ข้าพเจ้า นายอภิวัตร์ พันธ์วงษ์ ประเภทนักศึกษา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน บ้านโคกใหญ่ ตำบลโนนเจริญ
จากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลหมู่บ้านโคกใหญ่ หมู่ ๙ ในเดือนกุมพาพันธ์ – มีนาคม เป็นเวลา 2 เดือน โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าชาวบ้านจะทำอาชีพหลักเป็น เกษตรกร ค้าขาย และเลี้ยงสัตว์ เช่น ทำนา ปลูกมันสำปะหลัง บางครัวเรือนจะประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคและจำหน่าย
ในส่วนของชีวิตประจำวันนั้น แต่ละครัวเรือนจะมีการดำรงชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนมากในช่วงเช้าจนถึงช่วงสายของแต่ละครัวเรือนจะออกไปดูตามสวนและไร่นาของตนเอง บางครัวเรือนที่ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ในช่วงสายจะนำสัตว์เลี้ยง ไปปล่อยไว้ตามสวนและทุ่งนาของตนเอง หลัังจากนั้นชาวบ้านจะทำภารกิจประจำวันของตนเองและจะมีการนำสัตว์เลี้ยงของนเองเช้าคอกในช่วงเย็น และมีการว่างงาน ทำให้ไม่มีรายได้ในช่วงนี้ กล่าวถึงรายได้ของคนในชุมชนนั้นมาจากอาชีพหลัก เช่น การทำการเกษตร รายได้เฉลี่ยแต่ละครัวเรือนนั้น อยู่ที่น้อยกว่า 5,000 บาท ต่อเดือน/ครัวเรือน ในการทำการเกษตร มีการลงทุนจำนวนมาก ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา สารเคมี ค่าจ้างแรงงาน ค่าจ้างรถไถ และค่ารถเกี่ยวข้าวในฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้เงินทุนในส่วนของตนเองนั้นไม่เพียงพอ จึงเกิดการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินนที่ให้บริการต่างๆ ทั้งในระบบและนอกระบบ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตร(ธกส) ส่งผลให้คนในชุมชนมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก
ในด้านแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน เช่น ห้วย ป่าไม้ แหล่งโบราณสถาน วัด
ในหมู่บ้านเคยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในต้นปี 2563 ทำให้ชาวบ้านเกิดภาวะความเครียดในการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านสุขภาพของคนในครอบครัว จึงมีการสั่งปิดหมู่บ้านเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบให้คนในชุมชมได้รับปัญหาตกงาน และขาดรายได้ ในปัจจุบันผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ปัญหาที่พบเห็นภายในชุมชนส่วนใหญ่ คือ แหล่งน้ำใช้ไม่เพียงพอ ถนนบางเส้นได้รับการแก้ไขและพัฒนายังไม่แล้วเสร็จ ทำให้การจราจรภายในหมู่บ้านลำบากขึ้นเล็กน้อยและยังทำให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมากเมื่อมียานพาหนะขับผ่านไปผ่านมาภายในหมู่บ้านด้วยความเร็ว รวมถึงไฟฟ้าตามซอยต่างๆภายในหมู่บ้านยังไม่ทั่วถึง และปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจนของคนในชุมชน
จากการสำรวจข้อมูลของชุมชน ตำบลโนนเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ จึงนำข้อมูลจากการสำรวจมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลจากการ SWOT ในวันที่ 3 เมษายน 2564 จึงได้ทราบข้อมูลสรุปภาพรวมแต่ละข้อแต่ละประเด็นดังต่อไปนี้
จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ (Strengths)
1. มีพื้นที่ทำกินเยอะ
2. มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
3. มีงบประมาณดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วย
4. มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงคนในชุมชน
5. เทศบาลออกกฎหมายท้องถิ่นที่สามารถแก้ปัญหาตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
6. มีสถานศึกษาในตำบลที่มีความพร้อม มีศักยภาพในการศึกษา มีศูนย์เรียนรู้ วิสาหกิจชุมชน
7. ประชาชนมีคุณภาพในการบริหารงาน
8. ประชากรส่วนใหญ่ปลูกกล้วยทุกครัวเรือน
จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ (Weaknesses)
1. เส้นทางคมนาคมไม่สะดวกและยังไม่ได้มาตรฐาน(ไม่มีไฟฟ้าส่องถนนที่ทั่วถึง)
2. ไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำใช้อุปโภคบริโภค
3. ปัญหาขยะในชุมชนไม่มีสถานที่รับรองขยะและระบบจำกัดขยะที่ได้มาตรฐาน
4. ไม่มีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้แน่นอน
5. ประชาชนส่วนใหญ่มีหนี้สินนอกระบบ
6. ประชาชนยังขาดการปลูกฝังและเรียนรู้การใช้ทรัพยากรอย่างถูกต้อง
7. การรวมกลุ่มยังไม่เข้มแข็งและยั่งยืน
โอกาสที่จะดำเนินการได้ (Opportunities)
1. หน่วยงานรัฐส่งเสริมพื้นที่ทำเกษตรที่มีประสิทธิภาพ
2. ประชาชนได้รับการส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดี
3. รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนหรือเชื่อมโยงเครือข่าย
4. หน่วยงานรัฐให้ความช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ
5. สามาถรขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
6. นโยบายกองทุนหมู่บ้านทำให้ชุมชนต่างมีความเข้มแข็ง
อุปสรรคในการดำเนินงาน (Threats)
1. ขาดทักษะการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
2. ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาโควิด กลุ่มอาชีพไม่สามารถรวมตัวได้เข้มแข็ง
3. สถาบันครอบครัวไม่เข้มแข็ง
4. ขาดทักษะจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
5. ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการประชุมประชาคมหมู่บ้าน
จากข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมาเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากการเก็บข้อมูลที่ผ่านๆมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลจะเป็นหลักที่ใช้เพื่อสร้างแนวทางและฐานเบื้องต้นเพื่อพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนตำบลโนนเจริญให้ดียิ่งขึ้น และหลักสำคัญคือเพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ ๑ มหาวิทยาลัย ๑ ตําบล (มหาวิทยาลัยสู่ตําบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ)