ข้าพเจ้านางสาววริทธิ์นันท์ เวชชศาสตร์ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ได้มีโอกาศร่วมกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์การปลูกกล้วยและการเรียนรู้การแปรรูปจากกล้วยให้เป็นมูลค่า ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสายโท 12 ใต้ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาเรียนรู้วิธีการทำกล้วยทอดกันค่ะ กล้วยทอดนั้นสามารถหาทานได้ง่ายตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายและสร้างรายได้ให้กับเราได้ดีค่ะ
กล้วยทอดหรือกล้วยแขก ซึ่งเป็นอาหารหรือขนมชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในแผ่นดินพระนารายณ์มหาราช คำว่าแขกมีความหมายว่าแปลก หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคย อาหารก็เช่นกันถ้าไม่เป็นที่คุ้นเคยก็มักจะเรียกว่าของแปลก อาหาราชนิดนี้เป็นอาหารหรือขนมของคนอิสลาม เนื่องจากคนอิสลามจะมีความคุ้นเคยและรู้เรื่องขนมหรืออาหารทอดเป็นอย่างดี แต่ก่อนการทอดมิได้เป็นวิธีทำอาหารของคนไทยมาแต่ดั่งเดิม โดยเฉพาะการทอดด้วยแป้งผสมน้ำและมีการใส่เครื่องเทศประเภทเมล็ดหรือมะพร้าวรวมทอดไปด้วย จึงเป็นของแปลกสำหรับคนไทย รวมเรียกว่ากล้วยแปลก แล้วเพี้ยนมาเป็นกล้วยแขกตามที่ทุกคนรู้จัก เป็นของว่างสำหรับกินเล่นของคนไทย มีรสชาติอร่อย เป็นอาหารหรือขนมของคนไทยแม้จะมีชื่อว่ากล้วยแขกก็ตาม
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
- กล้วยน้ำว้าห่าม
- แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม
- แป้งอเนกประสงค์ ครึ่งกิโลกรัม
- กากมะพร้าว ครึ่งกิโลกรัม
- กะทิ 1 กิโลกรัม
- น้ำปูนใส ครึ่งแก้ว
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- งา 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำแข็ง
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำกล้วยทอด
- นำแป้งข้าวเจ้า แป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลมาผสมกับเกลือแล้วนวดให้เข้ากับหัวกะทิ และมะพร้าวขูด
- นวดส่วนผสมให้เข้ากันแล้วใส่น้ำปูนใสและผงฟู จากนั้นนวดต่อ
- ใส่งาลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว
- จากนั้นใส่น้ำแข็งและคลุกเคล้าให้เข้ากัน(น้ำแข็งจะทำให้กล้วยทอดนั้นกรอบ)
- ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงกระทะ โดยประมาณให้ท่วมกล้วยที่จะทอด
- เมื่อน้ำมันร้อน ให้นำกล้วยที่หั่นตามยาว 3 ชิ้น ต่อ 1 ลูก ชุบแป้งที่ผสมไว้ตามข้อ ข้างบนแล้วใส่ลงในน้ำมันจนเต็มกระทะ
- ทอดจนแป้งเหลืองกรอบ และเนื้อกล้วยสุก
- เร่งไฟขึ้นเล็กน้อยก่อนทอดเสร็จ (เพื่อป้องกันการอมน้ำมัน) จากนั้นตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
ประโยชน์ของการรับประทานกล้วยน้ำว้า
- รักษาโรคกระเพาะอาหาร
- ช่วยระงับกลิ่นปาก
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
- มีแคลเซียมสูง
- ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
- ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมอง
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยในการลดความอ้วน
- ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ
- ช่วยรักษาอาการท้องผูก
- ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร
- ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง