โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
บ้านแสลงพันพัฒนา ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ประจำเดือน ตุลาคม 2564
หลักสูตร HS06- การสร้างรายได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
โดยนางสาว ศิรินันท์ ฝาสูงเนิน ประเภท บัณฑิตจบใหม่ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
พื้นที่รับผิดชอบ หมู่ 14 บ้านแสลงพันพัฒนา ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ในเดือนตุลาคม ข้าพเจ้าและทีมผู้ปฏิบัติงานทุกท่านพร้อมด้วยคณาจารย์ประจำหลักสูตรได้มีการร่วมประชุม วางแผนงานในการดำเนินงานลงปฏิบัติงานกัน ทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ ในวันที่ 3, 4, 5 และ 12 ตุลาคม เพื่อวางแผนจัดการงานในส่วนต่างๆ เช่น การเข้าร่วมประชุมออนไลน์เรื่องการเก็บแบบสำรวจ SROI สรุปงานการสำรวจแบบสอบถามในตำบลแสลงพัน การจัดทำไซต์เสื้อให้กับสมาชิกใหม่ และเรื่องการหาตัวแทนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านในเขตตำบลแสลงพันในการเข้าร่วมกิจกรรมอบรมมอบอุปกรณ์และวิธีการทำน้ำหมักในสูตรต่างๆ ให้กับกลุ่ม กิจกรรมที่ดำเนินการปฏิบัติประจำเดือนตุลาคมมีดังนี้
ภาพการเข้าร่วมประชุมออนไลน์เรื่องการเก็บแบบสำรวจ SROI
ได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงาน HS06 บทที่ 1 โดยการกรอกข้อมูลสภาพทั่วไป ในการสำรวจชุมชน ร้านค้า อาชีพ ผลิตภัณฑ์และขนบทำเนียมประเพณีของหมู่บ้าน ดิฉันได้รับผิดชอบในเขตพื้นที่ตำบลแสลงพัน โดยดิฉันรับผิดชอบบ้านแสลงพันพัฒนา หมู่ 14 ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
จัดเก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกข้อมูล ตามแบบ SROI ได้รับหน้าที่ในการจัดเก็บกลุ่มเป้าหมายคือครอบครัวลูกจ้างโดยจัดหน้าที่กันรับผิดชอบดังนี้
ภาพกิจกรรม
ได้ร่วมกันกับทีมผู้ปฏิบัติงานในการไปลงพื้นที่พัฒนากิจกรรมผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ ในวันที่ 16-17 ตุลาคม 2564 ณ บ้านแสลงพันและบ้านบุขี้เหล็กใหม่
กิจกรรม ณ ศาลาประชาคมบ้านแสลงพัน มีสมาชิกเข้าร่วมอรบรมทั้งหมด 12 คน 8 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่ 5,7,14,1,15,12,16,3
กิจกรรม ณ ศาลาประชาคมบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา มีสมาชิกเข้าร่วมอรบรมทั้งหมด 6 คน 9 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 6,11,17,2,8,13,4,10,9
สูตรน้ำหมักชีวภาพ
สูตรที่ 1 การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
วัสดุและอุปกรณ์
1.เศษอาหารแห้ง เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ 1 ส่วน
2.มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า 1 ส่วน
3.ใบไม้ 1 ส่วน
4.ถังขนาด 20 ลิตร
5.ตาข่ายกันแมลง
วิธีทำ
1.นำถังขนาด 20 ลิตร มาเจาะรูไว้รอบถังแล้วใช้ตาข่ายกันแมลงพันให้รอบ เพื่อช่วยระบายอากาศและป้องกันแมลงรบกวน
2.ผสมเศษอาหารแห้งที่มีขนาดเล็กและไม่มีน้ำ เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ และเปลือกผลไม้ เข้ากับมูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า และเศษใบไม้ ในอัตรา 1:1:1 ส่วน
3.คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดฝาให้สนิท ถ้าหากวันต่อไปมีเศษอาหารเพิ่ม ก็นำมาเติมเข้าไปได้ แต่อย่าลืมผสมในอัตราส่วนเท่าเดิมด้วย
4.พลิกกลับส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน
หมายเหตุ: ในช่วงแรกไม่จำเป็นต้องเติมน้ำ เพราะเศษอาหารมีความชื้นอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มแห้งลง ก็สามารถพรมน้ำเข้าไปได้เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาในการหมักประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยหมักสีดำขนาดเล็ก ที่แห้งสนิทและไม่มีกลิ่นเหม็นไว้ใช้บำรุงต้นไม้แล้ว
สูตรที่ 2 การทำปุ๋ยหมักชีวภาพแบบน้ำ
วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1.ถุงกระสอบดินสำหรับใส่เศษอาหาร
2.ถังมีฝาปิด ขนาดที่สามารถใส่น้ำได้ 10 ลิตรขึ้นไป
3.น้ำตาล 1 กิโลกรัม
4.น้ำสะอาด 10 ลิตร ควรพักคลอรีนไว้สัก 1-2 คืน
วิธีทำ
