บทความรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือนธันวาคม 2564
นายศิริพงษ์ เครือจันทร์ กลุ่มบัณฑิตจบใหม่
ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
- การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานฉบับสมบูรณ์บทที่ 1-4 หน้าที่รับผิดชอบ
ในการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานฉบับสมบูรณ์บทที่ 1 – 4 เป็นการสรุปผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มโครงการคือเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงเดือนธันวาคม 2564 โดยได้รับมอบหมายหน้าที่จากทีมปฏิบัติงานตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จัดทำและวิเคราะห์รายงานผลการปฏิบัติงานในบทที่ 2 ร่วมกับสมาชิกทีมคนอื่น โดยบทที่ 2 เป็นบทที่ว่าด้วยการวิเคราะห์ SWOT คือ จุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหา และอุปสรรค พร้อมทั้งข้อเสนอแนะต่าง โดยได้สรุปข้อมูลดังกล่าวและนำมาสรุปร่วมกับทีมผู้จัดทำในบททที่ 2 ซึ่งในการดำเนินโครงการตั้งแต่ต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ สามารถนำข้อมูลมาสรุปได้พอสังเขปว่า
จุดแข็ง (Strength) ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพเกษตรกรรม เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลักมี ความสนใจในการพัฒนาการเกษตรกรรมของตนเองโดยตลอด หลายครอบครัวสามารถปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองได้ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากประชาชนและชุมชน เด็กและเยาวชนในชุมชนได้รับการศึกษาภาคบังคับทุกคน และผู้นำแต่ละชุมชนมีความเข้มแข็ง
จุดอ่อน (Weakness) ผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้เกิดการว่างงานของประชาชน ประชาชนที่ทำการเกษตรปลูกข้าวต้องใช้ต้นทุนที่สูงแต่ผลผลิตน้อย พื้นที่ทำการเกษตรบางแห่งเป็นพื้นที่เช่า ประชาชนในวัยทำงานออกไปทำงานนอกพื้นที่อาศัย การประชาสัมพันธ์ของโครงการยังไม่ทั่วถึง การดำเนินกิจกรรมในบางส่วนยังไม่ได้รับความร่วมมือและต่อยอดจากประชาชน
โอกาส (Opportunity) ได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาโครงการได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย มีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และอบรมฝึกทักษะการจัดกิจกรรมทุกครั้งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน วัสดุและอุปกรณ์ที่จะนำมาพัฒนาในท้องถิ่นนั้นมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดหามา
อุปสรรค (Threat) ประชาชนยังขาดความเข้าใจในตัวโครงการที่นำมาพัฒนา ประชาชนบางส่วนยังไม่มีการต่อยอดการพัฒนาในโครงการ งบประมาณมีความจำกัด การฝึกอบรมและพัฒนาในบางครั้งจำกัดผู้ร่วมอบรมพัฒนา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้การพัฒนาขาดช่วง และสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดปัญหาในผลผลิตบางส่วน
ข้อเสนอแนะ
- ส่งเสริมการพัฒนาและผลิตภัณฑ์ของชุมชน
- จัดการฝึกอบรมทักษะและพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกร
- ส่งเสริมการใช้เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
- พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้กับชุมชน
- ส่งเสริมการจำหน่ายและการตลาดให้กับชุมชน
2. การจัด TSI สรุปภาพรวมของตำบล
เป็นการสรุปการดำเนินงานรายภาพรวมของตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ในภาพรวมโดยได้มีการสรุปข้อมูลสำคัญภายในตำบลรวมถึงข้อมูลการดำเนินงานตลอดโครงการ พอสรุปได้ว่า ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตำบลมุ่งสู่ความพอเพียง ประกอบไปด้วย 17 ตำบล 2,657 ครัวเรือน สภาพส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบโล่ง มีแหล่งน้ำสาธารณะ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร เลี้ยงสัตว์และทอผ้า ในส่วนผลลัพธ์จากการดำเนินงาน พบว่า
เชิงเศรษฐกิจ
1) รายได้ที่เพิ่มขึ้นประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น 15 %
2) ต้นทุนในการใช้สารเคมีลดลง 15% เหลือใช้มากขึ้นลดรายจ่ายภายในครัวเรือนลดลง 10%
3) สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้กับชุมชน
เชิงสังคม
1) ลดการใช้สารเคมีในการเกษตร
2) ชุมชนเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุเหลือใช้เพิ่มมากขึ้น
3) ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของชุมชน
4) ประชาชนในชุมชนพึ่งพาตนเองและพึ่งพากันเองบนฐานเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อเสนอแนะ
- ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้งการเพาะเห็ด แปรรูปเห็ด และการผลิตนำหมักชีวภาพ
- ส่งเสริมและพัฒนาตลาดออนไลน์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มีการบริหารจัดการ การพัฒนาทีม และการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
- ส่งเสริมกิจกรรมสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเองและพึ่งพากันเองในชุมชน ลดการพึ่งพาแบบทุนนิยม
- พัฒนาต่อยอดและสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ปรับปรุงแปรรูปให้เกิดประโยชน์สูงสุดบนฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น
- พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบนฐานของเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และยกเป็นเส้นทางท่องเที่ยวออนไลน์
3. กิจกรรมทำความดีด้วยหัวใจ 5 ธันวาคม 2564
วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2564 ทีมผู้ปฏิบัติงานตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับชุมชนจัดกิจกรรมทำความดีด้วยหัวใจ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 โดยได้มีการให้ความรู้กับชุมชนการทำการเกษตรแบบปลอดสารเคมีโดยใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์ และการการอบรมการทำปุ๋ยและดินด้วยเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรกับชุมชนบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนาและชุมชนข้างเคียง เพื่อส่งเสริมการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตรมาใช้ในครัวเรือนเพื่อลดต้นทุนในการใช้จ่ายในครัวเรือน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรที่ดีและปลอดภัยกับชุมชน ทั้งนี้ได้มีการแจกเมล็ดพันธุ์พืชผักกับชุมชนเพื่อเป็นต้นแบบในการทดลองใช้น้ำหมักชีวภาพสำหรับชุมชน
4. กิจกรรมบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา หมู่ที่ 17
วันที่ 4 ธันวาคม 2564 ทีมผู้ปฏิบัติงานตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับชุมชนบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนาและชุมชนใกล้เคียง พัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนภายหลังจากการหมดเชื้อของก้อนเห็ดของกลุ่มโรงเรือนเห็ดบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา ซึ่งได้มีการนำก้อนเห็ดที่หมดอายุการออกผลผลิตนำมาผลิตเป็นดินเกษตรเพื่อใช้ในการเกษตรของชุมชน ซึ่งได้มีการร่วมกันระหว่างทีมผู้ปฏิบัติงานและสมาชิกอาสาของชุมชนต่าง ๆ ร่วมกันทำดินเกษตรจากเห็ดและปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งการนำปุ๋ยหมักชีวภาพและดินเกษตรไปใช้ในการเพาะปลูกนั้น จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนเกิดผลที่ดีมีคุณภาพและปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งเป็นการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ในการผลิตดินปลุกและปุ๋ยหมักชีวภาพ จะทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและได้ผลผลิตที่ดีในการเกษตรของชุมชนด้วย
5. กิจกรรมบ้านบุก้านตงพัฒนา หมู่ที่ 16
วันที่ 4 ธันวาคม 2564 ในช่วงบ่ายภายหลังจากเสร็จกิจกรรมพัฒนาปุ๋ยหมักชีวภาพและดินเกษตรบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา ได้มีการลงพื้นที่จัดกิจกรรมพัฒนาปุ๋ยหมักชีวภาพของชุมชนบ้านบุก้านตงพัฒนา ซึ่งเป็นอีกชุมชนที่ได้มีการรวมตัวของกลุ่มชุมชนจัดตั้งโรงเรือนเพาะเห็ด และเห็ดได้หมดอายุการออกผลผลิตแล้ว ทีมผู้ปฏิบัติงานและกลุ่มประชาชนจิตอาสาโรงเรือนบ้านบุก้านตงพัฒนา ได้ร่วมการพัฒนาปุ๋ยหมักชีวภาพซึ่งเกิดจากเชื้อเห็ดฟางที่หมดอายุการออกผลผลิตแล้ว โดยนำเอาเศษวัสดุเหลือใช้ภายในชุมชนมาใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งประกอบด้วย
- ก้อนเชื้อเห็ดที่หมดอายุการใช้งานแล้ว
- ฟางข้าว
- ปุ๋ยคอกวัว/ควาย
- น้ำหมักชีวภาพ (เพื่อช่วยในการหมัก)
โดยนำวัสดุอุปกรณ์หมักด้วยกันเป็นชั้น ๆ ละรดน้ำหมัดชีวภาพให้ชุ่มเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในการหมัก และนำผ้าปิดไว้ จากนั้นหมักไว้ในระยะเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ปุ๋ยหมักชีวภาพเป็นการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และปุ๋ยหมักชีวภาพจะช่วยลดต้นทุนในการใช้สารเคมีพร้อมทั้งเพิ่มผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพในการเกษตรอีกด้วย
6. กิจกรรมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการใช้น้ำหมักชีวภาพของชุมชน
ในเดือนธันวาคมภายหลังจากเสร็จกิจกรรมพัฒนาดินเกษตรและปุ๋ยหมักชีวภาพของแต่ละชุมชนแล้ว ทีมผู้ปฏิบัติงานตำบลแสลงพันได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครัวเรือนต้นแบบที่มีการใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืชผลทางการเกษตร ซึ่งน้ำหมักชีวภาพนี้เกิดจากการพัฒนาและผลิตร่วมกันระหว่างทีมผู้ปฏิบัติงานตำบลแสลงพันและแต่ละชุมชน และได้มีการแจกจ่ายให้กับประชาชนในแต่ละตัวแทนของชุมชนพร้อมทั้งเมล็ดพันธุ์ทางเกษตรให้ชุมชนได้ทดลองใช้กับพืชพันธุ์ทางการเกษตรของตนเอง โดยผลจากการลงพื้นที่สวนเกษตรของชุมชนบ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนาและบ้านบุก้านตงพัฒนา พบว่าประชาชนได้นำน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการผลิตร่วมกันไปใช้ในแปลงพืชนผักทางการเกษตรของตน ทำให้ผลผลิตพืชพันธุ์ทางการเกษตรออกผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ สวยงาม และปลอดภัยจากสารเคมี เพราะเป็นสิ่งที่หาได้ภายในชุมชนมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพ ในบางชุมชนก็ได้มีการผลิตน้ำหมักไว้ใช้เองภายในครัวเรือนของตนเองเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ได้มีการสอบถามความต้องการเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรของชุมชนเพิ่มเติมด้วย
