ข้าพเจ้านางสาว กนิษฐา กะรัมย์ บัณฑิตจบใหม่ ได้ลงพื้นที่สำรวจการเฝ้าระวังโควิด 19  และการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพ ตำบลตะโกตาพิ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำเดือนสิงหาคม

                             

             ข้าพเจ้าได้ออกสำรวจเกี่ยวกับการเฝ้าระวังโควิด 19 ในตำบล พบว่าแต่ละหมู่บ้านในตำบลตะโกตาพิ จะมีกลุ่มอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน อสม. คอยทำหน้าที่สำรวจและเฝ้าระวังโควิด 19 อย่างเคร่งครัด และในช่วงนี้ได้มีผู้ที่อยู่ในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงกลับมาที่หมู่บ้าน กลุ่ม อสม.ได้จัดเตรียมสถานที่กักตัวที่วัด 4-5 จุด จุดละประมาณ 35-40 คน ทั้งนี้ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวให้ครบ 14 วันเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และจะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่บุคคลอื่น และเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

                           

          ในส่วนของการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพได้มีหัวหน้ากลุ่มเกษตรกรมาให้ความรู้ และสอนวิธีการทำ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรประหยัดต้นทุน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ลดการใช้สารเคมี หันมาใช้สารอินทรีย์ จึงจําเป็นที่จะต้องให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจ รู้จักผลิตและใช้สารอินทรีย์ เพื่อทำให้ผลผลิตมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค รสชาติดีมีคุณภาพ ทั้งนี้น้ำหมักที่ทำ ได้แก่ การทำน้ำหมักชีวภาพ และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพ

  1. ช่วยปรับสภาพความเป็น กรด – ด่าง ให้เป็นกลางในดินและน้ำอยู่ที่ pH4เป็นกรด
  2. ช่วยแก้ปัญหาจากแมลงศัตรูพืช และโรคระบาดต่างๆ
  3. ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำ และให้อากาศผ่านได้อย่างเหมาะสม
  4. ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ให้เป็นอาหารของพืช พืชจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้เลย โดยพืชไม่สูญเสียพลังงานมาก

ประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 

  1. ช่วยตรึงไนโตเจนในดิน เพิ่มไนโตเจนให้กับพืช
  2. เร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชแข็งแรงแล้วโตเร็วเป็น 3 เท่า
  3. เมื่อใช้ทางดินทำให้รากพืชแข็งแรงและหาอาหารได้ดีขึ้น ใช้กับนาข้าวช่วยเร่งการแตกกอของข้าว
  4. ช่วยในการย่อยธาตุอาหารและวัตถุอินทรีย์ในดิน เพื่อให้พืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างง่ายดาย
  5. ป้องกันพืชโดยการทำลายจุลินทรีย์ไม่ดีในดิน ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืช

อื่นๆ

เมนู