บทความสรุปผลการปฏิบัติงาน
โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ
ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564
ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
โดยนางสาวพรมณี เนียนสันเทียะ ประเภทบัณฑิตจบใหม่
1.เก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกข้อมูล ตามแบบSROI
ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูล ตามแบบ SROI กลุ่มเป้าหมาย คือ หน่วยงานภาครัฐ ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย หน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ เช่น โรงพยาบาล/พัฒนาชุมชน/รพ.สต. ได้สอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของกลุ่มเป้าหมายและผู้ให้ข้อมูลในส่วนนี้คือ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลประจำตำบลแสลงพัน ได้ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามออกความคิดเห็น ในการดำเนินกิจกรรม โครงการ U2T เกิดผลกระทบ/เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านศักยภาพ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเงินอย่างไรเพื่อนำข้อมูลลงกรอกในระบบต่อไปทั้งนี้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลประจำตำบลแสลงพัน ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการตอบแบบสอบถามข้อมูล SROI
2.พัฒนากิจกรรมผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ
เมื่อวันที่ 16-17 ตุลาคม พ.ศ 2564 ณ.บ้านแสลงพันและบ้านบุขี้เหล็กใหม่ ตำบลแสลงพัน ระยะที่ 2 การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ) ร่วมกับสมาชิกชุมชน โดยได้ทำการแบ่งกลุ่มเป็น 2 โซน ในการจัดกิจกรรม โซนที่ 1 บ้านแสลงพัน โดยจัดกิจกรรมที่ศาลาบ้านแสลงพัน หมู่ที่ 7 และโซนที่ 2 บ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา
ข้าพเจ้าได้รับผิดชอบบ้านบุก้านตง หมู่ 12 ติดต่อประสานงานตัวแทนหมู่บ้านหรืออาสาสมัครในหมู่บ้านจำนวน 2 คน ให้เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เอง เพื่อทนแทนการใช้ปุ๋ยสารเคมีและช่วยลดต้นทุนการใช้จ่ายในครัวเรือนและชี้แจงขั้นตอนการทำกิจกรรม ชี้แจงปฏิทินติดตามงานทุกสัปดาห์ กิจกรรมประกวดครอบครัวและชุมชนต้นแบบการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์การทำปุ๋ยหมักอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ อาทิเช่น กากน้ำตาล ถังหมัก เมล็ดพันธุ์พืช และอื่น ๆ ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในกิจกรรม
สูตรที่ 1 การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
วัสดุและอุปกรณ์
1.เศษอาหารแห้ง เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ 1 ส่วน
2.มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า 1 ส่วนป็น
3. ใบไม้ 1 ส่วน
4.ถังขนาด 20 ลิตร
5.ตาข่ายกันแมลง
วิธีทำ
1.นำถังขนาด 20 ลิตร มาเจาะรูไว้รอบถังแล้วใช้ตาข่ายกันแมลงพันให้รอบ เพื่อช่วยระบายอากาศและป้องกันแมลงรบกวน
2.ผสมเศษอาหารแห้งที่มีขนาดเล็กและไม่มีน้ำ เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ และเปลือกผลไม้ เข้ากับมูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า และเศษใบไม้ ในอัตรา 1:1:1 ส่วน
3.คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดฝาให้สนิท ถ้าหากวันต่อไปมีเศษอาหารเพิ่ม ก็นำมาเติมเข้าไปได้ แต่อย่าลืมผสมในอัตราส่วนเท่าเดิมด้วย
4.พลิกกลับส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน
หมายเหตุ: ในช่วงแรกไม่จำเป็นต้องเติมน้ำ เพราะเศษอาหารมีความชื้นอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มแห้งลง ก็สามารถพรมน้ำเข้าไปได้เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาในการหมักประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยหมักสีดำขนาดเล็ก ที่แห้งสนิทและไม่มีกลิ่นเหม็นไว้ใช้บำรุงต้นไม้แล้ว
สูตรทึ่ 2 การทำปุ๋ยหมักชีวภาพแบบน้ำ
วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.ถุงกระสอบดินสำหรับใส่เศษอาหาร
2.ถังมีฝาปิด ขนาดที่สามารถใส่น้ำได้ 10 ลิตรขึ้นไป
3.น้ำตาล 1 กิโลกรัม
4.น้ำสะอาด 10 ลิตร ควรพักคลอรีนไว้สัก 1-2 คืน
วิธีทำ
1.นำน้ำสะอาด 10 ลิตร มาเติมลงในถัง ใส่กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม หรือใส่น้ำตาล 1 ส่วน ใช้ไม้กวนให้เข้ากัน
2.นำเศษอาหารใส่ลงในกระสอบ (กระสอบดินถุงที่พอจะมีช่องระบายอากาศ) มัดปากถุงแล้วแช่ลงไป โดยเเนะนำว่าไม่ควรใส่เศษอาหารเกิน 3 ส่วน
3.หมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 วัน โดยควรปิดฝาให้สนิท เพื่อให้แมลงจะได้ไม่มาไข่ เเละทำให้ถังหมักของเราไม่มีหนอน
วิธีนำมาใช้
1.เวลานำมาใช้รดน้ำต้นไม้ ก็ควรจะผสมให้เจือจาง เเนะนำว่าควรใช้ 2 ชัอนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 บัว (ประมาณ 20 ลิตร)
2.ส่วนกากที่เหลือก็สามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ยต่อได้ โดยนำมาผสมกับใบไม้แห้ง เเละปุ๋ยคอก รดน้ำ ปรับความชื้น 60% คือ เมื่อบีบแล้วไม่มีน้ำไหลซึมออกจากง่ามมือ และเมื่อแบมือออก ปุ๋ยยังคงจับตัวกันเป็นก้อน และทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ หรือสังเกตดูจนปุ๋ยหายร้อน ก็สามารถนำไปใช้ได้
หมายเหตุ: ระหว่างการหมัก ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเทเข้าเทออกสักหน่อย คล้ายๆ กับเป็นการกลับกองไปในตัว เเต่ถ้าลองสังเกตหรือจับดูเเล้วปุ๋ยที่หมักไม่ร้อนแสดงว่ากระบวนการหมักไม่เกิด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเราปรับความชื้นไม่เหมาะสม
สูตรที่ 3 การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในครัวเรือนแบบฝังดิน
วัสดุอุปกรณ์
1.ถุงผ้าแยงเขียว 1 ใบ
2.เศษอาหารที่สะสมไว้หลายวัน 1 ถัง
3.น้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ขันพลาสติก หรือ จุลินทรีย์น้ำซาว
วิธีทำ
1.ขุดดินเป็นหลุมลึกพอประมาณกับถุงที่ใส่เศษอาหาร
2.หย่อนก้นถุงผ้าแยงลงไปในหลุมแล้วเศษอาหารลงไปให้เต็ม
3.เทน้ำหมักที่เตรียมไว้ให้และมัดปากถุงผ้าแยงให้แน่น แล้ววางถุงลงแนวนอน
4.เอาดินกลบให้ทั่วถึง ไม่ต้องกลบแน่น หาป้ายเขียนวันหมักไว้เพื่อกันลืม หมักไว้ประมาณ 30 วันก็ขุดเอามาใช้ประโยชน์ได้
– น้ำหมักน้ำซาวข้าว
1.น้ำซาวข้าว 1- 1.5 ลิตร
2.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
3.นมเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
4.ขวดพลาสติกขนาด 1- 1.5 ลิตร
วิธีทำ
เทน้ำซาวข้าวที่เตรียมไว้ลงขวด ตามด้วยน้ำตาลทราย และนมเปรี้ยว เขย่าให้น้ำตาลละลายปิดฝาหลวมๆหมักไว้ 1 อาทิตย์
ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก
1.ปุ๋ยหมักเป็นการนำขยะอินทรีย์มาใช้ประโยชน์ใหม่ จึงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์เข้าระบบการจัดการขยะได้
2.ปุ๋ยหมักบางชนิดมีจุลินทรีย์ที่ช่วยยับยั้งและป้องกันจุลินทรีย์ที่ทำให้พืชเป็นโรคได้
3.ปุ๋ยหมักมีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
4.ปุ๋ยหมักเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตในดินที่เป็นประโยชน์ จึงช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
5.ปุ๋ยหมักมักจะปล่อยธาตุอาหารให้พืชอย่างช้า ๆ ทำให้อยู่ในดินได้ค่อนข้างนาน จึงมีโอกาสเสียน้อยกว่าปุ๋ยเคมี
6.ปุ๋ยหมักช่วยปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของดินให้เหมาะสมได้ ต่างจากปุ๋ยเคมีที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบ จึงอาจจะทำให้ดินแปรสภาพเป็นกรด
7.ปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มจุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ ทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น เช่น ร่วนซุย ระบายน้ำดี ถ่ายเทอากาศสะดวก และรากแผ่กระจายหาอาหารง่ายขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยเคมีไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงดินใด
8.ปุ๋ยหมักช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้ประหยัดเงิน เพราะสามารถใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ สามารถลดปริมาณการซื้อปุ๋ยเคมีลงได้ แถมยังไม่ต้องเสียเงินซื้อสารเคมีหรือยาป้องกันแมลงศัตรูพืชด้วย
3.ติดต่อประสานงาน
สมาชิกกลุ่มเป้าหมายหมู่บ้านบุก้านตง หมู่ที่ 12 ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 2 คน ได้ลงพื้นที่สอบถามติดต่อประสานงานไปยังสมาชิกชุมชน ให้คำแนะนำผู้สนใจจิตอาสาพัฒนา เพื่อเข้ารับการอบรมเป็นต้นแบบของชุมชนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ) ในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้สามารถประกวดครอบครัวและชุมชนต้นแบบการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ และยังนำความรู้ไปต่อยอดพัฒนาสู่ชุมชนยังเกิดการสร้างรายได้ลดรายจ่ายให้กับตนเองและพื้นที่ชุมชน
4.งานมอบหมายอื่น ๆ
ได้รับมอบหมายให้จัดทำสื่อการตลาดออนไลน์ ศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ งานตัดต่อภาพ/วีดีโอ บันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ ตัวแทนในการประสานงานประจำหมู่บ้านบุก้านตง หมู่ที่ 12 รวมกับพื้นที่ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ และงานมอบหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
5.ติดตามและให้คำแนะนำการเพาะเห็ดโรงเรือน
บ้านบุก้านตงพัฒนา บ้านหนองตาดตามุ่ง และบ้านบุขี้เหล็กใหม่ได้ลงพื้นที่ติดตามโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า บ้านหนองตาดตามุ่ง การเก็บผลผลิตนำไปจำหน่ายในชุมชน และเนื่องจากมีฝนตกอากาศชื้นแปรปรวนมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ เห็ดนางฟ้ามีผลผลิตที่น้อยลงเก็บผลผลิตได้ไม่มาก ซึ่งเห็ดได้เกิดเชื้อราแห้งดำ ทำให้บางส่วนเน่าเสียเชื้อตาย แมลงหวี่เริ่มระบาดทำลายก้อนเห็ด จึงได้ให้คำแนะนำกับสมาชิกชุมชนผู้ดูแลเห็ดนางฟ้า เคลื่อนย้ายเแคะหน้าเห็ดทำความสะอาดโรงเรือนเพาะเห็ด เก็บทำความสะอาดเชื้อหน้าเห็ดที่ได้ ทำการแคะทิ้งลงพื้นที่ในโรงเรือนให้สะอาด และจุดยากันยุงไล่หรือใช้สารกำจัดแมลงที่ไม่เกิดผลเสียต่อเห็ดกำจัดในโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า ทั้งนี้สมาชิกผู้ปฏิบัติงาน ได้ทำการคิดออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำการตลาดออนไลน์ เพื่อพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มมากขึ้นเราจึงได้เกิดการดำเนินงานพัฒนาต่อไป
ภาพกิจกรรมการปฏิบัติงาน