สวัสดีค่ะ บทความเป็นบทสัมภาษณ์เกษตรกรท่านหนึ่งที่ทั้งชีวิตของท่านเป็นชีวิตเกษตรกรเนื่องจากตั้งแต่เด็กคุณพ่อของท่านเป็นเกษตรกร  สอนลูก ๆ ให้รู้จักการทำนา การปลูกพืชผักต่าง ๆ และสำคัญได้ปลูกฝังความรักในการเป็นเกษตรกรแม้กระทั่งช่วงที่ท่านรับราชการครูยังได้ร่วมโครงการ “EAF โครงการเกี่ยวกับเกษตรผสมผสาน” ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศริเริ่มโครงการแลกเปลี่ยนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโรงเรียนที่ร่วมโครงการทั้งหมด 16 โรงเรียน ส่วนภายในจังหวัดบุรีรัมย์มี 4 โรงเรียนได้ร่วมโครงการซึ่งอาจารย์ท่านนี้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ  ดังนั้นในบทความนี้เรามาร่วมกันฟังความคิด ความรู้สึกของท่านที่มีต่อ “การปลูกผักแบบเกษตรปลอดภัย” 

1.ประวัติ   

อาจารย์ประสาน  แก้วดวง อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.6 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์    ปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญครู   เคยรับราชการครูที่โรงเรียนบ้านโพธิ์ดอนหวาย ต.กระสัง และโรงเรียนบ้านหลักเขต ต.หลักเขต อ.เมืองบุรีรัมย์  จ.บุรีรัมย์ ตำแหน่งครูประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นโรงเรียนขยายโอกาส  ขณะสอนอยู่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการเกี่ยวกับเกษตรและโครงการที่สำคัญ คือ โครงการแลกเปลี่ยน EAF “โครงการเกี่ยวกับเกษตรผสมผสาน” ออสเตรเลียเป็นประเทศริเริ่มโครงการ เช่น แหล่งเรียนรู้เพื่อการเกษตร เลี้ยงหมู เลี่้ยงปลา ปลูกผัก  ซึ่งเป็นโรงเรียน 1 ใน 4 ของโรงเรียนทั้งหมดภายในจังหวัดบุรีรัมย์   พื้นฐานทางครอบครัวของท่านมาจากครอบครัวเกษตรกร  ทำให้ทิศทางในการศึกษาต่อท่านยังคงรักในความเป็นเกษตรกรโดยศึกษาระดับปริญญา สาขาวิชาเอก เกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

2.ตอนนี้ที่บ้านท่านปลูกพืชผักอะไรบ้างและใช้ปุ๋ยอะไร

ช่วงหน้าฝนก็ทำนา  ใกล้บ้านก็ปลูกต้นโกโก้ 100 ต้น  ปลูกหญ้าหวานอิสราเอลซึ่งใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์   ส่วนเมล่อนช่วงนี้ยังไม่ได้ปลูกเพราะระบบน้ำยังต้องปรับปรุงก่อน สำหรับปุ๋ยที่ใช้จะเป็นปุ๋ยคอก เช่น ปุ๋ยขี้หมู ปุ๋ยขี้วัว ปุ๋ยขี้ไก่ ซึ่งแต่ละปุ๋ยจะมีแร่ธาตุเด่นที่ต่างกัน ปุ๋ยขี้หมูมีธาตุไนโตรเจนสูง ช่วยในเรื่องลำต้นและใบ  ปุ๋ยขี้ไก่มีธาตุโปแตสเซียมสูงช่วยเรื่อง ผล สำหรับปุ๋ยขี้วัวใช้ได้ทุกพืช หาได้ง่ายในชุมชน ราคาไม่แพง 25-40 บาทต่อปุ๋ย

3.ถ้างั้นส่วนมากเป็นเกษตรอินทรีย์ใช่ไหมคะ แล้วทำไมถึงเลือกทำเกษตรปลอดภัย

“ใช่ครับ” เป็นเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ      ทำไมถึงเลือกทำเกษตรอินทรีย์เพราะว่าปุ๋ยคอกทำให้          (1) ดินดีมีความร่วนซุยมีอินทรีย์วัตถุไม่แข็งกระด้าง   (2)ทำให้พืชงามและเจริญเติบโตได้นานไม่ต้องใส่ปุ๋ยบ่อย   (3)มีความปลอดภัยสำหรับผู้ปลูก/ดูแลและปลอดภัยสำหรับการบริโภค

4.อาจารย์ทำเกษตรมานานแค่ไหน

ทำเกษตรมาตั้งแต่เด็กเพราะคุณพ่อก็ทำนา ทำเกษตรมาตลอด ทำให้ชอบและรักการทำเกษตร ตอนทำงานที่โรงเรียนก็ทำนาด้วย  ตอนนี้ก็ปลูกผักและยังอยากเลี้ยงวัวด้วยแต่ทุนไม่พอ  คงจะทำเกษตรไปตลอดนั้นแหละจนกว่าจะทำไม่ไหว

