ข้าพเจ้านางสาววรรณพร สุขหนา ประเภท บัณฑิตจบใหม่ ตำบล โคกสะอาด อำเภอ ลำปลายมาศ จังหวัด บุรีรัมย์
หลักสูตร : HS07สร้างมูลค่าเพิ่มจากพืชสมุนไพรในท้องถิ่นโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบรูณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ได้ร่วมกันจัดสถานที่อบรมที่วัดมงคลนิมิต หมู่ที่ 13 บ้านสนวนพัฒนา ตำบลโคกสะอาด อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จัดตกสถานที่ทั้งวันจนเสร็จสิ้น
วันต่อมาวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมความรู้การใช้สมุนไพรในท้องถิ่นในการป้องกันโรคฟัง ตำรับยา “ลูกแปลกแม่” จากท่านอาจารย์ นางสาวภัทรานิษฐ์ กุลพิเชษฐ์วณิช
“ ตำนานลูกแปลกแม่” ของหลวงรัตน์พิมพานุรักษ์ บอกส่วนประกอบของตำรับยา “ ลูกแปลกแม่”วิธีปรุงยาและสรรพคุณยาโดยพิสดาร โดยจะใช้สมุนไพรหลัก 3 ตัวได้แก่ มะตูมนิ่มใช้ 1 ลูก กล้วยน้ำไท 1 หวี และพริกไท 1 ลิตร
กล้วยน้ำไท คืออะไร กล้วยน้ำไทเป็นกล้วยพื้นถิ่นซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงแพทย์แผนไทย ปัจจุบัน กล้วยน้ำไทกลายเป็นของหายาก เหลือเพียงชื่อสี่แยกกล้วยน้ำไท ซึ่งมีผู้กล่าวว่าเคยเป็นบริเวณที่มีกล้วยน้ำไทอยู่มากในอดีต และเรามักรู้จักกันแต่กล้วยน้ำว้า ซึ่งเดิมเรียกกันว่า กล้วยน้ำละว้า
กล้วยน้ำไทมีรสหวาน เปลือกหนา ขนาดอยู่ระหว่างกล้วยน้ำว้าและกล้วยหักมุก นอกจากจะใช้เป็นอาหารแล้วยังจัดเป็นเครื่องยาที่มีสรรพคุณมาก ดังปรากฏในหนังสือ ประมวลสรรพคุณยาไทย (ภาคหนึ่ง) ของสมาคม ร.ร.แพทย์แผนโบราณ
“…ปรุงเป็นยาเจริญอายุ ให้เอาเนื้อผลกล้วยน้ำไทยสุกเท่าอายุของผู้ที่จะรับประทานเรียงใส่โหลหรือขวด แล้วเอาน้ำผึ้งป่า (ผึ้งรวง ผึ้งหลวง) เทใส่ให้ท่วมผลกล้วย ปิดผนึกฝาโหลหรือขวดอย่าให้อากาศเข้าได้ นำไปไว้ที่หน้าพระประธานในโบสถ์ ตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา แล้วเอามารับประทานวันละ ๑ ผลจนหมด ร่างกายจะแข็งแรงอายุยืนวิเศษนัก…”
นอกจากใช้เป็นเครื่องยาแล้ว แพทย์แผนไทยในสมัยโบราณยังใช้กล้วยน้ำไทยในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของแพทย์ อาทิ พิธีบวงสรวง ขวัญเข้า ไหว้ครู จึงนับได้ว่าเป็น กล้วยพิธี อีกด้วย
ที่มา: หนังสือประมวลสรรพคุณยาไทย (ภาคหนึ่ง) ว่าด้วย พฤกษชาติ วัตถุธาตุ และสัตว์วัตถุนานาชนิด ของสมาคม ร.ร.แพทย์แผนโบราณ
วิธีทำยาลูกแปลกแม่
นำกล้วยน้ำไท 1 หวี มาปอกเปลือกแล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบดหรือปั่นให้ละเอียด
นำผลมะตูมนิ่ม 1 ลูก คว้านเนื้อออกมาแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบดหรือปั่นให้ละเอียด
นำพริกไทยล่อนหรือพริกไทยดำ 1 กิโลกรัม มาบดให้ละเอียด นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ในข้างต้น ใส่ลงกระทะทองเหลือง ใช้ไฟอ่อนๆ กวนให้เข้ากัน สังเกตเมื่อส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวไม่ติดกระทะ จึงยกลง แล้วทิ้งไว้ให้เย็น นำมาปั้นเป็นลูกเล็กกลมขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งหรืออบ แล้วเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด
สรรพคุณยาลูกแปลกแม่
สำหรับตำรับยาลูกแปลกแม่ มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสและอ่อนกว่าวัย และช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นยาอายุวัฒนะนั่นเอง ตำรับยาลูกแปลกแม่ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสและอ่อนกว่าวัย
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมความรู้การใช้สมุนไพรในท้องถิ่นในการป้องกันโรค จากท่านอาจารย์เสกสิทธิ์ ดวงคำ ได้ทราบถึงการเอาสมุนไพรหลายๆ ชนิดมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้ารับการฟังการบรรยายธรรมเรื่องการรักษาโรค เช่น โรคหัวใจ ดอกบัวขาวสาย 3 ดอก แกะเอากลีบดอก ตากแดด 3 แดดแล้วเอามาชงเป็นน้ำชาดื่ม เป็นต้น
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้ร่วมเกี่ยวข้าว โดยข้าวที่พวกเราได้ร่วมด้วยช่วยกันเกี่ยววันนี้เป็นข้าวอินทรีย์พันธุ์ “ทับทิมชุมแพ” ซึ่งทีม “โครงการมหาวิทยาลัยสร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T)” ต.โคกสะอาด จะได้นำข้าวพันธุ์นี้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ
….ณ บริเวณที่ปลูกข้าวตรงนี้เป็นพื้นที่ของวัดมงคลนิมิตร ราว 1 ไร่เศษ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสได้ใช้เป็นพื้นที่ทดลองปลูกข้าวอินทรีย์มา 7-8 ปี แล้ว โดยข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วจะนำไปแจกจ่ายชาวบ้าน เก็บไว้ทำพันธุ์ และมอบให้ชุมชนคุณธรรมวัดมงคลนิมิตรไปจำหน่ายเพื่อใช้เป็นกองทุนในการบริหารจัดการต่างๆ
…..ขอบพระคุณท่านพระครูนิมิตร เจ้าคณะตำบลโคกสะอาด คณะกรรมการโครงการ U2T ผู้ปฏิบัติงานทีมจิตอาสาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และพี่น้องชาวบ้านทุกคนทุกท่านที่ได้มาร่วมด้วยช่วยกันเกี่ยว
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมความรู้การใช้สมุนไพรในท้องถิ่นและกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย