ข้าพเจ้านางสาวปิยะดา ได้ทุกทาง ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดำเนินงาน ตำบลโนนเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ปฏิบัติงานจากโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ”
จากการสำรวจแบบฟอร์ม 01 หมู่บ้านหัวถนนหมู่ที่ 7 ระหว่างวันที่ 1-15 เมษายน 2564 โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าชาวบ้านจะทำอาชีพหลักเป็น เกษตรกร ค้าขาย และเลี้ยงสัตว์ เช่น ทำนา ปลูกมันสำปะหลัง และปลูกต้นยางพารา บางครัวเรือนจะประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคและจำหน่วย ในส่วนของชีวิตประจำวันนั้น แต่ละครัวเรือนจะดำรงชีวิตแตกต่างกัน ในเช้าจนถึงช่วงสายของแต่ละ
ครัวเรือนจะไปออกดูตามไปสวนและไร่นาของตนเอง บางครัวเรือนที่ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงวัว ควาย ไก่ในช่วงเช้าจะนำสัตว์เลี้ยง ไปปล่อยไว้ตามสวนและทุ่งนาของตนเอง ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา ในช่วงนี้ได้ทำการปิดหน้ายางแล้ว จึงไม่ได้มีการกรีดยางในช่วงนี้ และมีการว่างงาน ทำให้ไม่มีรายได้ในช่วงนี้ กล่าวถึงไปว่าโดยรายได้ของคนในชุมชนนั้นมาจากอาชีพ เช่น การทำการเกษตร รายได้เฉลี่ยแต่ละครัวเรือนนั้น อยู่ที่ น้อยกว่า 5,000 บาท ต่อเดือน/ครัวเรือน ในการทำการเกษตร มีการลุงทนจำนวนมาก ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา สารเคมี ค่าจ้างแรงงาน ค่าจ้างรถไถ ซึ่งค่าใช้จ่ายสูง ทำให้เงินทุนในส่วนของตนเองนั้นไม่เพียงพอ จึงเกิดการหยิบยืมเงินจากสถานที่ให้บริการต่างๆ ทั้งในระบบและนอกระบบ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตร(ธกส) ส่งผลให้คนในชุมชนมีหนี้สิ้นเป็นจำนวนมาก ในด้านแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน เช่น ห้วย ป่าไม้ แหล่งโบราณสถาน วัด
จากการสำรวจแบบฟอร์ม 02 ในปัจจุบันผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้คนในชุมชนที่เคยไปประกอบอาชีพที่ต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ฯลฯ จึงส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบอาชีพ ว่างงาน ตกงาน และขาดรายได้ จึงย้ายกลับถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง เพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัว
ปัญหาที่พบในชุมชนส่วนใหญ่ คือ แหล่งน้ำใช้ไม่เพียงพอ เส้นทางบางเส้นยังไม่ได้รับการแก้ไข และพัฒนา รวมไปถึงไฟฟ้าตามซอยยังไม่ทั่วถึง และปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจนของคนในชุมชน
จากการสำรวจแบบฟอร์ม 06 แบบสำรวจเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่ covid-19 พบว่า ชาวบ้านค่อนข้างมีความรู้ดีเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค covid-19 มาตลอดเป็นอย่างดี และในที่ที่มีประชาชนหนาแน่น พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่รู้วิธีป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลทำความสะอาดมือ และมีผู้นำชุมชนให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 มีวิธีการป้องกันชาวบ้านให้ห่างไกลจาก covid-19 ภายในชุมชนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเจลแอลกอฮอล์ตามจุดสำคัญต่างๆของหมู่บ้านให้บริการอย่างมากมาย และในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในครั้งนี้ชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พูดคุยเป็นกันเองทำให้การเก็บข้อมูลไม่มีอุปสรรคในระหว่างการปฏิบัติงาน จึงทำให้การสำรวจแบบฟอร์ม(06) สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ผลวิเคราะห์ SWOT ของชุมชนที่ได้ลงพื้นที่สำรวจของตำบลโนนเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
1.จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ (Strengths) | – มีพื้นที่ทำกินเยอะ – มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ – เทศบาลออกกฎหมายท้องถิ่นที่สามารถแก้ปัญหาตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ |
2.จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ (Weaknesses) | – เส้นทางคมนาคมไม่สะดวกและยังไม่ได้มาตรฐาน(ไม่มีไฟฟ้าส่องถนนที่ทั่วถึง) – ไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำใช้อุปโภคบริโภค – ปัญหาขยะในชุมชนไม่มีสถานที่รับรองขยะและระบบจำกัดขยะที่ได้มาตรฐาน |
3.โอกาสที่จะดำเนินการได้ (Opportunities) | – หน่วยงานรัฐส่งเสริมพื้นที่ทำเกษตรที่มีประสิทธิภาพ – ประชาชนได้รับการส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดี |
4.อุปสรรคในการดำเนินงาน (Threats) | – ขาดทักษะการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ – ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาโควิด กลุ่มอาชีพไม่สามารถร่วมตัวได้เข้มแข็ง |
ภาพปฏิบัติงาน
วีดิโอในการปฏิบัติงาน