5.อยากทราบว่า ถ้าพืชเจอศัตรูพืชใช้วิธีการอะไรบ้างกำจัด

ศัตรูพืชมีทั้งเป็นแมลง เป็นรา  ถ้าเป็นแมลงก็อาจป้องกันจากการห่อหรือการใส่มุ้ง แต่บางทีก็ใช้สูตรนำ้ยาสูบผสมเหล้าขาวผสมน้ำส้มสายชู หมักไว้ 1 วัน แล้วนำมาฉีดพ่น  แต่ถ้าเป็นเชื้อราหรือโรค หากดินของเราสมบูรณ์พืชก็จะดูดแร่ธาตุไปต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านี้เองด้วย ตามแบบธรรมชาติที่ต้องการอยู่รอด

6.ผลผลิตที่ได้จำหน่ายที่ไหน

ผลผลิตที่ได้จะนำส่งพ่อค้าในตลาด  แต่ถ้าเป็นข้าวก็จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน ส่วนอีกส่วนส่งขายที่ สกต. หน่วยงานของรัฐ

7.ความคุ้มทุนในการทำเกษตร

ถ้าจะถามความคุ้มทุนไม่คุ้มแต่ก็ด้วยใจรักชอบในการทำเกษตร เพราะราคาพืชผลไม่ได้กำหนดราคาตามการลงทุนจริง ผู้กำหนดราคาคือ พ่อค้าคนกลาง ไม่ขายก็ไม่ได้  

8.ปัญหาที่พบในการทำเกษตรและแนวทางวิธีการแก้ไข

ปัญหาใหญ่ก็คือ (1) เรื่องของเงินทุน   ที่จะนำมาลงทุนแก้ปัญหาเรื่อง น้ำใช้ในระบบการเกษตรไม่ว่าจะเป็นการดูดนำ้จากแหล่งนำ้ธรรมชาติหรือการขุดเจาะบาดาล  (2) องค์ความรู้ที่ใช้บางครั้งก็ยังยึดองค์ความรู้เดิมตามประสบการณ์ที่ผ่านมาซึ่งในปัจจุบันต้องรู้จักนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การตั้งเวลารดนำ้ ระบบคันนาแบบญี่ปุ่น แต่ก็นั้นแหละ “เงิน” (3) เรื่องของระบบราคา ลงทุนไปแต่ไม่อาจกำหนดราคาขายได้  ทำให้ต้องยอมขาดทุนเพื่อนำเงินมาไว้ก่อน   แนวทางการแก้ไขก็คงต้องปรับตามความเหมาะสม

9.ข้อดี/ข้อเสียของการทำเกษตร

ข้อดี  หากเราปลูกผักสวนครัวเราก็มีอาหารสำหรับบริโภคเองในครัวเรือนตามความต้องการ ปลอดสารพิษและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลง และยังสามารถนำไปจำหน่ายได้

ข้อเสีย    หากต้องการความยั่งยืนก็ต้องลงทุนสูงแต่รายได้ไม่คุ้มทุน    ราคาการรับซื้อของตลาดไม่แน่นอน  การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรต้องใช้ทุนและองค์ความรู้ และสิ่งสำคัญคือ การจัดการที่เหมาะสมจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา

10.รัฐบาลมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเกษตรกรมาก-น้อยแค่ไหน

รัฐบาลมีการช่วยเหลือเกษตรกรอยู่อย่างตลอดแต่ก็ยังไม่ทั่วถึง  เงื่อนไขในการกู้เงินมาลงทุนเกษตรแค่เรื่องอายุเกิน 60 ปีก็ไม่สามารถกู้ได้แล้ว โดยส่วนตัวตลาดการค้าวัวพันธุ์ดีอยากจะลงทุนแต่ด้วยอายุที่มากทำให้เป็นปัญหาในการหาเงินลงทุน  อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรให้มากกว่านี้

11.เป้าหมายและแผนพัฒนาในการทำเกษตร

โดยส่วนตัวอยากเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย ในที่นาหลังบ้าน  เป็นเป้าหมายและมีแผนพัฒนาพันธุ์ให้ดี เหมือนฟาร์มสอนศิริ   (https://www.facebook.com//สอนศิริ-ฟาร์มควายไทย-803782246307709/) อีกหลายฟาร์มที่หาดูได้ในอินเทอร์เน็ต   ส่วนผลิตผลทางเกษตรอยากพัฒนาแหล่งน้ำและมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ มีโรงงาน  ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับการผลิต การตลาด  สำคัญคือ แหล่งเงินทุน ต้องการกู้ยืม

12.สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างโดยเฉพาะช่วง Covid-19 ที่มีการระบาด มีผลกระทบมาก-น้อยแค่ไหน

ตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบแต่ก็ไม่มากนัก ส่วนมากพืชผักก็จะปลูกไว้ทานเอง  ช่วงเกิดการระบาดก็มีผักทานไม่ต้องไปหาซื้อที่ตลาดลดความเสี่ยงในการติดต่อ แต่ก็สงสารคนที่ทำเกษตรเพื่อการจำหน่ายจะได้รับผลกระทบมากที่คนเดินตลาดน้อยลงทำให้รายได้ลดลง   คงต้องปรับตัวกันไป

นี้คือบทสัมภาษณ์ที่บ่งบอกถึงประสบการณ์ ความรักในการทำเกษตร และเป้าหมายที่ท่านอยากเดินทางบนเส้นทางของความเป็นเกษตรกรต่อไป   ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้ความตั้งใจของท่านประสบความสำเร็จ  ขอขอบคุณอาจารย์ประสาน แก้วดวง  มากค่ะ

 

อื่นๆ

เมนู