1. หน้าแรก
  2. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
  3. HS05 - ตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ
  4. U2T Covid-19 Week ก้าวต่อไปสู้ภัยโควิด” การทอผ้าไหมขิดยกดอก เพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือนอย่างยั่งยืน” ของตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ (HS05)

U2T Covid-19 Week ก้าวต่อไปสู้ภัยโควิด” การทอผ้าไหมขิดยกดอก เพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือนอย่างยั่งยืน” ของตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ (HS05)

ข้าพเจ้า นางสาวเจนสุฎารัตน์ สาวิสัยประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ปฏิบัติงานตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) หลักสูตร HS05 การทอผ้าไหมขิดยกดอกเพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือนอย่างยั่งยืน ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564

​          วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณาจารย์ประจำหลักสูตรตำบลเมืองแฝก ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการแปรรูปผ้าขิดยกดอกเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เวลา 8.00-15.00 น. ณ ห้องประชุมมนุษย์สังคมวัฒนา ชั้นที่ 2 อาคาร 25 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ การอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณจุฑามาศ ซารัมย์ นากยกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองแฝก เป็นประธานในพิธี และวิทยากร คือคุณมัลลิกา ชัญถาวร อัลทชัย ท่านเป็นผู้ประกอบอาชีพการทอผ้าไหมลายขิดยกดอกซึ่งมีความชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง โดยมีการให้ความรู้เพิ่มเติมเรื่องการนำผ้าขิดยกดอกไปเพิ่มมูลค่า เช่น กระเป๋า เสื้อ และผ้าซิ่น เป็นต้น อาจารย์ประจำหลักสูตรได้ประชุมผู้ปฏิบัติงานตำบลเมืองแฝกทุกท่าน เพื่อชี้แจงงานชิ้นใหม่การปฏิบัติงาน โครงการ covid week โดยแบ่งเป็น2 กิจกรรม ได้แก่ 1.กิจกรรมเชิงรุก 2. กิจกรรมเชิงรับ ซึ่งกิจกรรมของทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ประกอบไปด้วย 1.กิจกรรมเชิงรุก 1.1 ทำความสะอาดพื้นที่ กวาด เคลียร์เชื้อร้าย  พื้นที่แหล่งรวมผู้คน สร้างความปลอดภัยในชุมชน 1.2 สร้าง Safe Zone เขตปลอดภัย ห่างไกลโควิด 1.3 จัดหาเครื่องมือให้พอและพร้อม กับสถานการณ์โควิด 19   2. กิจกรรมเชิงรับ ‘รวมพลังวัคซีน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ลดการระบาดโควิด’  เป็นการรณรงค์การฉีดวัคซีน ให้ข้อมูลการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง บอกข้อดี ข้อเสียของการฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงหลังจากฉีดวัคซีน แนวทางปฏิบัติ ก่อน/หลัง การฉีดวัคซีน  ในการประชุมครั้งนี้อาจารย์ประจำหลักสูตรได้แบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจนและเรียบร้อย

วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 08.30-15.00 น. อาจารย์ประจำหลักสูตรได้นัดหมายให้ผู้ปฏิบัติงานตำบลเมืองแฝกได้ลงพื้นที่ ณ โรงเรียนบ้านหนองยายพิมพ์ ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง  เพื่อเข้าร่วม โครงการรวมใจปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะวันวิสาขบูชา 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และจะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง HUSOC – BRU Channel & ออนไลน์ช่อง Youtube ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจากนางสาวเพชรรัตน์  ภูมาศ นายอำเภอนางรองเป็นประธานในพิธีปลูกต้นสักเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสร็จสิ้นจากประธานในพิธีปลูกต้นสักผู้คนที่มาร่วมงานทั้งประชาชน อาจารย์ ผู้ปฏิบัติงาน ก็ได้ลงมือช่วยกันปลูกป่าสร้างคุณค่าสู่แผ่นดิน พื้นที่ 22 ไร่ ด้านหลังโรงเรียนบ้านหนองยายพิมพ์ เรามาเรียนรู้ ประโยชน์ของการปลูกป่าต่อจากนี้ค่ะ  ประโยชน์ของการปลูกป่ามีมากมายมหาศาลกว่าที่เราคิดประโยชน์ของการปลูกป่า ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ พร้อมกับอยู่บนพื้นฐานของความต้องการด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชน ผลที่เกิดขึ้นคือ เกิดการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศไทย เนื่องจากประชาชนได้ตระหนักและเห็นคุณค่าจากการใช้ประโยชน์ของป่าไม้ที่ปลูก โดยขอย่อประโยชน์ทั้ง 4 อย่างแนะนำดังนี้

1.พออยู่ คือการปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้และไม้เชิงเศรษฐกิจให้เป็นป่า ไม้กลุ่มนี้เป็นไม้อายุยาวนานซึ่งจะเน้นประโยชน์โดยใช้เนื้อไม้เพื่อสร้างบ้าน ทำเครื่องเรือน และถือได้ว่า เป็นการออมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต ต้นไม้กลุ่มนี้ เช่น ตะเคียนทอง ยางนา แดง สัก พะยูง พะยอม

  1. พอกิน คือ การปลูกต้นไม้ที่กินได้รวมทั้งใช้เป็นยาสมุนไพร ไม้ในกลุ่มนี้ เช่น แค มะรุม ทุเรียน สะตอ ผักหวาน ฝาง แฮ่ม กล้วย ฟักข้าว
  2. พอใช้ คือ การปลูกต้นไม้ให้เป็นป่าไม้สำหรับใช้สอยในครัวเรือน อาทิ ทำฟืน เผาถ่าน ทำงานหัตถกรรม หรือทำน้ำยาซักล้าง ไม้ในกลุ่มนี้ เช่น มะคำดีควาย หวาย ไผ่ หมี เหม็น เป็นต้น
  3. พอร่มเย็น คือ ประโยชน์อย่างที่ 4 ที่เกิดจากการปลูกป่า 3 อย่าง ที่ทำให้เกิดความร่มเย็น และป่าทั้ง 3 อย่างนี้ จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศดินและน้ำ ให้กลับอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นและฉ่ำเย็นขึ้นมาต้นไม้3ป่า 5 ระดับแบบกสิกรรมธรรมชาติ

นอกจากนี้ อาจารย์ยักษ์ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ยังนำแนวคิดการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มาปรับประยุกต์เป็นการ ปลูกป่า 5 ระดับ ซึ่งประกอบด้วยต้นไม้หลากหลายทั้งชนิดพันธุ์ ช่วงอายุ ลักษณะนิสัยและขนาดความสูง โดยสามารถจัดแบ่งตามระดับความสูงและระบบนิเวศได้ 5 ระดับได้แก่

  1. ไม้สูง เป็นกลุ่มต้นไม้เรือนยอดสูงสุดและอายุยืน ไม้ระดับนี้ เช่น ตะเคียน ยางนา เต็ง รัง
  2. ไม้กลาง เป็นกลุ่มต้นไม้ที่ไม่สูงนัก ไม้ในระดับนี้ได้แก่บรรดาไม้ผลที่เก็บกินได้ เช่น มะม่วง ขนุน มังคุด กระท้อน ไผ่ สะตอ
  3. ไม้เตี้ย เป็นกลุ่มต้นไม้พุ่มเตี้ย ไม้ในระดับนี้ เช่น พริก มะเขือ กะเพรา ผักหวานบ้าน ติ้ว เหรียง
  4. ไม้เรี่ยดิน ไม้ในระดับนี้เป็นตระกูลไม้เลื้อย เช่น พริกไทย รางจืด
  5. ไม้หัวใต้ดิน ไม้ในระดับนี้เช่น ขิง ข่า มันมือเสือ บุก กวาวเครือ

