ข้าพเจ้านางสาวปวีณา พันธ์คูณ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานพร้อมกับทีมงานที่ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จากมหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ
การลงพื้นที่ จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับชุมชน และการจัดกิจกรรมการประชุมหารือเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและศักยภาพ (SWOT Alnaysis) ของชุมชนเมืองโบราณบ้านไทรโยง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหมู่ 3 บ้านไทรโยง หมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้ข้าพเจ้าและทีมงานได้ทราบถึงจุดแข็ง จุดอ่อน ของชุมชน ซึ่งภายในพื้นที่ของชุมชนมีจุดน่าสนใจที่ข้าพเจ้าและทีมงานต้องการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆภายในชุมชนให้ผู้เข้ามาอ่านบทความได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนเมืองโบราณบ้านไทรโยง ดังนี้ สามารถนำมาสร้างเป็นทางด้านการท่องเที่ยว หรือเป็นจุดเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนได้ ดังนี้
- คูน้ำ
คูน้ำที่พบในบริเวณพื้นที่ชุมชน มีลักษณะเป็นรูปวงรี ล้อมรอบชุมชน จากเอกสารการกำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมือง-คูเมือง ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลไว้ว่า เมืองไทรโยง ตั้งอยู่บนเนิน มีกำแพงเมือง-คูเมืองขุดล้อมรอบบริเวณขอบเนิน 3-4 ชั้น กว้างยาวประมาณ 560×700 เมตร คูเมืองขุดลึกถึงระดับกักเก็บน้ำ มีคันดินกำแพงประกบทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งมีรูปแบบกำแพงเมือง-คูเมืองรูปแบบเดียวกันกับเมืองบุรีรัมย์ และน่าจะมีช่วงเวลาร่วมสมัยกัน โดยสันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุไม่น้อยไปกว่าสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย จนถึงสมัยทวารวดีต่อเนื่องถึงสมัยลพบุรี ราวพุทธศตวรรษที่ 17-19 เป็นอย่างน้อย
ปัจจุบันชุมชนเมืองไทรโยงยังคงมีคูน้ำล้อมรอบชุมชนอยู่ แต่ได้มีการขุดลอกคูน้ำใหม่ ทำให้ทางด้านทิศเหนือหรือฝั่งหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ เหลือคูน้ำให้เห็น 2 ชั้น ส่วนทางด้านทิศใต้หรือฝั่งหมู่ 3 บ้านไทรโยง เหลือคูน้ำให้เห็น 1 ชั้นเท่านั้น โดยคนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากคูน้ำที่หลากหลายทั้งใช้เป็นแหล่งน้ำทางการเกษตร เช่น ปลูกพืชผัก เพาะเห็ด เป็นต้น ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย เป็ด เป็นต้น และยังใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งทุกครัวเรือนเข้าถึงระบบน้ำประปาหมู่บ้าน นอกจากนี้การที่บริเวณตัวชุมชนมีคูน้ำล้อมรอบก็ทำให้ทัศนียภาพของชุมชนดูสวยงาม มีความโดดเด่นด้านพื้นที่ ต่างออกมาจากชุมชนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงโดยรอบบริเวณนั้น
จากการค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของชุมชนที่มีคูน้ำล้อมรอบและการใช้ประโยชน์ สันนิษฐานว่าเป็นลักษณะเมืองโบราณสมัยทวารวดี ที่ปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณที่มีผังเมืองเป็นรูปวงกลม วงรี หรือรูปสี่เหลี่ยมมุมมน และนิยมสร้างคูน้ำคันดินล้อมรอบตั้งแต่ชั้นเดียวถึงสามชั้น เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ ป้องกันน้ำท่วม หรือเป็นการป้องกันสัตว์ร้าย และป้องกันข้าศึกศัตรูที่จะมารุกราน รวมถึงใช้บ่งบอกอาณาเขตของชุมชน
- ต้นไทร
ชื่อชุมชนส่วนใหญ่ของประเทศมักจะตั้งชื่อตามลักษณะของพื้นที่ที่ตั้งของชุมชนนั้น หรือตั้งชื่อตามพืชพรรณ ต้นไม้ ที่โดดเด่นอยู่บริเวณนั้น ชุมชนบ้านไทรโยงก็เช่นกัน จากการพูดคุยกับคนในพื้นที่ทำให้ทราบที่มาของชื่อชุมชนบ้านไทรโยงว่า เมื่อก่อนบริเวณพื้นที่ของชุมชนทั้งหมู่ 3 บ้านไทรโยง และหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ มีต้นไทรเกิดอยู่มาก รากต้นไทรระโยงรยางค์มาก จึงทำให้มีการเรียกชื่อชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณนี้ว่า บ้านไทรโยง ปัจจุบันจากการเข้าสำรวจพื้นที่พบว่ามีต้นไทรอยู่เพียงต้นเดียว อยู่บริเวณริมคูน้ำทางไปวัดป่าบ้านไทรโยง ซึ่งสันนิษฐานจากการถางพื้นที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อทำการเกษตร ความเจริญของพื้นที่ ทำให้มีการโค่นต้นไทรทิ้ง จากการค้นคว้าเพิ่มเติมทางออนไลน์เกี่ยวกับต้นไทร ได้ข้อมูลดังนี้
ต้นไทร เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาด กลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นตรงแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทึบ บางชนิดก็เป็นพุ่มโปร่ง มีรากอากาศห้อยลงมาตามกิ่งก้านและลำต้น ผิวเปลือกเรียบสีขาวปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากกิ่ง และส่วนยอดของลำต้น ใบออกเป็นคู่สลับกัน ลักษณะใบ ขนาดใบ และสีสันแตกต่างกันตามพันธุ์
ความเชื่อเกี่ยวกับไทร คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นไทรไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความร่มเย็น เพราะคนโบราณได้กล่าวว่า ร่มโพธิ์ร่มไทร ช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขนอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย ทั้งปวงเพราะบางคนเชื่อว่าต้นไทรเป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีเทพารักษ์อาศัยอยู่คอยคุ้มครองพิทักษ์ปวงชนให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นไทรไว้ทางทิศตะวัตตกผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคารเพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางใบให้ปลูกในวันอังคาร
สรรพคุณ ตำรายาไทยใช้ รากอากาศ ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ (โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ มีปัสสาวะขุ่นข้น เหลืองหรือแดง มักมีอาการแน่นท้อง กินอาหารไม่ได้) ปัสสาวะพิการ (อาการปัสสาวะปวด หรือกะปริบกะปรอย หรือขุ่นข้น สีเหลืองเข้ม หรือมีเลือด) แก้กษัย (อาการป่วยที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม ซูบผอม โลหิตจาง ปวดเมื่อย)
(ที่มา: http://www.nongmaiclub.com/blog/index.php?id=lovetree&page=showblog&idg=3&idt=39. สืบค้นวันที่ 11 มี.ค. 2564 เวลา 11.34 น. )
ภาพจาก https://medthai.com
- ต้นโพธิ์
จากการสำรวจพื้นที่ทำให้ข้าพเจ้าและทีมงานพบต้นไม้ที่โดดเด่นอยู่ในชุมชน นั่นคือ ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ที่มีอายุหลายปี อยู่บริเวณพื้นที่ของหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ ใกล้กับศาลากลางหมู่บ้านของหมู่ 19 ซึ่งบริเวณที่ตั้งของต้นโพธิ์ มีการสร้างศาลขนาดเล็ก มีพื้นที่วางธูป เทียน และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นของเซ่นไหว้ ไว้ในบริเวณศาล ตัวลำต้นของต้นโพธิ์มีผ้าหลากสีสันมัดล้อมตัวลำต้นไว้ จากการพูดคุยกับคนในพื้นที่ ทำให้ทราบว่า มีเรื่องเล่าว่าบริเวณใต้ต้นโพธิ์มีหินเดินได้ จากนั้นก็มีต้นโพธิ์มาเกิดครอบบนหินและเจริญเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ และได้มีการสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ต้นโพธิ์แห่งนี้จึงกลายมาเป็นสถานที่ที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจตามความเชื่อของคนในพื้นที่ จากการค้นคว้าเพิ่มเติมทางออนไลน์เกี่ยวกับต้นโพธิ์ ได้ข้อมูลดังนี้
ต้นโพธิ์ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนไทย เชื่อว่าทุกคนล้วนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นต้นไม้สำคัญในพระพุทธศาสนา เนื่องจากต้นโพธิ์คือต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับและตรัสรู้สัมโพธิญาณนั่นเอง ตามความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลนั้น เชื่อกันว่าต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมปลูกกันตามวัดวาอาราม ตามสวนสาธารณะและบางแห่งปลูกกันตามริมถนน นอกจากนี้แล้วคนโบราณยังมีความเชื่อว่าต้นโพธิ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดสำหรับผู้ที่เกิดในปีมะเส็งอีกด้วย
นับแต่โบราณมาแล้วที่เรามีความเชื่อว่าต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย โดยความเชื่อนี้พบมากในเขตภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งนิยมกราบไหว้ต้นโพธิ์เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา หรือไม่ก็ไปบนบานศาลกล่าวให้สมหวังในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
(ที่มา: https://horoscope.thaiza.com/content/295624/ . สืบค้นวันที่ 11 เม.ย. 2564 เวลา 15.05 น.)
- ไทรโยงคาเฟ่ แอนด์ รีสอร์ท
ไทรโยงคาเฟ่ แอนด์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 บ้านไทรโยง ตำบลกระสัง ถนนบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เป็นคาเฟ่ เปิดบริการ 09.00 น. – 18.30 น. โดยให้บริการทั้งเครื่องดื่มทั้งกาแฟ เครื่องดื่มนม เครื่องดื่มผลไม้ มีขนมหวาน และอาหาร อีกส่วน คือ ส่วนของรีสอร์ท เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง มีห้องพักจัดไว้หลายห้อง ราคาย่อมเยา นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายภาพสวยๆ ให้ผู้ที่แวะเข้ามาได้ถ่ายภาพด้วย ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนา มีทางเดินที่เป็นทางเดินต้นไม้ให้ร่มเงาทอดตัวเป็นแนวยาว และภายในยังมีส่วนของสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กเล็ก มีส่วนของพื้นที่ปลูกพืชผักทางการเกษตร มีฟาร์มไก่ไข่ ซึ่งผู้ที่มาพักสามารถเลือกซื้อกลับบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีบริการตั้งแคมป์ นอนกางเต้นท์ จัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้อีกด้วย
(ที่มา: https://www.facebook.com/xaiyongcafeandresort/?ref=page_internal . สืบค้นวันที่ 11 เม.ย. 2564 เวลา 20.31 น.)
ภาพจาก https://www.facebook.com/xaiyongcafeandresort/?ref=page_internal
แบบทดสอบประจำบทความ
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeg2i_ZGcOo19Y_WaBO86DnamjZuis_TIBDMkNmRk_diM2eeQ/viewform