เรื่อง ฉีดเถอะ “วัคซีน”

ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบัน ทำให้เป็นปัญหาหลักสำหรับการดำเนินชีวิต ซึ่งในด้านเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาหลักแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านโรคระบาดชนิดใหม่ชื่อ เชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ Covid-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องหาทางออกร่วมกันเพื่อหยุดการระบาดของเชื้อ ทุกประเทศรู้ดีสำหรับการแพร่เชื้อนี้ที่สามารถติดต่อได้ง่ายมากทั้งทางอากาศ การไอ จาม แม้กระทั้งการพูดคุย ซึ่งเป็นเหตุทำให้เชื้อไวรัสโคโรน่า แพร่เชื้อและระบาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนานาประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อนี้เป็นอย่างมาก

ประเทศไทยได้รับผลกระทบนี้อย่างหนัก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การดำรงชีพของประชากร การพบปะสังสรรค์ งานประจำปี ต่างๆจำต้องถูกระงับหรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้สำหรับพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ ประชากรเงินเดือนต่างแดน ต้องเสียโอกาสในการประกอบชีพเพื่อหาเม็ดเงินมาใช้จ่ายในการดำรงชีวิต พ่อค้าแม่ค้าต้องหยุดค้าขาย ผู้ประกอบการขาดทุนและปิดกิจการไป ผู้ที่ทำงานต่างแดนต้องตกงานเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ผู้ประกอบการไม่สามารถจ้างต่อได้เนื่องจากต้องรักษากิจการไว้ทำให้ประชากรมากกว่าร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์ เดือดร้อน ซึ่งในปัจจุบันทางผู้นำประเทศได้ตื่นตัวและออกมาตรการต่างๆเพื่อตั้งรับ และป้องกันไม่ให้เชื้อระบาดเพิ่มไปมากกว่านี้หรือหยุดระบาดไป ซึ่งนานาประเทศต่างมีมาตรการที่คล้ายๆกันคือการสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง มั่นล้างมือ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อไวรัสเบื้องต้น และมีหนึ่งอย่างที่ทางผู้นำประเทศต้องการให้เกิดขึ้นที่สุด คือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร แต่ในการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนออกมาฉีดวัคซีนนั้นเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากมีข่าวจากสำนักต่างๆ สื่อออนไลน์ ไลน์และเฟสบุ๊ค ต่างแชร์ผลกระทบ ผลข้างเคียงต่างๆนาๆ จากการฉีดวัคซีน เป็นเหตุให้มีประชากรส่วนหนึ่งไม่กล้าที่จะออกมาฉีดวัคซีนเพราะกลัวที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ผู้เขียนเองได้ฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงอยากจะแชร์ความรู้สึกและการเตรียมตัวก่อนการมาฉีด ซึ่งผู้เขียนเองก็มีความคิดในด้านลบต่อวัคซีนเป็นอย่างมากในช่วงแรก แม้กระทั้งมีรายชื่อมาฉีดถึงกับต้องปฏิเสธกันเลยทีเดียว ต่อมาด้วยตัวผู้เขียนเองได้ปฏิบัติงานอยู่ในอำเภอ จำเป็นต้องพบปะผู้คนมากมายซึ่งส่วนตัวแล้วเราไม่รู้ว่าใครไปที่ไหนมาบ้างจึงเริ่มคิดที่จะฉีดเนื่องจากอยู่ในสภาวะเสี่ยง จึงขอลงชื่อฉีดวัคซีนกับทางอำเภอและก่อนที่จะฉีดทางโรงพยาบาลได้มีการให้ข้อมูลการเตรียมตัวสำหรับผู้ที่จะฉีดวัคซีนมาอาทิเช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหรือออกกำลังกายหนักๆ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ประมาณนี้ พอถึงกำหนดวันที่จะฉีดก็มีทีมคุณหมอจากโรงพยาบาลมาให้บริการกว่าร้อยชีวิตก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้น พอวัดความดัน สอบประวัติเรียบร้อยก็ทำการฉีด หลังจากฉีดแล้วต้องนั้งอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อดูอาการ พร้อมกับดาวโหลดแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมเพื่อทำแบบประเมินอาการเป็นระยะๆ และรับใบนัดเข็มที่สองต่อไป ซึ่งจะเห็นว่าทางโรงพยาบาลได้ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนมาก สำหรับตัวผู้เขียนนั้นไม่ได้มีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด

ทั้งนี้การฉีดวัคซีนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่เราทุกคนต้องเตรียมตัวก่อนการฉีดวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด อีกทั้งการฉีดวัคซีนยังเป็นการป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโคโรน่าและยังเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมไปในตัว ผู้เขียนจึงอยากขอเชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเปิดใจและลงชื่อรับวัคซีนครั้งนี้ เพื่อตัวท่านและคนที่ท่านรักครับ

นายอัครวัฒน์ เชาว์ชูรัมย์

กพร.ศูนย์ดำรงธรรมที่ว่าการอำเภอหนองหงส์

ภาพที่(1) ร่วมจัดเตรียมสถานที่รับรองสำหรับผู้ที่มาฉีดวัคซีน

ภาพที่(2) ร่วมเตรียมสถานที่กักกันตัวสำหรับผู้ที่มาจากต่างสถานที่หรือพื้นที่เสี่ยง

ภาพที่(3) ฉีดวัคซีนป้องการเชื้อไวรัส covid 19

อื่นๆ

เมนู