ข้าพเจ้านางสาวลภัสรดา ศรีศักดิ์  ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลบ้านสิงห์
ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564
ในพื้นที่ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

 

วันศุกร์ที่ 22 เดือนตุลาคม 2564 อบรมการขอมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และการขึ้นทะเบียน OTOP ณ ศาลากลาง หมู่บ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์

อบรมการขอมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และการขึ้นทะเบียน OTOP โดยนักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ และนักวิชาการสาธารณสุข

 

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข(ฉบับที่ 342) พ.ศ.2555 เรื่อง วิธีการผลิต เครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย

กำหนดหลักเกณฑ์การตรวจประเมินสถานที่ 6 หมวด

หลักเกณฑ์ Primary GMP

 

 

หมวด 1 สถานที่ตั้งและอาคารผลิต             หมวด 3 การควบคุมกระบวนการผลิต           หมวด 6 บุคลากรและสุขลักษณะผู้ปฏิบัติงาน

หมวด 2 เครื่องมือและ                                         หมวด 4 การสุขาภิบาล
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต                                  หมวด 5 การบำรุงรักษาและ
การทำความสะอาด

 

หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย

  •  สถานที่ตั้งและอาคารผลิต
  1. สถานที่ตั้งตัวอาคารและที่ใกล้เคียง ต้องอยู่ในที่ ๆ จะไม่ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อนได้ง่าย
  2. อาคารผลิตหรือบริเวณผลิตต้อง รักษาความสะอาดและรักษาให้ อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะ

 

  • เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต
  1. ออกแบบเครื่องมือเครื่องใช้ที่เหมาะสม และคำนึงการปนเปื้อนที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งทำความสะอาดได้ง่าย
  2. ภาชนะหรืออุปกรณ์ในการผลิตที่สัมผัส กับอาหาร ต้องทำจากวัสดุที่ไม่ทำ ปฏิกิริยากับอาหารและง่ายต่อการทำ ความสะอาด หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย
  3. โต๊ะหรือพื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตในส่วนที่สัมผัสกับอาหาร ต้องทำด้วย วัสดุที่ไม่เกิดสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความสูงที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานหรือมี มาตรการในการป้องกันการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

 

  • การควบคุมกระบวนการผลิต
  1. วัตถุดิบ ส่วนผสมในการผลิตอาหาร ต้องมีการคัดเลือกให้อยู่ใน สภาพที่สะอาด มีคุณภาพ
  2. การดำเนินการระหว่าง ผลิตอาหาร มีการขนย้ายวัตถุดิบ ส่วนผสม ภาชนะบรรจุ และบรรจุภัณฑ์ในลักษณะที่ไม่เกิดการปนเปื้อน
  3. ผู้ผลิตมีขั้นตอนและวิธีการในการควบคุมกระบวนการผลิตเป็นไป อย่างเคร่งครัด
  4. น้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่สัมผัสกับอาหารต้องเป็นน้ำที่สะอาด
  5. น้ำแข็งใช้ในกระบวนการผลิตที่สัมผัสกับอาหาร สะอาด มีคุณภาพมาตรฐานตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
  6. การผลิต เก็บรักษา ขนย้าย และขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารต้องป้องกันการปนเปื้อนและ กันการเสื่อมสลายของอาหารและภาชนะบรรจุด้วย

 

  • การสุขาภิบาล
  1. น้ำที่ใช้ภายในสถานที่ผลิต ต้องเป็นน้ำสะอาดและจัดให้มีการปรับคุณภาพน้ำ ตามที่จำเป็น
  2. จัดให้มีภาชนะรองรับขยะมูลฝอยที่มีฝาปิดในจำนวนที่เพียงพอ และ มี ระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่เหมาะสม
  3. จัดให้มีห้องส้วมและอ่างล้างมือหน้าห้องส้วมให้เพียงพอสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และต้องถูกสุขลักษณะ มีอุปกรณ์ล้างมือครบถ้วน ใช้งานได้ สะอาด และต้องแยกต่างหากจากบริเวณที่ผลิตหรือไม่เปิดสู่บริเวณผลิตโดยตรง
  4. จัดให้มีอ่างล้างมือในบริเวณผลิตให้เพียงพอ ใช้งานได้ สะอาด และมีอุปกรณ์ล้างมืออย่างครบถ้วน
  5. การจัดการระบายน้ำทิ้งและสิ่งโสโครกอย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด
  1. ตัวอาคารสถานที่ผลิตต้องทำความสะอาดและรักษา ให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ
  2. เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ในการผลิต มีการ ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออยู่ในสภาพที่ใช้งานได้
  3. การจัดเก็บสารเคมีทำความสะอาดหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสุขลักษณะ ต้องแยกให้เป็น สัดส่วน ปลอดภัย พร้อมมีการแสดงป้ายชื่อ

