ดิฉัน นางสาวปวีณา พันธ์คูณ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานพร้อมกับทีมงานที่ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จากมหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ

การลงพื้นที่

การลงพื้นที่ในเดือนมิถุนายนครั้งนี้ ดิฉันและทีมงานได้วางแผนการดำเนินงานโดยการจัดกิจกรรมอบรมให้กับคนในชุมชน ในหัวข้อ “การอบรมเชิงปฏิบัติการความรู้เรื่องต้นไผ่ เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน” ชื่อโครงการ ID10 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ที่ 5 มิถุนายน 2564 เวลา 07.30 – 17.30 น. ณ ศาลาประชาคม หมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

โดยกิจกรรมการอบรมในครั้งนี้จะแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 จะเป็นการอบรมเชิงบรรยายความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับต้นไผ่ และอบรมเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการเพาะชำต้นไผ่ ด้วยการสาธิต ซึ่งกิจกรรมในส่วนนี้ดำเนินการโดยวิทยากร ผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับต้นไผ่ ที่ทีมงานได้เชิญมาเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนในชุมชน ส่วนที่ 2 จะเป็นกิจกรรมระดมความคิด และร่วมกันแสดงความคิดเห็น ของคนในชุมชน ซึ่งในบทความนี้จะขอกล่าวถึงรายละเอียดของกิจกรรมในส่วนที่ 2 เป็นหลัก มีรายละเอียดดังนี้

ทำไมต้องมีกิจกรรมระดมความคิด และร่วมกันแสดงความคิดเห็น ?

เนื่องจากทีมงานได้รับโจทย์การดำเนินงาน คือการส่งเสริมชุมชนทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการดำเนินการต่างๆ จำเป็นต้องมีการพูดคุย ปรึกษา หารือกับคนในชุมชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ และรู้จักพื้นที่ของชุมชนดีที่สุด รับฟังความคิดเห็น ความต้องการ ของคนในชุมชน เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานในเรื่องของสภาพพื้นที่ของชุมชนกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยว การหาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูกต้นไผ่ เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้น่าสนใจ ให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามความพึงพอใจของคนในชุมชน

**เกร็ดความรู้**

การพูดแสดงความคิดเห็น  คือ  การพูดในเชิงอธิบายเหตุผล  ข้อเท็จจริง  หลักการหรือแนวความคิดเห็นของผู้พูด  เพื่อให้ผู้ฟังคล้อยตาม  เชื่อถือ  ยอมรับหรือเห็นด้วยกับผู้พูดและสามารถแนวคิดเหล่านั้นไปวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปได้

          ความสำคัญของการพูดแสดงความคิดเห็น

1.ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าหลายๆ  หน่วยงานมีการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม  ฉะนั้นการพูดแสดงความคิดเห็นจึงถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยหาทางออกให้กับปัญหาได้

2. การพูดแสดงความคิดเห็นเป็นการเปิดโอกาสหรือเปิดพื้นที่ทางความคิดของบุคคลที่มีแนวคิดหลากหลายได้มาพบปะพูดคุยกัน  เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน

3. การพูดแสดงความคิดเห็นทำให้สังคมได้รับรู้ร่วมกันว่า  ในขณะนี้ได้เกิดอะไรขึ้นและจะต้องปรับตัวเพื่อรับสถานการณ์นั้นๆ  กันอย่างไร เช่น เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติในด้านอื่นๆ  ผู้คนจะได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

4. การพูดแสดงความคิดเห็นช่วยให้หาข้อยุติของเรื่องหรือกรณีต่างๆ ที่ยังไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้ในเบื้องต้น  จึงต้องนำมาหารือเพื่อให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความคิดที่มีความเป็นไปได้ที่ทุกฝ่ายจะเกิดการยอมรับ

ที่มา: http://ajpraneepasathai.blogspot.com/p/blog-page_77.html

ผู้เข้าอบรมมีความคิดเห็นอย่างไรต่อการมีแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน และปลูกต้นไผ่เพื่อปรับภูมิทัศน์ในชุมชน ?

สำหรับการมีแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนผู้เข้าอบรมได้แสดงความคิดเห็นไปในทางที่ดี เนื่องจากเห็นว่าหากมีการท่องเที่ยวขึ้นในชุมชนจะช่วยทำให้ชุมชนมีการพัฒนาที่ดีขึ้น มีช่องทางสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ประกอบกับตัวชุมชนมีคูน้ำโบราณล้อมรอบที่ควรค่าแก่การบำรุงรักษาไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้ทราบถึงความเป็นมาของชุมชน

ส่วนการปลูกต้นไผ่เพื่อปรับภูมิทัศน์ผู้เข้าอบรมได้แสดงความคิดเห็นว่ามีความน่าสนใจ เพราะต้นไผ่เป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย ปลูกง่าย โตเร็ว และยังมีความสวยงาม ประกอบกับพื้นที่บางส่วนบริเวณคันดินก็มีการปลูกต้นไม้ปรับพื้นที่มาก่อน ซึ่งก็ยังเหลือพื้นที่อีกมากที่คนในชุมชนก็ต้องการปรับภูมิทัศน์เพื่อให้ชุมชนมีความสวยงาม

**เกร็ดความรู้**

การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community – Based Tourism) คือการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม  กำหนดทิศทางโดยชุมชน  จัดการโดยชุมชนเพื่อชุมชนและชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของมีสิทธิในการจัดการดูแล เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้มาเยือน (โครงการท่องเที่ยวเพื่อชีวิตและธรรมชาติ, 2540)

องค์ประกอบของการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน

  • ด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม

– ชุมชนมีฐานทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีวิถีการผลิตที่พึ่งพาและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

-ชุมชนมีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

  • ด้านองค์กรชุมชน

-ชุมชนมีระบบสังคมที่เข้าใจกัน

-มีปราชญ์  หรือผู้มีความรู้  และทักษะในเรื่องต่าง ๆ หลากหลาย

-ชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของและเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนา

  • ด้านการจัดการ

-มีกฎ-กติกาในการจัดการสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว

-มีองค์กรหรือกลไกในการทำงานเพื่อจัดการการท่องเที่ยว  และสามารถเชี่อมโยงการท่องเที่ยวกับการพัฒนาชุมชนโดยรวมได้

-มีการกระจายผลประโยชน์ที่เป็นธรรม

-มีกองทุนที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน

  • ด้านการเรียนรู้

-ลักษณะของกิจกรรมการท่องเที่ยวสามารถสร้างการรับรู้ และความเข้าใจในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่าง

-มีระบบจัดการให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ระหว่างชาวบ้านกับผู้มาเยือน

-สร้างจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมทั้งในส่วนของชาวบ้านและผู้มาเยือน

การท่องเที่ยว : เครื่องมือในการพัฒนาชุมชน

การท่องเที่ยวมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นองค์รวม เนื่องจากทรัพยากรการท่องเที่ยว กับทรัพยากรที่ชุมชนใช้เป็นฐานการผลิตเป็นทรัพยากรเดียวกัน วัฒนธรรมธรรมและสังคมเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องจิตวิญญาณของชุมชน ในการสร้างสัมพันธ์กันภายในชุมชนและการสัมพันธ์กับภายนอก  ควรจะเชื่อมโยงให้เห็นการท่องเที่ยวกับการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นองค์รวม

CBT เป็นเครื่องมือสร้างความเข้มแข็งขององค์กรชาวบ้านในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว

ในขณะเดียวกันในภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวโดยชุมชนได้เข้าไปมีบทบาทในการสร้างคุณภาพใหม่ของการท่อง เที่ยวให้มีความหมายมากกว่าการพักผ่อน ความสนุกสนาน และความบันเทิง  หากได้เปิดมิติของการท่องเที่ยวเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเคารพคนในท้องถิ่น

หลักการของการท่องเที่ยวโดยชุมชน

-ชุมชนเป็นเจ้าของ

-ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและตัดสินใจ

-ส่งเสริมความภาคภูมิใจในตนเอง

-ยกระดับคุณภาพชีวิต

-มีความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม

-คงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่น

-ก่อให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างคนต่างวัฒนธรรม

-เคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่างและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

-เกิดผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่คนท้องถิ่น

-มีการกระจายรายได้สู่สาธารณประโยชน์ของชุมชน

         การที่จะให้ชุมชนดำเนินการท่องเที่ยวตามหลักการดังกล่าวข้างต้น มีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการ จัดการการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ต้องรณรงค์กับคนในสังคมให้เห็นความแตกต่างของการท่องเที่ยว โดยชุมชนกับการท่องเที่ยวทั่วไป  กระตุ้นให้คนในสังคมเห็นความสำคัญและเป็นนักท่องเที่ยวที่สนใจการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้มาเยือน  นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มการรับรู้และความเข้าใจในบทบาทของชุมชนท้องถิ่นต่อ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและเป็นกำลังใจหรือสนับสนุนให้เกิดความต่อ เนื่องในการทำงานอนุรักษ์ทั้งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม

ที่มา : สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน (https://cbtyouth.wordpress.com/cbt-youth/cbt/)

ควรปลูกต้นไผ่ ตรงพื้นที่ไหน ?

จากการร่วมแสดงความคิดเห็นกับผู้เข้าอบรม และทีมงานรวมทั้งวิทยากร ได้มีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ดังนี้

  1. บริเวณคันดินฝั่งด้านซ้ายของศาลากลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกไม้ผลอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้ยากต่อการจัดการพื้นที่เพื่อปลูกต้นไผ่
  2. บริเวณคันดินส่วนตรงกลาง ซึ่งต้องเข้ามาภายในชุมชนจึงจะเห็น ทำให้ไม่เหมาะที่จะปลูกต้นไผ่ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากคนภายนอกได้ และบริเวณคันดินส่วนนี้ก็มีพื้นที่น้อยทำให้ไม่เหมาะสมที่จะปลูกต้นไผ่ในระยะที่ต้องการได้
  3. บริเวณคันดินฝั่งด้านขวาของศาลากลางหมู่บ้าน ถัดจากคันดินตรงส่วนกลาง สภาพพื้นที่ของคันดินบริเวณนี้มีความเหมาะสมที่จะปลูกต้นไผ่ได้ เพราะมีพื้นที่มาก และยังเป็นพื้นที่ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอกชุมชน ทำให้สามารถดึงดูดความสนใจจากคนภายนอกได้

ทีมงานและผู้เข้าอบรมจึงได้ข้อสรุปของพื้นที่ที่จะปลูกต้นไผ่ คือ ส่วนที่ 3 บริเวณคันดินฝั่งด้านขวาของศาลากลางหมู่บ้าน ถัดจากคันดินตรงส่วนกลาง

จะปลูกต้นไผ่อย่างไร ปลูกต้นไผ่สายพันธุ์ใด และจะดูแลต้นไผ่อย่างไร ?

ในเริ่มแรกทีมงานได้จัดหาต้นไผ่ให้คนในชุมชนได้ปลูกเพื่อนำร่องการปลูกต้นไผ่ โดยเริ่มปลูกที่ 40 ต้น ไผ่ที่ปลูกเป็นไผ่ตงลืมแล้ง ซึ่งเป็นไผ่ที่มีขนาดสูงใหญ่ หน่อไม้นิยมนำมารับประทานประกอบอาหาร ลำต้นนิยมนำมาแปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์ แปรูปเป็นถ่านไม้ไผ่เป็นไผ่ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แนวทางการปลูกต้นไผ่ จะปลูกให้ได้ลักษณะเป็นซุ้มอุโมงค์ต้นไผ่ แต่ละต้นห่างกันประมาณ 4 เมตร

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊คไร่ดินชุ่มฟ้า บุรีรัมย์

เริ่มแรกปลูกไผ่ตงลืมแล้งก่อน หลังจากนั้นอาจมีการหาต้นไผ่สายพันธุ์อื่นๆ เข้ามาปลูกเพิ่ม เพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายและมีต้นไผ่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้น

สำหรับการดูแลต้นไผ่ที่ปลูกแล้ว ดูแลง่าย และสะดวก เนื่องจากบริเวณที่ปลูกต้นไผ่อยู่ติดกับคูน้ำ ทำให้สะดวกต่อการรดน้ำ และบริเวณที่ปลูกต้นไผ่ก็มีสารอาหารจากปุ๋ยธรรมชาติ เนื่องจากอยู่ใกล้กับคอกเลี้ยงโคของคนชุมชน ซึ่งคนในชุมชน รวมถึงทีมงาน จะช่วยกันคอยดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย เพื่อให้ต้นไผ่สามารถเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

แบบทดสอบประจำบทความ

https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfOrCwzsmMzlAuQ_pBlAJ0GQ_e24qhs6-d-iGjK0Bv8_IP7ww/viewform

คลิปประจำเดือน

 

อื่นๆ

เมนู