ข้าพเจ้า นางสาวเกษรัตน์ นามลักษณ์ ผู้ปัฏติงานภาคประชาชน จากการลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ของชาวบ้าน ศรีสุข หมู่ที่๕ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา พบว่าโดยส่วนใหญ่พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพหลัก คือ การทำเกษตรกรรม เพื่อดำรงชีพ เช่น ทำนา ทำไร ทำสวนเลี้ยงสัตว์ ส่วนอาชีพรองคือรับจ้าง เป็นต้น
การดำรงชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของคนในชุมชน แต่ละครัวเรือน ส่วนใหญ่มีภาระและหน้าที่แตกต่างกันออกไป อาทิ เช่น
ครอบครัวที่มีการทำอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร ทำสวน ส่วนใหญ่ก็จะต้องตื่นแต่เช้าตรู เพื่อไปดูแลพืชสวนและผลิตของตนเองที่ได้ทำการเพราะปลูกไว้ บางครัวเรือนมีการทำเกษตรกรรมควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย ก็พอมีรายได้เสริมจากการขายมูลสัตว์ดังนั้นในปัจจุบัน วัว และควาย จึงมีราคาแพง ทำให้คนส่วนใหญ่จึงหันมาเลี้ยง วัวและควายเพิ่มขึ้นจำนวนมากบางกลุ่มก็เลี้ยงเพื่อเศรษฐกิจบางกลุ่มก็เลี้ยงเพื่ออนุรักษ์ และสำหรับครอบครัวที่ทำอาชีพสวนยางพารา ในช่วงนี้ฤดูปลายหนาวจะเข้าฤดูร้อนก็ถึงช่วงเวลาปิดพักหน้ายาง จึงทำให้รายได้หลักของครอบครัวที่เคยมีลดลงและเกิดการว่างงานขาดรายได้ รายจ่ายเท่าเดิมหรือบางครอบครัวอาจมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น อาชีพส่วนใหญ่ของคนในชุมชน คือทำเกษตรกรรมและรับจ้างเพื่อเป็นรายได้ในการดำรงชีพ
ชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีการลงทุนค่อนข้างสูง เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น เงินหมุนเวียนในครอบครัวไม่เพียงพอและ นี่อาจเป็นสาเหตุใหญ่และเหตุผลหลัก ในการกู้ยืมต่างๆเกิดขึ้น ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ เช่น (.ธ. ก. ส.)ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น นี้อาจเป็นที่มาของเหตุผลหลักที่ทำให้ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่มีหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก