ข้าพเจ้านางสาวศศิลักศยา ผาใต้ ผู้ปฏิบัติงานประเภทบัณฑิตจบใหม่ ID10-คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ครั้งที่ 3
โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จากมหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ เป็นการทำงานร่วมกับชุมชน รับมือกับโลกยุคใหม่ โดยสร้างหลักสูตรการพัฒนาทักษะ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านดิจิทัล ด้านการเงิน ด้านภาษาอังกฤษ และด้านสังคม ที่มีบริบทเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งให้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ตลอดจนข้อมูลที่เปรียบเสมือนแผนที่นำทางในการพัฒนาชุมชน เพื่อพัฒนาพื้นที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่มีความครอบคลุมในประเด็นต่าง ๆ ตามรายปัญหาและความต้องการของชุมชนรวมทั้งการสร้างประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นรากฐานในการต่อยอดสู่อาชีพและเศรษฐกิจที่ดีของชุมชน
เริ่มต้นการทำงานครั้งแรก
ข้าพเจ้าผ่านการคัดเลือกโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ครั้งที่ 3 ได้เริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ระยะเวลาปฏิบัติงานทั้งหมด 3 เดือน พื้นที่ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานคือ ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ในการเข้าทำงานครั้งแรก ได้มีประชุมกับอาจารย์และทีมงานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดและกระบวนการปฏิบัติงานสู่เป้าหมายความสำเร็จของงานร่วมกัน จากการพูดคุยประชุมร่วมกัน ข้าพเจ้าได้เห็นถึงศักยภาพของสมาชิกในกลุ่มทุกทีมที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเต็มที่กับการทำงาน ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นทีม ได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีความรู้ต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางไปสู่การปฏิบัติงาน ในการประชุมแต่ละทีมได้แชร์ประสบการณ์การทำงาน และรายงานความก้าวหน้าของงานที่ผ่านมาของแต่ละทีม ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน รับฟังความคิดเห็นร่วมกัน ได้รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละทีม เช่น การทำงานที่ล่าช้าเพราะมีอุปสรรคในการลงพื้นที่ต่าง ๆ อาจจะเนื่องด้วยสถานการณ์ COVID19 และการไม่ให้ความร่วมมือในบางส่วนจากบุคคลในพื้นที่ เมื่อฟังปัญหาร่วมกัน อาจารย์และสมาชิกในทีมได้ช่วยกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุด และได้มีการวางแผนการปฏิบัติงานล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ เพื่อประสิทธิผลที่จะเกิดขึ้นตามเป้าหมายของโครงการที่จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หลังจากประชุมการทำงาน ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจระบบการทำงานมากขึ้น อาจารย์ผู้ดูแลประจำกลุ่มได้มอบหมายให้ข้าพเจ้าปฏิบัติงานประจำทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์จักสาน ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ในโครงการ “ID10 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน” ซึ่งตำบลกระสัง มีหมู่บ้านทั้งหมด 19 หมู่บ้าน และมีการจัดแบ่งกลุ่มรับผิดชอบทั้งหมด 5 กลุ่ม โดยกลุ่มข้าพเจ้าได้รับมอบหมายทำงานในพื้นที่ทั้งหมด 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 2 บ้านม่วงเหนือ , หมู่ 4 บ้านเครือชุด , หมู่ 11 บ้านลำดวน และหมู่ 16 บ้านม่วงเหนือพัฒนา
ที่ตั้งและอาณาเขต
ซึ่งที่ตั้งและอาณาเขตตำบลกระสัง ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอําเภอเมืองบุรีรัมย์ไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 23.617 ตารางกิโลเมตร หรือ 14,761 ไร่ โดยมีที่ทําการตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอําเภอระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตําบลอื่น ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับเทศบาลตําบลหนองตาด อําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
- ทิศใต้ ติดกับเทศบาลตําบลบ้านบัว อําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
- ทิศตะวันออก ติดกับเทศบาลตําบลอิสาณ อําเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์