1.นำน้ำสะอาด 10 ลิตร มาเติมลงในถัง ใส่กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม หรือใส่น้ำตาล 1 ส่วน ใช้ไม้กวนให้เข้ากัน
2.นำเศษอาหารใส่ลงในกระสอบ (กระสอบดินถุงที่พอจะมีช่องระบายอากาศ) มัดปากถุงแล้วแช่ลงไป โดยเเนะนำว่าไม่ควรใส่เศษอาหารเกิน 3 ส่วน
3.หมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 วัน โดยควรปิดฝาให้สนิท เพื่อให้แมลงจะได้ไม่มาไข่ เเละทำให้ถังหมักของเราไม่มีหนอน
วิธีนำมาใช้
1.เวลานำมาใช้รดน้ำต้นไม้ ก็ควรจะผสมให้เจือจาง เเนะนำว่าควรใช้ 2 ชัอนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 บัว (ประมาณ 20 ลิตร)
2.ส่วนกากที่เหลือก็สามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ยต่อได้ โดยนำมาผสมกับใบไม้แห้ง เเละปุ๋ยคอก รดน้ำ ปรับความชื้น 60% คือ เมื่อบีบแล้วไม่มีน้ำไหลซึมออกจากง่ามมือ และเมื่อแบมือออก ปุ๋ยยังคงจับตัวกันเป็นก้อน และทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ หรือสังเกตดูจนปุ๋ยหายร้อน ก็สามารถนำไปใช้ได้
หมายเหตุ: ระหว่างการหมัก ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเทเข้าเทออกสักหน่อย คล้ายๆ กับเป็นการกลับกองไปในตัว เเต่ถ้าลองสังเกตหรือจับดูเเล้วปุ๋ยที่หมักไม่ร้อนแสดงว่ากระบวนการหมักไม่เกิด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเราปรับความชื้นไม่เหมาะสม
สูตรที่ 3 การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในครัวเรือนแบบฝังดิน
วัสดุอุปกรณ์
1.ถุงผ้าแยงเขียว 1 ใบ
2.เศษอาหารที่สะสมไว้หลายวัน 1 ถัง
3.น้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ขันพลาสติก หรือ จุลินทรีย์น้ำซาว
วิธีทำ
1.ขุดดินเป็นหลุมลึกพอประมาณกับถุงที่ใส่เศษอาหาร
2.หย่อนก้นถุงผ้าแยงลงไปในหลุมแล้วเทเศษอาหารลงไปให้เต็ม
3.เทน้ำหมักที่เตรียมไว้ให้และมัดปากถุงผ้าแยงให้แน่น แล้ววางถุงลงแนวนอน
4.เอาดินกลบให้ทั่วถึง ไม่ต้องกลบแน่น หาป้ายเขียนวันหมักไว้เพื่อกันลืม หมักไว้ประมาณ 30 วันก็ขุดเอามาใช้ประโยชน์ได้
สูตรที่ 4 น้ำหมักน้ำซาวข้าว
1.น้ำซาวข้าว 1- 1.5 ลิตร
2.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
3.นมเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
- ขวดพลาสติกขนาด 1- 1.5 ลิตร
วิธีทำ
เทน้ำซาวข้าวที่เตรียมไว้ลงขวด ตามด้วยน้ำตาลทราย และนมเปรี้ยว เขย่าให้น้ำตาลละลายปิดฝาหลวมๆหมักไว้ 1 อาทิตย์
ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก
1.ปุ๋ยหมักเป็นการนำขยะอินทรีย์มาใช้ประโยชน์ใหม่ จึงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์เข้าระบบการจัดการขยะได้
- ปุ๋ยหมักบางชนิดมีจุลินทรีย์ที่ช่วยยับยั้งและป้องกันจุลินทรีย์ที่ทำให้พืชเป็นโรคได้
- ปุ๋ยหมักมีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
- ปุ๋ยหมักเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตในดินที่เป็นประโยชน์ จึงช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
- ปุ๋ยหมักมักจะปล่อยธาตุอาหารให้พืชอย่างช้า ๆ ทำให้อยู่ในดินได้ค่อนข้างนาน จึงมีโอกาสเสียน้อยกว่าปุ๋ยเคมี
- ปุ๋ยหมักช่วยปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของดินให้เหมาะสมได้ ต่างจากปุ๋ยเคมีที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบ จึงอาจจะทำให้ดินแปรสภาพเป็นกรด
- ปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มจุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ ทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น เช่น ร่วนซุย ระบายน้ำดี ถ่ายเทอากาศสะดวก และรากแผ่กระจายหาอาหารง่ายขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยเคมีไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงดินใด ๆ
- ปุ๋ยหมักช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้ประหยัดเงิน เพราะสามารถใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ สามารถลดปริมาณการซื้อปุ๋ยเคมีลงได้ แถมยังไม่ต้องเสียเงินซื้อสารเคมีหรือยาป้องกันแมลงศัตรูพืชด้วย
ติดตามและให้คำแนะนำการเพาะเห็ด วิธีการดูแลต่างๆที่โรงเรือนบ้านหนองตาดตามุ่ง บ้านบุก้านตง และบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา