ข้าพเจ้า นางสาว วนิชยา หอมขจร ประเภทประชาชน ( ID03)
โดยเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ เนื่องจากมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19จึงทำให้การลงพื้นที่เก็บข้อมูลนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันเป็นจำนวนมากจึงได้มีประชุมกับทีมงานผ่านทาง
ออนไลน์และได้มีการจัดแจงแบ่งงานให้ โดยทำการแบ่งกลุ่มกัน เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการเก็บข้อมูลและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อโรคระบาดโดยภายในเดือนกรกฎาคมนี้จึงได้ทำการสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลในApplicationU2T
ได้ทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการ เกษตร และภูมิปัญญาในท้องถิ่น ที่ ต.หินลาด อ.กรวด จ.บุรีรัมย์ ข้อมูลจากกลุ่มที่ไปสำรวจมาในพื้นก็จะมีการปลูก ข้าว อ้อย มันสําปะหลัง พืชผัก ผลไม้ ยางพารา
ภูมิปัญญาที่ได้จากกลุ่มที่ไปสำตรวจมาก็จะพบว่ามี การทำ การสานตะกร้า กระบุง ดอกไม้จันทน์
กลุ่มตะกร้าสาน เป็นกลุ่มฝึกอาชีพที่ผลิตเครื่องจักสาน จากช่างฝีมือพื้นบ้าน ในชุมชน ตำบลหินลาด
อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สืบทอดภูมิปัญญาด้านการจักสาน ทำให้ชุมชนได้รับประโยชน์ดังนี้
- ฝึกสอนให้แก่เยาวชนในท้องถิ่น และผู้สนใจ ได้เรียนรู้และฝึกหัดการจักสาน ผลิตภัณฑ์ เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาด้านการจักสาน ให้คงไว้สืบต่อไป ไม่สูญหาย
- สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน
- ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานของกลุ่มจักสานตะกร้า การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้บุคคลทั่วไป รู้จักงานฝีมือ
ในสมัยก่อนการจัดงานศพ ยังไม่มีคนฉีดยาหรือวิธีการเก็บรักษาศพไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ดังนั้นในการเผาศพจึงต้องใช้ดอกไม้จันทน์ ซึ่งทำมาจากไม้จันทน์อันเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม ใช้ควบคู่กับธูปทองและเทียนทอง เพราะเชื่อกันว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์จะนำดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปสู่สวรรค์ แต่การใช้ดอกไม้จันทน์จะมีอยู่ในที่วงแคบ ใช้เฉพาะกับผู้มีตระกูลสูงเท่านั้น สามัญชนจะใช้ไม่ได้ เพราะดอกไม้จันทน์เป็นของสูง ของต้องห้าม และมีราคาแพง ต่อมาสมัย ร.5 เนื่องจากดอกไม้จันทน์หายากขึ้น กรมพระยาดำรงราชนุภาพจึงได้คิดค้นใช้ไม้จันทน์ทำเป็นแผ่นบางๆ มัดเป็นช่อ เรียกว่าดอกไม้จันทน์ เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานศพนำไปวางที่เผาศพ ต่อมาจึงแผ่ขยายการใช้ดอกไม้จันทน์ในหมู่สามัญชน เนื่องจากไม้จันทน์นั้นหายาก จึงมีการนำไม้โมกมาทำแผ่นบางๆ เป็นดอกไม้จันทน์ ต่อมาไม้โมกหายากและราคาแพง จึงเปลี่ยนใช้วัสดุอย่างอื่นแทน ซึ่งเป็นวัสดุที่หาง่ายและมีราคาถูก รูปแบบของดอกไม้จันทน์ได้พัฒนาขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย มีทั้งรูปแบบและสีสันสวยงาม หลากหลายมาก รวมถึงทัศนคติของคนใช้ดอกไม้จันทน์เปลี่ยนไปเป็นการแสดงความเคารพและระลึกถึงผู้ที่ตนรักเป็นครั้งสุดท้าย สีสันและความสวยความสัมพันธ์กับชุมชนเป็นงานฝีมือ โดยคนในชุมชนอย่างแท้จริง เป็นการใช้เวลาว่างของผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน ทำให้คนในชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นการรักษาภูมิปัญญา เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนและครอบครัวงามของดอกไม้จันทน์จึงมีความสำคัญมากขึ้น
ผลสรุปการทำงานในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา(COVID-19) จึงทำให้การลงพื้นที่สำรวจเกิดความลำบาก โดยทางทีมงานได้แบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ3-4 คนเพื่อจะลงพื้นที่ได้สะดวกและไม่เกิดการรวมตัวกันเป็นหมู่มาก โดยการลงพื้นที่สำรวจผ่าน Application U2T