ข้อคำนึงในการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างคือ

  1. ไม้เบิกนำ ไม้สะเดา มะรุม แค ไม้ผล กล้วย อ้อยและพืชผักอายุสั้น ควรหามาปลูกก่อน เพื่อสร้างแหล่งอาหารของครอบครัว2. ไม้ปลูกเพื่ออยู่อาศัย ควรปลูกหลังจากปลูกไม้ในข้อที่ 1 ประมาณ 1-2 ปี
  2. ไม้สมุนไพร จะเจริญเติบโตได้ดีเมื่อมีความร่มรื่นเพียงพอ
  3. นาข้าว กำหนดพื้นที่ให้เหมาะสม หากมีพื้นที่พอ เพื่อเก็บข้าวไว้กินระหว่างปีโดยไม่ต้องซื้อ
  4. ร่องน้ำ ควรขุดร่องน้ำขนาดเล็กเพื่อให้ความชุ่มชื้นกับพื้นดินและต้นไม้ ซึ่งจะทำให้สามารถเลี้ยงปลาธรรมชาติเพื่อใช้เป็นอาหารโดยขุดเชื่อมกับบ่อขนาดใหญ่
  5. ปลูกต้นไม้หลากหลาย เพื่อการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ช่วยลดค่าใช้จ่าย สร้างความมั่นคั่ง มั่นคงซึ่งเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในครอบครัวและชุมชน
  • วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผู้ปฏิบัติงานตำบลเมืองแฝกลงพื้นที่ ณ วัดบ้านหนองเก้าข่า ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ กวาด เคลียร์เชื้อร้าย  พื้นที่แหล่งรวมผู้คน สร้างความปลอดภัยในชุมชน  สร้าง Safe Zone เขตปลอดภัย ห่างไกลโควิด19 จัดหาเครื่องมือให้พอและพร้อม กับสถานการณ์โควิด 19   มอบเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยให้กับกลุ่ม ชาวบ้าน อสม.ที่มาเข้าร่วมโครงการ U2T Covid-week ก้าวต่อไปสู้ภัยโควิด อีกทั้งมีการให้คำแนะนำ อธิบาย และรณรงค์สนับสนุนให้ฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งการฉีดวัคซีนสามารถช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อได้

นอกจากนี้ ก่อนการเข้ารับวัคซีนในส่วนของการคัดกรอง ก็มีสิ่งที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนฉีดวัคซีนเช่นกัน โดยเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งคือ

  • เคยติดเชื้อโควิด (ต้องหายสนิท 3 เดือนค่อยฉีดวัคซีนได้)
  • เคยอยู่กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ แต่กักตัวครบ 14 วัน ก่อนมาฉีดวัคซีน
  • เคยมีไข้ ไม่สบายในช่วง 2 สัปดาห์
  • มีประวัติทานยากลุ่มละลายลิ่มเลือด
  • มีประวัติแพ้ยาแพ้อาหาร หรือแพ้วัคซีนใดบ้าง
  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (เว้นประมาณ 1 เดือน ถึงจะฉีดวัคซีนโควิดได้)
  • โรคประจำตัว
  • มีรอยช้ำ จ้ำเลือด เลือดออกผิดปกติ หรือใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกันอยู่ เช่น สเตียรอยต์ขนาดสูง ยารักษาโรคมะเร็ง ตั้งครรภ์ หรือมีแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

การล้างมือเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เราห่างไกลจากไวรัสโคโรนา 19 ได้เป็นอย่างดี แต่ต้องล้างมืออย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้

1 การล้างมือโดยใช้ฝ่ามือถูกัน
2 ใช้ฝ่ามือถูหลังฝ่ามือและซอกนิ้ว
3 ใช้ฝ่ามือถูฝ่ามือและซอกนิ้ว
4 ใช้หลังมือถูฝ่ามือ
5ใช้ฝ่ามือถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบ
6ใช้ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ
7คือการใช้ฝ่ามือถูรอบข้อมือ ซึ่งการล้างมือนั้นสามารถใช้สบู่ทั่วไปในการฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้

เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ที่พิจารณานำมาใช้กับคนไทย ต้องเป็นวัคซีนที่ดี มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และเหมาะสมกับคนไทย จึงจัดกิจกรรมเชิงรุก COVID WEEK รณรงค์การป้องกันโควิด-19และเชิญชวนประชาชนตำบลเมืองแฝก ที่มีอัตราความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนทั่วไป  ร่วมลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกกิจกรรม จากการฝึกอบรมและรับองค์ความรู้ต่างๆจากวิททยากร นำมาสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนต่อไป

 

แหล่งที่มา https://goodlifeupdate.com

 

 

 

 

อื่นๆ

เมนู