ข้าพเจ้า  นางสาวดวงใจ อู่ตะเภา ผู้ปัฏติงานภาคประชาชน  จากการลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ของชาวบ้าน ศรีสุข หมู่ที่5   ที่ผ่านมา  พบว่าโดยส่วนใหญ่พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพหลัก คือ การทำเกษตรกรรม  เพื่อดำรงชีพ  เช่น ทำนา ทำไร ทำสวนเลี้ยงสัตว์  ส่วนอาชีพรองคือรับจ้าง

การดำรงชีวิตประจำวัน

ครอบครัวที่มีการทำอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร ทำสวน  เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย ก็พอมีรายได้เสริมจากการขายมูลสัตว์ดังนั้น วัว และควาย จึงมีราคาแพง ทำให้คนส่วนใหญ่จึงหันมาเลี้ยง วัวและควายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เลี้ยงเพื่อเศรษฐกิจเลี้ยงเพื่ออนุรักษ์ และสำหรับครอบครัวที่ทำอาชีพสวนยางพารา ก็พอมีรายได้รายสัปดาห์ อาชีพส่วนใหญ่ของคนในชุมชน คือทำเกษตรกรรมและรับจ้างเพื่อเป็นรายได้ในการดำรงชีพ  รายได้เฉลี่ย   ต่อเดือนจึงตำกว่า ๗000 บาท   ต่อเดือน/ต่อครัวเรือน

ชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีการลงทุนค่อนข้างสูง เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น เงินหมุนเวียนในครอบครัวไม่เพียงพอและ นี่อาจเป็นสาเหตุใหญ่และเหตุผลหลัก ในการกู้ยืมต่างๆเกิดขึ้น ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ เช่น (.ธ. ก. ส.)ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์  นี้อาจเป็นที่มาของเหตุผลหลักที่ทำให้ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่มีหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

ทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน อย่างเช่น วัด ชลประทาน ห้วยหนองคลองบึง บ่อน้ำในหมู่บ้าน

 

ณ  ปัจจุบันผลกระทบที่ได้รับมาจากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (COVID-19) ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทำให้หลายอาชีพ ว่างงาน ตกงาน  ขาดรายได้

อื่นๆ

เมนู