 

  • บุคลากรและสุขลักษณะผู้ปฏิบัติงาน
  1. ผู้ปฏิบัติงานในบริเวณผลิตอาหารไม่มีบาดแผล ไม่เป็นโรคหรือพาหะของโรคตามที่ระบุใน กฎกระทรวง หรือมีบาดแผลมี่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์
  2. ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ทำหน้าที่สัมผัสอาหาร ต้องสวมเสื้อผ้าที่สะอาด สวมหมวก หรือ ผ้าคลุมผมหรือตาข่าย, มีมาตรการการจัดการรองเท้าที่ใช้ในการผลิตที่เหมาะสม ไม่สวมเรื่องประดับ พร้อมทั้งล้างมือและดูแลเล็บมือให้สะอาด อยู่เสมอ
  3. แสดงคำเตือน ห้ามหรือป้องกันมิให้บุคคลแสดงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจในการผลิตอาหาร
  4. วิธีการหรือข้อปฏิบัติสำหรับผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่มีความจำเป็นต้องเข้าไปให้ปฏบัติตามมาตราการ

 

 

 

 

 

 

 

 

การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ OTOP

 

การบริหารจัดการกลุ่ม (5 ก.)

ก1 : กลุ่ม/สมาชิก ที่มีความสมัครใจพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของกลุ่ม
ก2 : กรรมการ ซึ่งได้รับมอบหมายและเป็นตัวแทนจากสมาชิกให้บริหารกลุ่ม
ก3 : กฎ กติกา ระเบียบข้อบังคับกลุ่ม เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ระหว่างสมาชิกและคณะกรรมการ
ก4 : กองทุน ปัจจัย เงินหรือเครื่องมือ ที่ท าให้กิจกรรมของกลุ่มดำเนินการได้และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของกลุ่ม
ก5 : กิจกรรม เป็นสิ่งที่ร่วมกันปฏิบัติเพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน

 

ประเภทผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์

ที่จะนำมาดำเนินการลงทะเบียน ต้องผ่านกระบวนการผลิต โดยใช้ภูมิปัญญาจำนวน 5 ประเภท ดังนี้

1. ประเภทอาหาร
หมายถึง ผลผลิตทางการเกษตร และอาหารแปรรูป ซึ่งได้รับมาตรฐาน อย., GAP,GMP, HACCP, Qmark, มผช., มอก., มาตรฐานเกษตรอินทรีย์, ฮาลาล และมีบรรจุภัณฑ์ เพื่อการจ าหน่ายทั่วไป แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1) ผลิตผลทางเกษตรที่ใช้บริโภคสด
2) ผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบ และผ่านกระบวนการแปรรูปเบื้องต้น
3) อาหารแปรรูปกึ่งสำเร็จรูป/สำเร็จรูป

2.ประเภทเครื่องดื่ม แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1) เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
2) เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล

3. ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย

4. ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก

5 ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร

 

ประโยชน์ของการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน

• ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีขึ้น มีความปลอดภัย
• ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสม่ำเสมอ
• ผู้ซื้อ ผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้องตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
• สร้างความเชื่อมัน และความน่าเชื่อถือ
• เพิ่มโอกาสทางการค้า ผู้ผลิตเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับรอง มผช.

การตรวจติดตามผล

  • ตรวจติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์ภายหลังได้รับการรับรอง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • ตรวจประเมิน ณ สถานที่ทำของผู้ได้รับการรับรอง
    – อาจเก็บตัวอย่างเพื่อส่งทดสอบ/ตรวจสอบ
    – แจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ได้รับการรับรองทราบ

การต่ออายุใบรับรอง

  • ให้ยื่นขอใหม่ล่วงหน้า 120 วัน ก่อนที่ใบรับรองจะสิ้นอายุ (หากมีความประสงค์ขอต่ออายุใบรับรอง)
  • หน่วยรับรองจะด าเนินการตามกระบวนการรับรอง มผช.

การสิ้นอายุใบรับรอง

  • ใบรับรองครบอายุ 3 ปี
  • ผู้ได้รับการรับรองขอยกเลิกการรับรอง
  • ผู้ได้รับการรับรองเลิก หรือถูกสั่งให้เลิกประกอบกิจการ
  • มาตรฐานมีการแก้ไข ใบรับรองจะมีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่มาตรฐานใหม่มีผลบังคับใช้
  • มาตรฐานมีการยกเลิก
  • ผลิตภัณฑ์ที่ตรวจติดตามผลไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 2 ครั้งติดต่อกัน

 

การตรวจสุขลักษณะการผลิต

1. สถานที่ตั้งอาคารที่ทำและบริเวณโดยรอบ 
– สะอาด ไม่มีน้ำขังแฉะ ไม่สกปรก
– อยู่ห่างสถานที่ที่มีฝุ่น เขม่า ควัน มากผิดปกติ
– ไม่อยู่ใกล้สถานที่น่ารังเกียจ เช่น แหล่งเก็บขยะ บริเวณที่เพาะเลี้ยงสัตว์
– พื้น ผนัง เพดาน เป็นวัสดุที่คงทน เรียบ สะอาด อยู่ในสภาพดี
– แยกเป็นสัดส่วน ไม่อยู่ใกล้สุขา
– พื้นที่ปฏิบัติงานไม่แออัด แสงสว่างเพียงพอ การระบายอากาศเหมาะสม
2. เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ในการทำ : สะอาด เหมาะสมกับ
การใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน มีเพียงพอ เป็นวัสดุผิวเรียบ ไม่เป็นสนิม ล้างทำความสะอาดง่าย                   

3. การควบคุมกระบวนการทำ 
– วัตถุดิบและส่วนผสมในการทำความสะอาด มีคุณภาพดี ล้างก่อนนำไปใช้
– การทำ เก็บรักษา ขนย้ายมีการป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมเสียของสินค้า
4. การสุขาภิบาล การบำรุงรักษา การทำความสะอาด
– น้ำใช้ต้องสะอาดและเพียงพอ
– มีวิธีป้องกันและกำจัดสัตว์นำเชื้อ แมลง ฝุ่นผง
– มีการกำจัดขยะ สิ่งสกปรก น้ำทิ้งอย่างเหมาะสม
– สารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดและกำจัดแมลง สัตว์นำเชื้อ ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและเก็บแยกจากบริเวณที่ทำ
5. บุคลากรและสุขลักษณะของผู้ทำ : ต้องรักษาความสะอาดส่วนบุคคล เช่น เสื้อผ้าสะอาด          มีผ้าคลุมผม ไม่ไว้เล็บยาว ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนทำ/หลังการใช้ห้องสุขา

               

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2564 เข้าอบรมจตุรภาคีสี่ประสาน
เสวนาออนไลน์ Quadruple Helix ผ่าน
Zoom ในเวลา 09:00 น. 

เวลา 09.00 น.
  •  พิธีเปิดงานเสวนาออนไลน์ โดย รองศาสตราจารย์มาลิณี  จุโฑปะมา            อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
  • กล่าวรายงาน โดย รองศาสตราจารย์ ดร. อัครพนท์  เนื้อไม้หอม                          คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • พิธีกร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คําภีรภาพ  อินทะนู  รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ดำเนินการเสวนาโดย อาจารย์ชมพู  อิสริยาวัฒน์  รองคณบดี           ฝ่ายพันธกิจชุมชนสัมพันธ์และภูมิทัศน์

เวลา 09.40-12.00 น.

การเสวนาผ่านระบบ ZOOM เรื่อง “ Quadruple Helix : จตุรภาคีประสานสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน”

ผู้ร่วมเสวนา

  • นายคำเดื่อง  ภาษี  ประธานปราชญ์ชาวบ้านบุรีรัมย์
  • รองศาสตราจารย์ ดร. ประสาท  เนืองเฉลิม  จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • นายสุพจน์  สวัสดิ์พุทรา  นายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ
  •  นายณัช  อิสร์ศรีสุขพรชัย  ประธานหอการค้า จังหวัดบุรีรัมย์
  • รองศาสตราจารย์ ดร. อัครพนท์  เนื้อไม้หอม  คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ดำเนินการเสวนาโดย อาจารย์ชมพู  อิสริยาวัฒน์  รองคณบดี           ฝ่ายพันธกิจชุมชนสัมพันธ์และภูมิทัศน์

เวลา 12.15 น.

