ข้าพเจ้านางสาว ปารีณา ทิพย์อักษร ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลโคกสะอาด อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
หลักสูตร : HS07 โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพืชสมุนไพรในท้องถิ่น โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบรูณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ
เมื่อวันที่26 เดือนพฤษภาคมทางคณะอาจารย์และทีมงานของตำบลโคกสะอาดนั้นได้มีการจัดกิจกรรม covid-19 week u2t ก้าวต่อไป สู้ภัยโควิด โดยทีมงานภายในตำบลโคกสะอาด ได้ไปทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน โดยมีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือให้กับชาวบ้านและแจกให้กับ อสม.แต่ละจุดต่างๆของภายในชุมชน และได้มีการทำความสะอาดบริเวณศาสนสถาน บริเวณที่สำคัญๆที่ชาวบ้านรวมตัวหรือพื้นที่เสี่ยงต่างๆ และได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19
ช่วงบ่ายทางทีมงานและคณะอาจารย์ได้ไปทำการเดินรณรงค์ที่หมู่บ้านต่างๆในชุมชนและได้ไปที่วัดป่าเพื่อที่จะไปทำการสำรวจพืชสมุนไพรเพราะที่วัดป่านั้นได้มีพืชสมุนไพรพอสมควรจากการที่ได้ไปสำรวจได้พบชาวบ้านมาช่วยกันสร้างโบสถ์วัดกันจากที่สอบถามชาวบ้านแล้ว ชาวบ้านได้ช่วยกันทำงานแบบฟรีๆไม่ได้มีค่าจ้างแต่อย่างใดซึ่งชาวบ้านบอกว่าทำไปฟรีๆค่าแรงไม่มีทำเอาบุญกันซึ่งชาวบ้านได้มีความสามัคคีมากจากนั้นเทางทีมงานได้แจกแมสและแจกสเปรย์เเอลกอฮอล์และได้ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ชาวบ้านไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 กันอีกด้วย
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ได้มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่คนในชุมชน เรื่องผลิตภัณฑ์ พืชสมุนไพร โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ร่วมกับทีมงานu2tได้เชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร เพื่อที่จะนำความรู้และแนวทางให้คนในชุมชนสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างรายได้ซึ่งทางวิทยากรที่มาให้ความรู้เรื่องการทำผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร การแปรรูปจากข้าวสารมาทำในรูปแบบของเครื่องสำอางจากน้ำนมข้าว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เช่น การทำโทนเนอร์จากน้ำนมข้าว(สูตรไม่หมัก) (สูตรหมัก) ซึ่งการทำโทนเนอร์เป็นโลชั่นเช็ดผิวและมีหน้าที่ช่วยกันทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการล้างทำความสะอาดใบหน้าช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมก่อนทาครีมบำรุงผิวนั้นเอง ต่อมาได้ทำสลิปปิ้งมาร์คน้ำนมข้าว มีทั้งหมด2สูตร คือ สูตรไม่ผ่านความร้อนและสูตรที่ผ่านความร้อน สลิปปิ้งมาร์คคือมาร์ชนิดหนึ่งที่ผลิตออกมาคล้ายกับเซรั่มอย่างหนึ่งแต่มีการใช้งานที่แตกต่างกันโดยสลิปปิ้งมาร์คมีทั้งมาร์คแล้วต้องล้างออกและไม่ต้องล้างออกและบางตัวสามารถที่มาร์คไว้ข้ามคืนได้เลยในกรณีที่สูตรอ่อนโยนและช่วยให้ผิวหน้าของเรานั้นดูไม่หมองคล้ำและทำให้ผิวหมองคล้ำแลดูจางลงอีกด้วย ต่อมาจะพูดถึงการทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย บอดี้โลชั้น ซึ่งโลชั่นนั้นเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อครีมบางเบา ทำให้เกลี่ยง่ายเพราะมีความเข้มข้นน้อยนิยมใช้ทาผิวกาย ทางวิทยาการนั้นได้ทำการสอนทำ โลชั่นดาวเรืองแมรี่โกลด์ ที่ทำมาจากดาวเรืองนั้นเอง
เมื่อวันที่11 เดือนมิถุนายน ทางทีมงานและคณะอาจารย์ที่รับผิดชอบของตำบลโคกสะอาดได้จัดกิจกรรมอบรมเรื่องการทำสเปรย์และเจลเเอลกอฮอล์ การทำสเปรย์หอมไล่ยุ่งซึงช่วงนี้มีโรคไข้เลือดออก ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกีเป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่มาพร้อมกับสายฝนที่มี“ ยุงลายตัวเมีย” เป็นพาหะนำโรคโดยการกัดและปล่อยเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งเจ้ายุงลายมักจะไปวางไข่ในบริเวณที่มีน้ำขังนิ่งเพราะฉะนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแบบนี้ต้องตรวจตรารอบบ้านกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่าปล่อยให้มีน้ำขังใส่ทรายเบทเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลายหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่ยุงชุกชุมไม่สวมเสื้อผ้าสีทึบรวมไปถึงใช้“ สเปรย์ไล่ยุง” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมซึ่งในช่วงที่โควิด -19 ระบาดแบบนี้อยู่บ้านว่าง ๆ ก็สามารถทำ“ สเปรย์หอมไล่ยุง” ไว้ใช้เองได้ดังนี้
ส่วนผสม 1. ตะไคร้ 50 กรัม 2. ผิวมะกรูด 100 กรัม 3. กานพลู 20 กรัม 4. การบูร 50 กรัม 5. แอลกอฮอล์ 1 ลิตร
วิธีทำ 1. นำตะไคร้ผิวมะกรูดและกานพลูที่เตรียมไว้ห่อด้วยผ้าขาวบางผูกให้เรียบร้อยจากนั้นใส่ลงในโหล 2. เติมเอทิลแอลกอฮอล์ปิดฝาให้สนิทหมั่นคนเช้า-เย็นเป็นเวลา 7 วัน 3. พอครบ 7 วันนำห่อผ้าออกแล้วเต็มการบูรลงไป 4. บรรจุในขวดสเปรย์พร้อมปิดฉลากให้สังเกตได้ชัดป้องกันการหยิบใช้ผิด
วิธีใช้ ให้ฉีดตามผิวกาย แต่ควรระวังการสัมผัสกับเยื่อบุอ่อนที่บอบบางเพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองนอกจากนี้ยังสามารถนำสมุนไพรอื่น ๆ ที่ใช้ไล่ยุงได้ ได้แก่ ผิวมะกรูดกะเพราโหระพายูคาลิปตัสมาทำสเปรย์ไล่ยุงตามวิธีข้างต้นหรือจะนำมาขยี้ทุบให้มีกลิ่นแล้วนำไปวางไว้ที่มุมหรือจุดที่ต้องการก็ให้ประสิทธิภาพในการไล่ยุงและแมลงอื่น ๆ เช่นเดียวกัน