รายงานผลการปฏิบัติงาน

นายสุทธิภรณ์ เพชรสังหาร

พื้นที่เก็บข้อมูล บ้านหนองไทร บ้านหนองบัว บ้านน้อยพัฒนา บ้านหนองม่วง ตำบล ทะเมนชัย อำเภอ ลำปลายมาศ จังหวัด บุรีรัมย์

ในเดือนกันยายนมีการจัดทำรายงานการดำเนินงานโครงการ  รอบแรก (เดือนมีนาคม-กรกฎาคม) 2564 โดยมีการหาข้อมูลสำคัญของในแต่ละชุมชนมาสรุป เพื่อจัดทำรูปเล่ม และนำส่งรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมการตลาดโดยมีการจัดทำเพจนำเสนอผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม เพื่อเป็นการพัฒนาตลาดออนไลน์ให้กับชุมชน และอยู่ในช่วงของการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทั้งตัวผลิตภัณฑ์ และตัวบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการฝึกทำข้าวแต๋นในช่วงนี้อาจจะมีปัญหาเนื่องจากมีฝนตกเป็นระยะในแต่ละวัน กระทบต่อกระบวนการทำผลิตภัณฑ์ คือ การนำข้าวแต๋นไปตากแดด ทั้งด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้การติดตามผลและการให้คำแนะนำ ต้องใช้สื่อออนไลน์ในการดำเนินการ หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะดำเนินการลงพื้นที่ในชุมชนต่อไป

การปฏิบัติงานในเดือนตุลาคม ข้าพเจ้าได้ติดตามผล งานจากเดือนกันยายน คือ การจัดทำรายงานการดำเนินงานโครงการ  รอบแรก (เดือนมีนาคม-กรกฎาคม) 2564 บทที่  สภาพทั่วไปของพื้นที่พัฒนา ข้าพเจ้าได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลดังกล่าว ณ พื้นที่ที่ได้รับผิดชอบ ซึ่งกลุ่มนักศึกษาได้ลงพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านน้อยพัฒนา บ้านหนองม่วง บ้านหนองบัว และบ้านหนองไทร ตำบลทะเมนชัย อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพทั่วไปของพื้นที่ ตัวอย่างข้อมูล เช่น ประวัติของหมู่บ้าน จำนวนประชากร ปราชญ์ชาวบ้าน ข้อมูลสมาชิกชุมชน ข้อมูลเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น และได้สรุปข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้ในการจัดทำข้อมูลในบทที่ 1 เรื่องสภาพทั่วไปของพื้นที่พัฒนา

วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เข้าร่วมประชุมออนไลน์จากส่วนกลางมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ผ่านโปรแกรม ZOOM เรื่องการเก็บข้อมูลแบบสำรวจ SROI เป็นการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการดำเนินกิจกรรม ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (U2T) ซึ่งกลุ่มนักศึกษารวมถึงข้าพเจ้าได้รับหน้าที่ได้การบันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม (Google Forms) ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา

วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ลงพื้นที่จัดกิจกรรมพัฒนาข้าวแต๋น ณ บ้านน้อยพัฒนา ตำบลทะเมนชัย ผู้เข้าร่วมกิจกกรรม รวมทั้งหมด 56 คน อาจารย์ 2 ท่าน ผู้ปฏิบัติงาน 33 คน ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 21 คน 7 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 3 คน  (บ้านน้อยพัฒนา บ้านหนองม่วง บ้านหนองน้ำขุ่น บ้านหนองตาด บ้านใหม่อัมพวัน บ้านนหนองหญ้าปล้อง บ้านบุตาริด) กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาสูตรการทำข้าวแต๋น และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของข้าวแต๋น สูตรข้าวแต๋นที่มีการเพิ่มมา มีดังนี้

 

สูตรและขั้นตอนวิธีการทำข้าวแต๋น

 

  • ข้าวแต๋นชาเขียว

ส่วนผสม

  • ข้าวเหนียว 1/2 กก.
  • เกลือป่น                                  1 ชช.
  • น้ำชาเขียว(ชาตรามือ)                   1 ถ้วยตวง(สำหรับทำสีของข้าว)
  • น้ำชาเขียว(ชาตรามือ)                     3 ช้อนโต๊ะ(สำหรับเคี่ยวน้ำตาล)
  • งาดำหรืองาขาว                            2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลมะพร้าว/น้ำตาลอ้อย(มิตรผล)      500 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง                           2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำกะทิกล่อง                               1 ช้อนโต้ะ

วิธีการทำ

  1. นำข้าวเหนียวล้างเอาสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมออกให้หมด และแช่ข้าวเหนียวไว้ 1 คืน(หม่าข้าว)
  2. นึ่งข้าวเหนียวและพักไว้ให้คลายความร้อน (ถ้าข้าวแข็งๆนิดนึงจะดีมากเพราะจะทำให้ใส่พิมพ์และปั้นง่าย)
  3. เมื่อข้าวคลายร้อนแล้ว ให้ใส่น้ำชาเขียวที่ผ่านการกรองเหลือแต่น้ำแล้ว 1 ถ้วยตวงหรือให้เช็กดูว่าข้าวที่ใส่ชาเขียวแล้วเหนียวได้ที่กำลังดี
  4. ใส่เกลือป่นและงาดำหรืองาขาวก็ได้
  5. ใช้มือคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันเบาๆพยายามให้ข้าวกระจายเป็นเม็ดและให้สังเกตสีของข้าวว่ามีสีชาเขียวทั่วทุกเม็ด ห้ามบี้หรือบีบข้าวเพราะจะทำให้เกาะกันเป็นไตได้
  6. เสร็จแล้ว พักไว้ 5 นาที
  7. นำข้าวที่พักไว้แล้ว ปั้นใส่พิมพ์ พยายามอย่าให้ข้าวอัดกันแน่นเกินไปเพราะเวลานำมาทอดข้าวจะไม่ฟู
  8. นำไปตากแดดจัด 1 วัน (ครึ่งวันๆอย่าลืมพลิกกลับด้านข้าวด้วยนะคะ)

 

วิธีทอดข้าวแต๋น

  • ตั้งไฟรอน้ำมันเดือดจัด แล้วนำข้าวที่ตากแล้ว ลงทอด ตอนทอดพยายามอย่าใช้ไฟแรงจนเกินไป และให้หมั่นพลิกกลับด้านข้าวบ่อยๆ จนเหลืองสวย แล้วนำพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน

 

วิธีทำน้ำตาลราดข้าวแต๋น

  • นำน้ำกะทิ+น้ำชาเขียว+น้ำตาลมะพร้าว/น้ำตาลอ้อย+น้ำตาลทรายแดง(น้ำตาลทรายแดงจะช่วยให้น้ำตาลตกทรายง่ายขึ้นสามารถเช็กความหนึดของน้ำตาลเวลาเคี่ยวแล้วเพิ่มปริมาณได้) และเกลือ1หยิบมือ ใส่ลงไป แล้วเปิดไฟ ใช้ไฟอ่อนอย่าใช้ไฟแรง เคี่ยวส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน **ทั้งเคี่ยวและคน**ระวังน้ำตาลไหม้นะคะ เคี่ยวจนน้ำตาลเริ่มตกทรายเกาะขอบหม้อ แล้วให้ปิดไฟ และเคี่ยวต่อแบบไม่มีไฟ
  • พักน้ำตาลให้คลายร้อนซักพัก แล้วค่อยนำมาราดบนหน้าข้าวแต๋น

 

  • ข้าวแต๋นมันม่วง
  • มีส่วนผสมและขั้นตอนวิธีการทำคล้ายกันกับชาเขียว โดยมีปริมาณในการใช้ส่วนผสมเหมือนกัน แต่ให้เปลี่ยนจากชาเขียวเป็นมันม่วง ซึ่งน้ำสีของมันม่วงได้จากการเอามันม่วงมาปั้นกรองเอาแต่น้ำ

เคล็ดลับ : เวลาเคี่ยวน้ำตาลชาเขียว/มันม่วงให้สังเกตกลิ่นและสีของน้ำราด ถ้ายังหอมออกกลิ่นของชาเขียวไม่พอสามารถเติมน้ำชาเขียวเพิ่มได้..แต่ห้ามเติมตอนเคี่ยวร้อนๆเด็ดขาด ให้เติมตอนที่น้ำตาลคลายร้อนแล้วเท่านั้น เพราะถ้าเติมตอนร้อนๆน้ำตาลจะไหม้ได้(สูตรและเทคนิควิธีการทำสามารถปรับได้ตามความถนัดของแต่ละบุคคลนะคะ)

 

สูตรโดย นางสาวสิรินภา ทะกาเนนะ

ผู้ปฏิบัติงานโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล(U2T)

 

บรรจุภัณฑ์ข้าวแต๋น จะเป็นซองแบบมีซิปล็อคเพื่อรักษาความกรอบของข้าวแต๋น การทำข้าวแต๋นในช่วงเดือนตุลาคม มีปัญหาที่พบคือ การตากข้าวแต๋นไม่แห้ง เนื่องจากฝนตกในแต่ละวันทำให้ไม่สามารถตากข้าวแต๋นได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้

ในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 จัดกิจกรรมพัฒนาข้าวหมาก ณ ศูนย์ชุมชนข้าวบุลิ้นฟ้า บ้านบุลิ้นฟ้า ตำบลทะเมนชัย อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาในเรื่องของตลาดออนไลน์ ในการขายผลิตภัณฑ์ข้าวหมาก และมีวิทยากรมาให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายข้าวหมาก เพื่อที่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจะได้นำเอาความรู้ที่ได้มานี้มาประยุกต์ใช้ในการทำข้าวหมากขาย ซึ่งสูตรการทำข้าหมากมี ดังนี้

ส่วนประกอบและอัตราส่วน   : ข้าวเหนียวหอมมะลิ  1 กก.   แป้งข้าวหมาก 2-3  ลูก

วิธีทำ : 1.นำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วมาล้างน้ำฝน ประมาณ 3 ครั้ง ใช้มือถูเบาๆ จนข้าวหมดเมือกหรือให้น้ำใส แล้วใส่ตะแกรงผึ่งให้สะเด็ดน้ำ

2.นำลูกแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด โรยแป้งข้าวหมากบนข้าวเหนียว ใช้ไม้พายคลุกเคล้าข้าวเหนียวให้ทั่ว

3.บรรจุข้าวเหนียวที่ได้ใส่ภาชนะ ปิดฝาให้สนิทเก็บไว้ 2-3 วัน ก็จะสามารถรับประทานได้

เคล็ดลับวิธีทำ ข้าวหมากหวาน

– ข้าวเหนียวใหม่ คือข้าวเหนียวซึ่งเพิ่งเก็บเกี่ยวในหนึ่งปี เมื่อนำไปนึ่งข้าวจะนิ่มแฉะกว่าข้าวเหนียวเก่า

– การเตรียมนึ่งข้าว ต้องให้น้ำไหลออกจากหวดจนสะเด็ดน้ำ ก่อนที่จะนำไปนึ่ง

– ห้ามล้างข้าวขณะที่ข้าวยังร้อนอยู่ ทำให้ข้าวเหนียวแฉะ ควรรอให้ข้าวคลายความร้อนก่อนล้าง หากล้างข้าวเหนียวเละ และแฉะ จะมีน้ำอยู่ในข้าวมาก ทำให้ข้าวหมากที่มีรสเปรี้ยวได้

– น้ำต้อยข้าวหมากออกมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเมล็ดข้าวที่คลุกเคล้า เมล็ดข้าวที่คลุกเคล้าลูกแป้งข้าวหมากแล้ว ค่อนข้างมีเมล็ดติดกัน น้ำต้อยจะออกมามาก แต่ถ้าเมล็ดข้าวที่คลุกเคล้าลูกแป้งข้าวหมากค่อนข้างแห้งเมล็ดไม่ติดกันน้ำต้อยจะออกมาพอดี

– ลูกแป้งข้าวหมากต้องไม่เก่าเกินไป เพราะเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในลูกแป้งอาจตายหรือมีน้อยเกินไป ทำให้ข้าวหมากไม่หวาน- เก็บข้าวหมากที่อยู่ระหว่างการหมักไว้ในพื้นที่ที่สะอาด

รูปภาพในการปฏิบัติงานในเดือนตุลาคม

  

 

วิดีโอการปฏิบัติงานเดือนตุลาคม

 

อื่นๆ

เมนู