ข้าพเจ้านางสาวธนวรรณ พวงประโคน  เจ้าหน้าที่ประจำ  ตำบลจรเข้มาก  ประเภทบัณฑิตจบใหม่
อาชีพของคนในหมู่บ้านกระสังหมู่ที่ 4 ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์อาชีพโดยส่วนใหญ่ของคนในชุมชนจะเป็นเกษตรกรและรองลงมาคือรับจ้างทั่วไปอาชีพเกษตรกรของบ้านกระสังจะมีการปลูกข้าวซึ่งจะทำได้ปีละครั้งจะเริ่มจากการเตรียมดินเพื่อทำการเพาะปลูกในช่วงเดือนเมษายนและเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ในช่วงเดือนพฤษภาคมแต่ละปีจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับอัตราของการเกิดฝนในปีนั้นการปลูกข้าวจำเป็นต้องใช้น้ำในการเพาะปลูกจำนวนมากเพื่อให้ข้าวที่ปลูกนั้นได้ผลผลิตที่ดีและเมื่อเกษตรกรว่างเว้นจากการทำนาจะหันมาทำอาชีพรับจ้างทั่วไปเพื่อหารายได้ไปสำโรงในการทำนาเนื่องจากรายการทำงานแต่ละครั้งจะมีจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการทำนาไม่น้อยเลยตัวอย่างเช่นค่าปุ๋ยค่าแรงงานค่าเก็บเกี่ยวจึงทำให้คนในชุมชนต้องหาอาชีพเสริมเพื่อนำเงินไปหมุนในช่วงฤดูการทำนานอกจากค่าใช้จ่ายในการทำนายังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในครัวเรือนอาทิเช่นค่าอาหารค่าน้ำค่าไฟค่าเล่าเรียนของบุตรหลานค่ารถเเละค่าใช้จ่ายอื่นๆ รายได้จากการทำนาจะขึ้นอยู่กับราคาข้าวในแต่ละปีนั้นจากที่ข้าพเจ้าได้รับรู้ถึงราคาข้าวในปีที่ผ่านๆมาราคาต่ำสุดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาทและ 1 ตันจะตกอยู่ที่ 6,000 บาท ผลผลิตจากการทำนาต่อไร่จะตกอยู่ที่ 1-2 ตันต่อไร่จำนวนเงินที่เกษตรกรลงทุนในการทำนาแต่ละไร่มีดังนี้ค่าไถนาไร่ละ 520 บาทค่าแรงงานในการหว่านข้าวหว่านปุ๋ยไร่ละ 300-400 บาทต่อไร่ค่ารถเกี่ยวข้าวไร่ละ 550 บาทถึง 560 บาทต่อไร่ค่าปุ๋ยในการทำนาถุงละ 500-600 บาทต่อถุงนา 1 ไร่จะใช้ปุ๋ยในการทำนาประมาณ 4-5 ถุงโดยรวมแล้วเกษตรกรจะใช้ทุนในการทำนาแต่ละไร่จะตกอยู่ที่ประมาณ 10000 บาทต่อไร่หลังหักค่าใช้จ่ายในการทำนาแต่ละปีต่อไร่รายได้จะเหลือประมาณ 2,000 บาทต่อไร่โดยประมาณ
                                                            
                                                                 
                                                  

อื่นๆ

เมนู