แผนฉีดวัคซีนเพื่อสร้าง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ถูกประกาศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมกำหนดให้วันที่ 7 มิ.ย. เป็นจุดเริ่มต้นในการปูพรมฉีดทั้งประเทศ ขณะที่รณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ประชาชนจำนวนมากกลับยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ ข่าววัคซีนขาดแคลน ไม่มาตามนัด หรือฉีดครบแล้วแต่ยังติดโรค หรือได้รับผลข้างเคียงรุนแรง ก็ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน อย่างไรก็ตามหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสามนับจากเดือน เม.ย. ทำให้แผนบริหารจัดการวัคซีนต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการจัดสรรวัคซีนให้พื้นที่แพร่ระบาดหนักเพื่อหยุดวงจรการแพร่เชื้อโรค อาทิ ระดมฉีดให้พนักงานสถานบันเทิงหลังเกิด “คลัสเตอร์ทองหล่อ”, ระดมฉีดให้ชาวชุมชนแออัดหลังเกิด “คลัสเตอร์คลองเตย”, ระดมฉีดให้ผู้ต้องขังหลังเกิด “คลัสเตอร์เรือนจำ” ฯลฯ

การนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ล่าช้า อาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนและประเทศชาติ ทั้งในด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ ซึ่งค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบอย่างมาก รวมไปถึงระบบสาธารณสุข อาทิ โรงพยาบาลไม่มีเตียงที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดโควิด  เนื่องจากประชาชนต้องออกไปทำงานเลี้ยงชีพ และการติดโควิดเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ จึงทำให้เกิดการประกาศล็อกดาวน์จากรัฐบาลอีกครั้ง ทำให้ประชาชนจำนวนมากแห่กลับบ้านเกิด  เพราะอยู่ไปก็ไม่สามารถทำงานได้และอาจจะถึงขั้นไม่มีสตางค์ในการดำเนินชีวิตประจำวันและเลี้ยงปากท้อง เนื่องมาจากมีประชาชนจำนวนกลับบ้าน จึงทำให้จังหวัดต่างๆมีสถานที่กักตัว และโรงพยาบาลสนามเกิดขึ้น

ผู้สำรวจได้เข้าไปสอบถามและสำรวจผู้ที่มากักตัวของแต่ละสถานที่ใน ตำบลบ้านกรวด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และได้เข้าไปมอบหน้ากากอนามัยให้กับสถานกักตัว  โรงพยาบาลสนาม และจุดตรวจโควิดของแต่ละหมู่บ้าน ผู้สำรวจหวังว่าจะมีการนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและประชาชนสามารถเข้าถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจะรวดเร็วขึ้นมากว่าเดิม

                       

 

 

 

อื่นๆ

เมนู