รองศาสตราจารย์ ดร. อัครพนท์  เนื้อไม้หอม คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวขอบคุณวิทยากรและกล่าวปิดโครงการ

    

 

 

สำรวจข้อมูลชุมชนในตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

อาจารย์ประจำโครงการได้มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานลงพื้นที่เก็บข้อมูล ดังนี้

1.บัณฑิต จำนวน 50 คน
2.ประชาชน จำนวน 30 คน
3.นักศึกษา จำนวน 20 คน

โดยใช้ Application ของ U2T ในการลงข้อมูลชุมชน และในภายหลังได้มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

1.บัณฑิต จำนวน 20 คน
2.ประชาชน จำนวน 15 คน

หลังจากที่ผู้ปฏิบัติงานได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกษตรกรพบว่า เกษตรกรในชุมชนตำบลบ้านสิงห์ทำการเกษตรเกี่ยวกับปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากการทำการเกษตรมาจากรุ่นสู่รุ่น และการเกษตรเป็นรายได้หลักของคนในชุมชนที่นี่ ประชากรตำบลบ้านสิงห์เลยทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่

  

 

 

วันศุกร์ที่ 29 เดือนตุลาคม 2564 อบรมการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ในชุมชนด้วยการตลาดบน Facebook ณ ศาลากลาง หมู่บ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์

https://www.facebook.com/NRbansing/

อาจารย์ประจำโครงการได้มอบหมายให้คณะผู้ปฏิบัติงานกลุ่มบัณฑิตจบใหม่และประชาชน เป็นตัวแทนในการเข้าร่วมอบรม โดยเรียนเชิญตัวแทนชุมชนในตำบลบ้านสิงห์ หมู่บ้านละ 2 ท่าน มาร่วมอบรม โดยท่านวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้มาทำการอบรมเรื่อง อบรมการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ในชุมชนด้วยการตลาดบน Facebook โดยเริ่มจากการมอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานได้ช่วยกันสร้าง page ใน Facebook แล้วร่วมกันถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ในชุมชนที่นำมา และได้อบรมเทคนิควิธีที่ช่วยส่งเสริมการขายให้น่าสนใจ น่าซื้อมากยิ่งขึ้น และในตอนท้ายอาจารย์ประจำโครงการได้มอบหมายงานให้ผู้ปฏิบัติงานแต่ละกลุ่มไปสืบค้น และนำผลิตภัณฑ์มาขายใน page ของ Facebook เพิ่มเติม

 

 

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 อาจารย์ประจำโครงการได้นัดหมายประชุมผ่าน Google meet ในเวลา 16:00 น. เพื่อพูดคุยมอบหมายแผนงานในเดือนพฤศจิกายน

 

รายละเอียดในการประชุมอาจารย์ประจำโครงการได้ชี้แจงและมอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานลงพื้นที่และศึกษาข้อมูลที่ได้รับมอบหมายจาก โปรแกรม CDB เพื่อวิเคราะห์ปัญหารายพื้นที่ โดยแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ดังนี้

1.ภูมิปัญญา

2.แหล่งน้ำ

3.อาหาร

และสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานต้องนำส่ง ประกอบด้วย

1. วิเคราะห์ Pain point (SWOT, VROI หรือ เครื่องมือวิเคราะห์ ใดๆ ตามเหมาะสม)
2. นำเสนอข้อมูลผ่าน Dash Board หรือ G-map

ทางผู้ปฏิบัติงานได้นัดมาปฏิบัติงานและรวบรวมข้อมูลจนงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

 

 

 

วันเสาร์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน 2564 อบรมการทำลูกประคบและการนวดแผนไทย ณ ศาลากลาง หมู่บ้านหนองบัวราย ตำบลบ้านสิงห์

 

 

วัสดุอุปกรณ์

  • ผ้าดิบ หรือผ้าฝ้าย ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร
  • เชือกยาว 200 เซนติเมตร
  • ภาชนะสำหรับผสมสมุนไพร
  • เครื่องชั่ง

 

ในการอบรมครั้งนี้ใช้สมุนไพรแห้ง (สามารถนำสมุนไพรสดไปตากหรืออบให้แห้งตาย)

  • ไพร 400 กรัม
  • ขมิ้นชัน 100 กรัม
  • ตะไคร้ 200 กรัม
  • ผิวมะกรูด 100 กรัม
  • ใบมะขาม 100 กรัม
  • ใบส้มป๋อย 50 กรัม
  • การบูร 30 กรัม
  • พิมเสน 30 กรัม
  • เกลือ 60 กรัม

 

วิธีทำ

  1. บดหรือทุบสมุนไพรแห้งพอหยาบ
  2. ชั่งส่วนผสม 100 กรัม วางลงบนผ้า
  3. ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  4. ห่อผ้าและมัดเชือกให้แน่น
  5. บรรจุลูกประคบไว้ในถุงเก็บในที่แห้งสามารถเก็บได้ 1 ปี

 

 

การเก็บรักษาลูกประคบ

  • เก็บไว้ในที่แห้ง ไม่มีฝุ่น
  • สำหรับลูกประคบสมุนไพรสด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน

 

การใช้งาน

  • สำหรับลูกประคบแห้ง ควรพรมน้ำบนลูกประคบก่อนนำไปนึ่ง
  • นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งในหม้อนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

 

และในช่วงท้ายการอบรมได้มีคณะวิทยากรมาจากโรงพยาบาลนางรอง ได้มาสาธิตวิธีการนวดแผนไทย เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานและชาวบ้านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

                          

 

สรุปผลการปฏิบัติงาน

การปฏิบัติงานภายในเดือนพฤศจิกายนได้มีการจัดอบรมหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้ที่ได้มาอบรมนั้นได้รับความรู้ไปอย่างล้นหลามกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการอบรมอย่างแรก คือ

  • การขอมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และการขึ้นทะเบียน OTOP ที่ได้รับความรู้ในการจดลิขสิทธิ์เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้คิดค้นแต่เพียงผู้เดียวป้องกันการเลียนแบบจากบุคคลอื่นและสามารถสร้างมูลค่าได้ด้วย จากแต่ก่อนที่ชาวบ้านผลิตผลิตภัณฑ์ออกมาขายตามหมู่บ้านอาจได้กำไรไม่มากนัก แต่หลังจากที่ได้อบรมแล้วสามารถนำผลิตภัณฑ์ของตนไปขึ้นทะเบียน อย. จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างมาก และน่าเชื่อถืออีกด้วย
  • การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ในชุมชนด้วยการตลาดบน Facebook ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก เราจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อที่จะสามารถเอาตัวรอดจากยุคเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และโรคระบาดCovid-19 การซื้อ-ขาย ธุรกิจออนไลน์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการประกอบธุรกิจเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดในยุคโรคระบาดแบบนี้ ดังนั้น ทางคณะอาจารย์ผู้จัดทำโครงการจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ โดยการเชิญวิทยากรมาอบรมเรื่อง การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ในชุมชนด้วยการตลาดบน Facebook ซึ่งในช่วงแรกอาจเกิดความติดขัดนิดหน่อยในการการติดต่อหาข้อมูล แต่ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายเป็นอย่างดี page สินค้าของตำบลบ้านสิงห์จึงเป็นอีกเพจหนึ่งที่มีสินค้าคุณภาพมากมายและราคาย่อมเยาว์เหมาะสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันอีกด้วย
  • การทำลูกประคบและการนวดแผนไทย ทางคณะอาจารย์ประจำโครงการได้เล็งเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาไทยท้องถิ่นในการสร้างมูลค่าเพิ่มและนำสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบ ๆ ตัวสามารถใช้เป็นยาในชีวิตประจำวันได้ จึงได้เชิญวิทยากร เป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มาให้ความรู้ในเรื่องการทำลูกประคบ เพื่อนำไปประคบบริเวณที่มีอาการเจ็บปวด จึงจะสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดีโดยที่ไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ แล้วสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการทำผลิตภัณฑ์ขายในชุมชนได้อีกด้วย และในช่วงท้ายได้มีคณะวิทยากรมาจากโรงพยาบาลนางรองได้มาให้ความรู้ด้านการนวดแผนไทย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานและชาวบ้านได้ฝึกปฏิบัติจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

อื่นๆ

เมนู