สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาว ขันแก้ว ณพล ประเภทประชาชน ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ วันนี้ดิฉันขอนำเสนอ สวนเศรษฐกิจพอเพียง (สวน 9-10 คุณ ธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์) หมู่ที่ 3 ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

คุณ ธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์ ครั้งก่อนเคยเปิดร้านอาหารย่านทองหล่อ รายได้ค่อนข้างดี ต่อมา  เมื่อปีพ.ศ.2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้กิจการของเขาต้องหยุดชะงัก ไม่มีรายได้ ทำให้ติดหนี้มากถึง1,200,000 บาท ต่อมาเขาได้มีโอกาสเข้าอบรมวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง โดย อ.ยักษ์ (นาย วิวัฒน์ ศัลยกำธร) ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

             

ต่อมาเขาได้กลับบ้านเกิดและได้พลิกผืนนาที่เขามีอยู่ ให้เป็นสวนเศรษฐกิจพอเพียง มีการปลูกพืชผสมผสาน การจัดการน้ำที่ดีเยี่ยม และการปลูกข้าวแบบไม่ต้องไถนา ซึ่งเป็นเรื่องแปลก และน่าสนใจอย่างมาก เริ่มจากปรับที่โดยการขุดบ่อและปล่อยน้ำจากที่สูงลงที่ต่ำ คล้ายขั้นบันได และขังน้ำไว้เป็นระบบน้ำล้น และใช้ปั๊มน้ำระบบโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำจากข้างล่างขึ้นข้างบน แล้วปล่อยลงมาแบบนี้อยู่ตลอด การปลูกข้าวนั้นเริ่มจากปล่อยน้ำให้เต็มที่นาแล้วปล่อยปลานิลลงไป จากนั้นปลาจะกินซากซังข้าวและถ่ายมูลเป็นปุ๋ยอย่างดี เมื่อจับปลาแล้วก็ปล่อยน้ำลงที่ต่ำ นาก็จะเป็นดินโคลนตม ก็สามารถปลูกข้าวได้เลยโดยไม่ต้องไถนั่นเอง วิธีนี้จะเห็นได้ว่า คุณ ธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์ มีการจัดการพื้นที่และระบบการจัดการน้ำที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับพื้นที่เป็นอย่างดี นับว่าเป็นบุคคลต้นแบบ และเป็นแบบอย่างในด้านเศรษฐกิจพอเพียงที่ดีเยี่ยมเลยค่ะ

ปัจจุบันสวนเศรษฐกิจพอเพียง9-10 ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ปรัชญาวิถีเศรษฐกิจพอเพียง การปรับพื้นที่ทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ “โคกหนองนาโมเดล”ซึ่งเป็นที่สนใจอย่างมากแก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่และผู้ที่สนใจจากต่างถิ่น

 

 

อื่นๆ

เมนู