ข้าพเจ้า นางสาวจริยา หมายบุญ ประเภทประชาชน ตำบลกระสัง
หลักสูตร ID 10 : การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมีส่วนร่วมของชุมชุน ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
การปฏิบัติงานประจำเดือนมีนาคม ได้ดำเนินการทำ SWOT ร่วมกับชุมชุนพื้นที่หมู่ 12 ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้ผลการทำ SWOT และแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพื้นที่ ดังนี้
ในหมู่ 12 บ้านกระสัง มีผลิตภัณฑ์หรือวิชาชีพใด ที่ต้องการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อให้เกิดรายได้ในชุมชน จากการสำรวจข้อมูล มีการทอเสื่อจากต้นกก และการทำไม้กวาดทางมะพร้าว จึงนำมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดด้อย เพื่อการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ โดยเลือก “การทอเสื่อจากต้นกก” มานำเสนอในครั้งนี้ เนื่องจากสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า แล้วยังได้สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย
การทอเสื่อกก เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่มีพืชชนิดนี้ขึ้นอยู่ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปทุกภูมิภาค จนยากที่จะระบุได้ว่าเสื่อผืนแรกของโลกถูกทอขึ้นเมื่อไร หรือชนชาติไหนเป็นชาติแรกที่ทอเสื่อขึ้นใช้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการทอเสื่อกกได้กลายเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศไทย และได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบแปรรูป ให้มีลักษณะต่างๆ และใช้นอกเหนือไปจากการปูนั่งหรือนอน เช่นในอดีตที่ผ่านมา
ส่วนการทอเสื่อกกของชาวบ้านตำบลกระสัง ก็เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีการทำและสืบทอดความรู้จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนรุ่นต่อมาอย่างสืบเนื่องยาวนาน จนการทอเสื่อกกกลายเป็นวิถีชีวิตในยามว่างจากงานเกษตรกรรม เพื่อทำขึ้นใช้เองในครัวเรือน และซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นรายได้เสริม
หากได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากหน่วยงานของรัฐ ก็สามารถพัฒนาคุณภาพของวัตถุดิบ และฝีมือการทอ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำรายได้ให้แก่ชาวบ้านที่รวมตัวขึ้นเพื่อประกอบการทอเสื่อตามวัตถุประสงค์ของโครงการนี้
ขั้นตอนการทอเสื่อ
1.นำต้นกกมาตัดให้เท่ากัน ต้นกกที่นำมาตัดนั้นจะต้องเป็นลำที่สวยงาม ไม่แก่มาก และไม่อ่อนมากจนเกินไป
2.การกรีดจะใช้มีดปลายแหลมที่ทำมาจากใบเลื่อย กรีดแบ่งครึ่งกกแต่ละเส้นถ้าเป็นต้นเล็ก ถ้าเป็นต้นใหญ่ก็กรีดเหมือนกัน แต่จะมีส่วนที่กรีดทิ้ง เพื่อให้แห้งง่าย
3.หลังจากได้เส้นกกแล้ว ก็นำไปตาก โดยแผ่วางเรียงเป็นแนวยาว วันแรกจะตากเต็มวัน จากนั้นนำมามัดเป็นมัดเล็กๆ แล้วตากอีกราว 2 วัน ให้เส้นกกแห้ง
วิธีการย้อม
1.การย้อมสี ใช้สีย้อมกกหรือย้อมไหม นำกกที่ตากแห้งแล้วมามัดแช่น้ำราว 10 ชั่วโมง เพื่อให้เส้นกกนิ่ม
2.จากนั้นต้มน้ำให้เดือด ใส่สีย้อม แล้วนำเส้นกกที่มัดเป็นกำแช่ลงไปในน้ำสีที่กำลังเดือดทิ้งไว้ 10-15 นาที ดูสีติดเท่ากัน
3.จึงนำไปแช่น้ำ แล้วนำขึ้นตากในที่ร่มมีลมพัดผ่าน 3-4 วัน เมื่อเส้นกกสีแห้ง ก็สามารถนำไปใช้ในการทอได้
4.การทอจะร้อยเส้นเอ็นกับฟืมเป็นเส้นยืนตามขนาดของคืบที่กำหนด แล้วใช้เส้นกกใส่กระสวยทอเรียงเป็นเส้นนอนคล้ายการทอผ้า การใส่ลายสีในการทอนิยมใส่ตอนแรก และตอนสุดท้ายของการทอเมื่อจะเต็มผืน การวางลายแล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ทอ
5.เมื่อทอได้เต็มผืนก็มัดริมเสื่อ ตัดเสื่อออกจากกี่ และตัดริมอีกครั้งพร้อมแต่งเสื่อให้มีความเรียบร้อยสวยงาม
6. ส่วนราคาในการขาย ถ้าเป็นเสื่อธรรมดา ผืนละ 100 บาทขึ้นไป ถ้าเป็นเสื่อสีจะทำ 2 ผับ ในราคาผืนละ 500 บาท, 3 ผับ ผืนละ 750 บาท บางผืนราคาขึ้นอยู่กับลายและความยากในการทอ
การทอเสื่อจากต้นกก เป็นภูมิปัญญาไทยของคนในท้องถิ่นที่สืบสานกันมายาวนาน ปัจจุบันการใช้เสื่อจากต้นกกมีปริมาณลดลงเนื่องมาจากมีผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาทดแทน เช่น พรม เสื่อน้ำมัน กระเบื้องปูพื้น และอื่น ๆ อีกทั้งคนรุ่นใหม่ก็สนใจในภูมิปัญญาด้านนี้น้อยลง เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งหากไม่มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมทางภูมิปัญญาของท้องถิ่นนี้ไว้ให้ลูกหลานได้เห็นสืบสานต่อไป