7. การจัดทำตลาดออนไลน์
ภายหลังจากการพัฒนาและผลิตน้ำหมักชีวภาพร่วมกับชุมชนและทีมผู้ปฏิบัติงานขึ้นแล้ว ทีมผู้ปฏิบัติงานได้มีการวางแผนและจัดทำการพัฒนาตลาดออนไลน์ สำหรับการจำหน่ายและเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากชุมชนของชุมชนตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้มีการจัดทำเพจออนไลน์สำหรับเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับชุมชน และพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ในการจำหน่ายสินค้าสำหรับออกสู่ท้องตลาดในรูปแบบของตลาดออนไลน์
8. การจัดทำกิจกรรมหลักสูตรระยะสั้น
ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ทีมผู้ปฏิบัติงานและอาจารย์ผู้รับผิดชอบประจำโครงการได้ร่วมกันประชุมเพื่อพัฒนาหลักสูตรระยะสั้นประจำโครงการ เช่น หลักสูตรการพัฒนาน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งเกิดจากการนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในชุมชนหรือเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เศษอาหาร หรืออื่น ๆ เพื่อนำมาหมักเพื่อเป้นน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้ในภายในครัวเรือนของตนเอง เพื่อลดต้นทุนในการใช้สารเคมีในครัวเรือน เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคและผลิตที่จะได้ความสะอาดและคุณภาพที่ดี ซึ่งจะได้มีการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้นในระยะต่อไปเพื่อให้เกิดหลักสูตรที่มีความพร้อม เกิดประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากที่สุดสำหรับผู้ที่จะได้เข้ามาศึกษาในหลักสูตรนี้
ตัวอย่างสูตรน้ำหมักชีวภาพและดินเกษตร
- ปุ๋ยหมักจากก้อนเห็ดเก่าในกระสอบ
วัสดุ
- ขี้วัว 1 กระสอบ
- รำหยาบ 1 กระสอบ
- ก้อนเห็ดเก่าบี้ให้ละเอียด
- น้ำหมัก (จุลินทรีย์น้ำซาวข้าว , จุลินทรีย์หน่อกล้วย ฮอร์โมนไข่ อย่างใดอย่างหนึ่ง 1 ขัน
- บัวรดน้ำขนาด 5 ลิตร
- น้ำเปล่า ประมาณ 25 ลิตร
วิธีทำ
- เทน้ำหมักผสมในน้ำที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน
- เทขี้วัวกับรำหยาบและก้อนเห็ดบี้ละเอียดลงในกะละมังผสมปูน
- รดน้ำลงไป 1 บัว แล้วใช้จอบคลุกเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันคลุกเคล้าดินอีก 3 รอบ โดยแต่ละรอบให้รดน้ำ 1 บัวต่อรอบ เมื่อคลุกเคล้าเสร็จในรอบที่ 4 ให้ลองกำส่วนผสมดูก่อนว่าส่วนผสมมีความชื้นหรือยัง ถ้ายังให้รดน้ำรอบที่ 5 แล้วคลุกส่วนผสมให้เข้ากัน
- ตักใส่กระสอบปุ๋ยครึ่งกระสอบ แล้วมัดด้วยเชือกเอาไปตั้งไว้ในที่ร่ม หมักไว้ 45-60 วัน
วิธีใช้ : ใช้รองหลุมปลูกพืชผักทุกชนิด และใส่พืชผักแทนปุ๋ยได้เลย
ประโยชน์ : ปุ๋ยหมักสูตรนี้มีไนโตรเจนสูง ปลูกผักงามไว ปลูกอะไรก็เขียว เพิ่มผลผลิต
- หมักดินปลูกจากก้อนเห็ดเก่าในกระสอบ
วัสดุ
1.ขี้วัว 1 ส่วน
2.รำหยาบ 1 ส่วน
3.แกลบเก่า 1 ส่วน
4.แกลบใหม่ 1 ส่วน
5.ดินร่วน 1 ส่วน
6.น้ำหมัก (จุลินทรีย์น้ำซาวข้าว , จุลินทรีย์หน่อกล้วย ฮอร์โมนไข่ อย่างใดอย่างหนึ่ง 1 ขัน
4.บัวรดน้ำขนาด 5 ลิตร
5.น้ำเปล่า ประมาณ 25 ลิตร
วิธีทำ
- เทน้ำหมักผสมในน้ำที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมข้อ 1-5 ลงในกะละมังผสมปูน
- รดน้ำลงไป 1 บัว แล้วใช้จอบคลุกเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากัน . ทำ (นับรอบที่ 1) คลุกเคล้าดินอีก 3 รอบ โดยแต่ละรอบให้รดน้ำ 1 บัวต่อรอบ เมื่อคลุกเคล้าเสร็จในรอบที่ 4 ให้ลองกำส่วนผสมดูก่อนว่าส่วนผสมมีความชื้นหรือยัง ถ้ายังให้รดน้ำรอบที่ 5 แล้วคลุกส่วนผสมให้เข้ากัน
- ตักใส่กระสอบปุ๋ยครึ่งกระสอบ แล้วมัดด้วยเชือกเอาไปตั้งไว้ในที่ร่ม หมักไว้ 30 วัน
วิธีใช้ : ใช้ปลูกพืชผักทุกชนิด
ประโยชน์ : ดินหมักสูตรนี้มีไนโตรเจนสูง ปลูกผักงามไว ปลูกอะไรก็เขียว เพิ่มผลผลิต
9. ภารกิจรับผิดชอบเฉพาะตนเอง
ภารกิจรับผิดชอบเฉพาะตนเอง ในฐานะผู้รับผิดชอบชุมชนหมู่ที่ 13 บ้านสามเขย ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการประสานกับผู้นำชุมชน เพื่อสอบถามและตรวจเยี่ยมผลผลิตทางการเกษตร ของตัวแทนชุมชนบ้านสามเขยที่เข้าร่วมโครงการทั้งนี้ ผลจากการใช้น้ำหมักชีวภาพที่ชุมชนบ้านสามเขยและทีมผู้ปฏิบัติงานตำบลแสลงพันได้ร่วมกันผลิตเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุมชนได้นำผลผลิตจากกิจกรรมในครั้งนั้นไปใช้ในแปลงผักการเกษตรของตนเอง พบว่าเกิดผลผลิตที่เจริญงอกงาม พืชผักใบเขียว ปลอดสารพิษ และลดค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีในครัวเรือน ทั้งนี้จากการติดตามผลผลิตของชุมชน พบว่าชุมชนมีความต้องการพัฒนาเศษอาหารในครัวเรือนเพื่อทำเป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการเกษตรของตน
10. กิจกรรมประชุม Online และ Onsite เรื่องต่าง ๆ
สรุปวาระการประชุมวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564
- การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานในแต่ละบท
– ทำได้ 80% ส่งข้อมูลให้อาจารย์ตรวจสอบเพิ่มเติม
– ใส่ภาพประกอบลงในแต่ละบท 4-5 ภาพให้เข้ากับเนื้อหา
- การลงพื้นที่บ้านหนองตาดตามุ่งวันที่ 30 พ.ย 2564 เป็นเรื่องการจัดทำปุ๋ยอินทรีย์จากก้อนเชื้อเห็ด
- กิจกรรมการทำ TSI ทำสรุป มอบหมายให้เจษฎาเป็นหลัก ส่งภายในวันที่ 6 ธ.ค. 64
- สำรวจผลการดำเนินการทำกิจกรรมน้ำหมักชีวภาพ การปลูกพืชผักสวนครัว เมล็ดพันธุ์ผักที่แจกให้ ว่าเป็นอย่างไร และสอบถามปัญหาในการลงมือทำ ความต้องการเมล็ดพันธุ์ผักเพิ่มเติม
- สอบถามการลงพื้นที่จัดทำตาราง ให้แจ้งให้สมาชิกในกลุ่มผู้ปฏิบัติงานให้ทราบ
- การจัดทำหลักสูตรระยะสั้น
- ทักษะการอบรมทั้ง 4 หลักสูตร เฉพาะสมาชิกใหม่
สรุปวาระการประชุมประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2564
- วันที่ 5-6 ธ.ค.จัดทำบทความและแบบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือนธันวาคม
- วันที่ 7-8 ธ.ค. ส่งให้อาจารย์ตรวจสอบและลงบทความในระบบให้เรียบร้อย
- วันที่ 9 ธ.ค. ส่งแบบใบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือนธันวาคมที่คณะ ไม่เกิน 12:00 น.
สรุปวาระการประชุม วันที่ 5 ธันวาคม 2564
- น้ำหมักชีวภาพที่เราได้ทำ มีการสั่งซื้อสินค้า และวางแผนการจัดทำบัญชีธนาคารของแสลงพัน
- การจัดทำ TSI
- การเขียนบทความและแผนแบบรายงานผลการปฏิบัติงานให้เร่งจัดทำส่งให้อาจารย์ที่รับผิดชอบตรวจสอบ
- วันที่12 ธันวาคม เป็นต้นไป ยังต้องมีการลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามปกติจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม
– เรื่องลงเวลาเข้า – ออกปฏิบัติงานให้ทำการลงถึงวันที่ 30 ธันวาคม
- การเบิกค่าตอบแทนของกลุ่มแสลงพันจำนวน 10,000 บาท