร็จรูป/สำเร็จรูป - ประเภทเครื่องดื่ม แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1) เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
2) เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล - ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย
- ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก
- ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
ประโยชน์ของการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน
- ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีขึ้น มีความปลอดภัย
- ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสม่ำเสมอ
- ผู้ซื้อ ผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้องตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- สร้างความเชื่อมัน และความน่าเชื่อถือ
- เพิ่มโอกาสทางการค้า ผู้ผลิตเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับรอง มผช.
การตรวจติดตามผล
- ตรวจติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์ภายหลังได้รับการรับรอง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ตรวจประเมิน ณ สถานที่ทำของผู้ได้รับการรับรอง
– อาจเก็บตัวอย่างเพื่อส่งทดสอบ/ตรวจสอบ
– แจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ได้รับการรับรองทราบ
การต่ออายุใบรับรอง
- ให้ยื่นขอใหม่ล่วงหน้า 120 วัน ก่อนที่ใบรับรองจะสิ้นอายุ (หากมีความประสงค์ขอต่ออายุใบรับรอง)
- หน่วยรับรองจะด าเนินการตามกระบวนการรับรอง มผช.
การสิ้นอายุใบรับรอง
- ใบรับรองครบอายุ 3 ปี
- ผู้ได้รับการรับรองขอยกเลิกการรับรอง
- ผู้ได้รับการรับรองเลิก หรือถูกสั่งให้เลิกประกอบกิจการ
- มาตรฐานมีการแก้ไข ใบรับรองจะมีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่มาตรฐานใหม่มีผลบังคับใช้
- มาตรฐานมีการยกเลิก
- ผลิตภัณฑ์ที่ตรวจติดตามผลไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 2 ครั้งติดต่อกัน
การตรวจสุขลักษณะการผลิต
- สถานที่ตั้งอาคารที่ทำและบริเวณโดยรอบ
– สะอาด ไม่มีน้ำขังแฉะ ไม่สกปรก
– อยู่ห่างสถานที่ที่มีฝุ่น เขม่า ควัน มากผิดปกติ
– ไม่อยู่ใกล้สถานที่น่ารังเกียจ เช่น แหล่งเก็บขยะ บริเวณที่เพาะเลี้ยงสัตว์
– พื้น ผนัง เพดาน เป็นวัสดุที่คงทน เรียบ สะอาด อยู่ในสภาพดี
– แยกเป็นสัดส่วน ไม่อยู่ใกล้สุขา
– พื้นที่ปฏิบัติงานไม่แออัด แสงสว่างเพียงพอ การระบายอากาศเหมาะสม - เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ในการทำ สะอาด เหมาะสมกับ การใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน มีเพียงพอ เป็นวัสดุผิวเรียบ ไม่เป็นสนิม ล้างทำความสะอาดง่าย
- การควบคุมกระบวนการทำ
– วัตถุดิบและส่วนผสมในการทำความสะอาด มีคุณภาพดี ล้างก่อนนำไปใช้
– การทำ เก็บรักษา ขนย้ายมีการป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมเสียของสินค้า - การสุขาภิบาล การบำรุงรักษา การทำความสะอาด
– น้ำใช้ต้องสะอาดและเพียงพอ
– มีวิธีป้องกันและกำจัดสัตว์นำเชื้อ แมลง ฝุ่นผง
– มีการกำจัดขยะ สิ่งสกปรก น้ำทิ้งอย่างเหมาะสม
– สารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดและกำจัดแมลง สัตว์นำเชื้อ ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและเก็บแยกจากบริเวณที่ทำ - บุคลากรและสุขลักษณะของผู้ทำ ต้องรักษาความสะอาดส่วนบุคคล เช่น เสื้อผ้าสะอาด มีผ้าคลุมผม ไม่ไว้เล็บยาว ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนทำ/หลังการใช้ห้องสุขา
หลักเกณฑ์ของ Primary GMP
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 193) มีการกําหนดเกณฑ์ ไว้ 6 หมวด
หมวดที่ 1 สถานที่ตั้งและอาคารผลิต
- สถานที่ตั้งตัวอาคารและที่ใกล้เคียงต้องอยู่ในที่ ๆ จะไม่ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อนได้ง่าย เช่น ไม่มีการสะสมสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีสิ่งปฏิกูล ไม่มีฝุ่นควันมากผิดปกติ ไม่มีน้ำขังสกปรก และไม่มีคอกปศุสัตว์หรือสถานเลี้ยงสัตว์
- อาคารผลิตหรือบริเวณผลิตต้องรักษาความสะอาดและรักษาให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะ เช่น มีการระบายอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติงาน สะอาด ถูกสุขลักษณะเป็นระเบียบ อาคารผลิตสามารถป้องกันการปนเปื้อนจากสัตว์ และแมลงเข้าสู่บริเวณผลิตหรือสัมผัสอาหาร
หมวดที่ 2 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต
- ออกแบบเครื่องมือเครื่องใช้ที่เหมาะสม และคำนึงการปนเปื้อนที่อาจจะเกิดขึ้นรวมทั้งทำความสะอาดได้ง่าย
- ภาชนะหรืออุปกรณ์ในการผลิตที่สัมผัสกับอาหารต้องทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหารและง่ายต่อการทำความสะอาด หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย
- โต๊ะหรือพื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตในส่วนที่สัมผัสกับอาหารต้องทำด้วยวัสดุที่ไม่เกิดสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความสูงที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานหรือมีมาตรการในการป้องกันการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
หมวดที่ 3 การควบคุมกระบวนการผลิต
- วัตถุดิบ ส่วนผสมในการผลิตอาหาร ต้องมีการคัดเลือกให้อยู่ในสภาพที่สะอาดมีคุณภาพ
- การดำเนินการระหว่างผลิตอาหารมีการขนย้ายวัตถุดิบ ส่วนผสม ภาชนะบรรจุ และบรรจุภัณฑ์ในลักษณะที่ไม่เกิดการปนเปื้อน
- ผู้ผลิตมีขั้นตอนและวิธีการในการควบคุมกระบวนการผลิตเป็นไปอย่างเคร่งครัด
- น้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่สัมผัสกับอาหารต้องเป็นน้ำที่สะอาด
- น้ำแข็งใช้ในกระบวนการผลิตที่สัมผัสกับอาหารสะอาด มีคุณภาพมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
- การผลิต เก็บรักษา ขนย้าย และขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารต้องป้องกันการปนเปื้อน และกันการเสื่อมสลายของอาหารและภาชนะบรรจุด้วย
หมวดที่ 4 การสุขาภิบาล
- น้ำที่ใช้ภายในสถานที่ผลิตต้องเป็นน้ำสะอาดและจัดให้มีการปรับคุณภาพน้ำตามที่จำเป็น
- จัดให้มีภาชนะรองรับขยะมูลฝอยที่มีฝาปิดในจำนวนที่เพียงพอ และมีระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่เหมาะสม
- จัดให้มีห้องส้วมและอ่างล้างมือหน้าห้องส้วมให้เพียงพอสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และต้องถูกสุขลักษณะมีอุปกรณ์ล้างมือครบถ้วนใช้งานได้ สะอาด และต้องแยกต่างหากจากบริเวณที่ผลิตหรือไม่เปิดสู่บริเวณผลิตโดยตรง
- จัดให้มีอ่างล้างมือในบริเวณผลิตให้เพียงพอใช้งานได้สะอาด และมีอุปกรณ์ล้างมืออย่างครบถ้วน
- การจัดการระบายน้ำทิ้งและสิ่งโสโครกอย่างมีประสิทธิภาพ
หมวดที่ 5 การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด
- ตัวอาคารสถานที่ผลิตต้องทำความสะอาด และรักษาให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ
- เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ในการผลิตมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออยู่ในสภาพที่ใช้งานได้
- การจัดเก็บสารเคมีทำความสะอาดหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสุขลักษณะต้องแยกให้เป็นสัดส่วนปลอดภัยพร้อมมีการแสดงป้ายชื่อ
หมวดที่ 6 บุคลากรและสุขลักษณะผู้ปฏิบัติงาน
- ผู้ปฏิบัติงานในบริเวณผลิตอาหารไม่มีบาดแผล ไม่เป็นโรคหรือพาหะของโรคตามที่ระบุในกฎกระทรวง หรือมีบาดแผลมี่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์
- ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ทำหน้าที่สัมผัสอาหารต้องสวมเสื้อผ้าที่สะอาด สวมหมวก หรือผ้าคลุมผมหรือตาข่าย มีมาตรการการจัดการรองเท้าที่ใช้ในการผลิตที่เหมาะสม ไม่สวมเรื่องประดับพร้อมทั้งล้างมือและดูแลเล็บมือให้สะอาดอยู่เสมอ
- แสดงคำเตือนห้ามหรือป้องกันมิให้บุคคลแสดงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจในการผลิตอาหาร
- วิธีการหรือข้อปฏิบัติสำหรับผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่มีความจำเป็นต้องเข้าไปให้ปฏิบัติตามมาตราการ
พนักงานที่สัมผัสกับอาหารต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. สะอาด
2. สวมหมวกคลุมผม และผ้ากันเปื้อน
3. ตัดเล็บให้สั้น งดทาเล็บ
4. จัดรองเท้าที่ใช้ในโรงงานอย่างเหมาะสม
5. ไม่สวมเครื่องประดับ น้ำหอม พกของใช้ส่วนตัว
วันที่ 24 ตุลาคม 2564
อาจารย์ประจำหลักสูตรได้มอบหมายหน้าที่ให้ผู้ปฎิบัติงานเก็บข้อมูลเพิ่มเติมตามจำนวนดังนี้
- บัณฑิต จำนวน 50 คน
- ประชาชน จำนวน 30 คน
- นักศึกษา จำนวน 20 คน
วันที่ 29 ตุลาคม 2564
เข้าร่วมการอบรมการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และการทำการตลาดออนไลน์ส่งเสริมการขาย ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
ในการอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก อาจารย์ปิติวรรณ ฝ้ายโคกสูง จากสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่เสียสละเวลามาให้ความรู้เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ การถ่ายภาพดึงดูดความสนใจ การจัดองค์ประกอบของภาพถ่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ในชุมชน รวมไปถึงการจัดตั้ง Fanpage บ้านสิงห์ – ของดีบอกต่อ เพื่อเป็นการขายผลิตภัณฑ์ในชมชนอีกหนึ่งช่องทาง
ภาพตัวอย่างผลิตภัณฑ์
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564
อาจารย์ประจำหลักสูตรได้นัดหมายให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ผ่านทาง Google Meet ได้มอบหมายให้ผู้ปฎิบัติงานเก็บข้อมูลแบบสำรวจ CBD เพิ่มเติมให้ครบจำนวน 1000 ชุด และให้นำข้อมูลจาก CBD เพื่อนำมาวิเคราะห์ปัญหา SWOT และแนวทางการแก้ไข ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์เกี่ยวกับภูมิปัญญาในท้องถิ่นโดยใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ Pain point (SWOT, VROI หรือ เครื่องมือวิเคราะห์ใด ๆ ตามเหมาะสม) และนำเสนอข้อมูลผ่าน Dash Board หรือ G-map
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564
เข้าร่วมการอบรมการทำลูกประคบจากสมุนไพรไทย ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.สุกัญญา ทองขัน และ อาจารย์วิริญรัชญ์ สื่อออก อาจารย์จากสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เสียสละเวลามาให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในตำบลบ้านสิงห์
การทำลูกประคบสมุนไพร
อุปกรณ์
- ผ้าดิบหรือผ้าฝ้าย ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร
- ภาชนะสำหรับผสมสมุนไพร
- เชือกยาว 200 เซนติเมตร
- เครื่องชั่ง
ในสูตรนี้ใช้สมุนไพรแห้ง
- ไพล 400 กรัม
- ผิวมะกรูด 100 กรัม
- การบูร 30 กรัม
- ขมิ้นชัน 100 กรัม
- ใบมะขาม 100 กรัม
- พิมเสน 30 กรัม
- ตะไคร้ 200 กรัม
- ใบส้มป่อย 50 กรัม
- เกลือ 60 กรัม
วิธีทำ
- บดหรือทุบสมุนไพรแห้งพอหยาบ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ชั่งส่วนผสม 100 กรัม วางลงบนผ้า
- ห่อผ้าและมัดเชือกให้แน่น
- บรรจุลูกประคบไว้ในถุง เก็บในที่แห้ง สามารถเก็บได้ประมาณ 1 ปี
หลังจากอบรมวิธีการทำลูกประคบจากสมุนไพร ยังมีการสาธิตนวดแผนโบราณ โดยได้รับเกียรติจากกลุ่มงานแพทย์แผนไทยจากโรงพยาบาลนางรองมาสอนแก่ประชาชนบ้านสิงห์อีกด้วย