- ทิศตะวันตก ติดกับองค์การบริหารส่วนตําบลแสลงพัน อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ข้าพเจ้าได้มีโอกาสลงพื้นกับสมาชิกในทีมเป็นครั้งแรก ที่หมู่ 2 บ้านม่วงเหนือ และหมู่ 16 บ้านม่วงเหนือพัฒนา ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จากการได้ลงพื้นที่หมู่ 2 บ้านม่วงเหนือ และหมู่ 16 บ้านม่วงเหนือพัฒนา พบว่าประชากรจะประกอบอาชีพทำไร่ ปลูกผักบุ้ง และทำเกษตรกรรมเป็นหลัก และจากการสำรวจพบว่าสวนใหญ่ “ปลูกผักบุ้งจีน” เพื่อจำหน่าย ซึ่งผักบุ้งจีน เป็นผักที่นิยมรับประทานตามร้านหมูกระทะในจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากผักที่ทานง่าย แคลเซียมสูง ปลูกและเจริญเติบโตไว ใช้ระยะเวลาในการปลูกเพียง 25-30 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว และเป็นผักที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
“ผักบุ้งจีน” เป็นผักสวนครัวที่ใคร ๆ ต่างก็คุ้นเคย เป็นพืชที่ปลูกง่าย ตายยาก ราคาไม่แพง แต่แฝงไปด้วยคุณประโยชน์นานา ทั้งคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณทางยาที่มีดีมากกว่าแค่บำรุงสายตา เนื่องจากผักบุ้งจีน มีสารที่ชื่อ เบต้าแคโรทีนจำนวนมาก ซึ่งเบต้าแคโรทีนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ภายหลัง และสรรพคุณของวิตามินเอก็คือ การช่วยบำรุงสายตา เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา ทำให้ตาไม่แสบ ไม่แห้ง แลดูเป็นประกาย นอกจากช่วยบำรุงสายตา ยังมีส่วนช่วยในการรักษาอาการสายตาสั้น ตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง และอาการคันตาบ่อย ๆ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยป้องกันและลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง มีกากใยมากช่วยในการขับถ่าย ป้องกันการท้องผูก โดยผักบุ้งจีนมีวิธีการปลูก 2 รูปแบบ ดังนี้
- การปลูกผักบุ้งจีน แบบหว่าน การปลูกแบบหว่านจะเป็นการหว่านเมล็ดผักบุ้งจีนลงไปแปลงดินตรง ๆ กลบด้วยดินบาง ๆ แล้วรดน้ำได้เลย แต่มีข้อเสียคือ ผักบุ้งจีนเป็นผักที่มีความต้องการน้ำมาก เวลารดน้ำจะทำให้ต้นผักบุ้งจีนแย่งน้ำกัน ทำให้การเจริญเติบโตไม่เท่ากัน
- การปลูกผักบุ้งจีน แบบหยอด การปลูกแบบหยอดจะเป็นการปลูกแบบแนวเส้นตรง แล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ไปหยอดตามแนวเส้นตรง เพื่อไม่ได้เมล็ดชิดกันมากเกินไป เสร็จแล้วกลบดินแล้วรดน้ำได้เลย พอเมล็ดเจริญเติบโตก็จะเรียงแนวเป็นระเบียบ
- ขั้นตอนวิธีการปลูกผักบุ้งจีน มีดังนี้
- ซื้อเมล็ดผักบุ้งจีนตามร้านเกษตรทั่วไป เมื่อได้เมล็ดมาแล้วจึงนำมาแช่น้ำ ประมาณ 48 ชั่วโมง
- ไถดินเตรียมก่อนปลูกเพื่อตากแดดประมาณ 15-30วัน
- ไถพรวณดินอีกรอบนึง และขึ้นแปลงปลูก
- ใส่ปุ๋ยลงไปในแปลงดินและคลุกเคล้าปุ๋ยกับดินให้เข้ากัน
- พรวนหญ้าดินให้เรียบเสมอกัน ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะจะทำให้ผักบุ้งจีนเติบโตไม่เท่ากัน
- ใช้วิธีการหว่านเมล็ดหรือแบบหยอดเมล็ด ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการปลูก
- การกำจัดวัชพืชสามารถทำได้ทันทีโดยการพรวนดินหรือการถอนด้วยมือ
- การรดน้ำ ผักบุ้งจีนเป็นผักที่ต้องการน้ำมากและสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรมากเกินไปจนน้ำขังเพราะจะทำให้รากผักบุ้งจีนเน่าและไม่เจริญเติบโต ควรรดน้ำทุกวัน วันละ1-2ครั้ง แต่ถ้าวันไหนฝนตกก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ สำคัญอย่าให้ผักบุ้งจีนขาดน้ำเพราะจะทำให้ผักบุ้งจีนขาดการเจริญเติบโต ไม่มีคุณภาพ ไม่น่ารับประทานและราคาตก
- ผักบุ้งจีนเป็นผักที่เจริญเติบโตไวเพียง 25-30 วัน หรือต้นสูงประมาณ 30-35 ซม. ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนก่อนเก็บเกี่ยวควรรดน้ำแปลงดินให้ชุ่ม เพื่อการเก็บเกี่ยวผักบุ้งจะง่ายขึ้น ทำให้รากผักบุ้งจีนไม่ขาดมาก สะบัดดินออกและนำไปล้างน้ำอีกที และจัดการมัดผักบุ้งเป็นมัด ๆ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อไป
สิ่งที่ได้รับจากการทำงาน
…..จากการปฏิบัติงานและได้ลงพื้นที่จริงทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน ได้สัมผัสบรรยากาศที่ดีของธรรมชาติในชุมชน แสงอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงาม นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีของการทำงาน และในการทำงานยังพบอุปสรรคไม่มากนัก เนื่องจากพึ่งเป็นการเริ่มต้นในการทำงานในเดือนแรก แต่อาจจะเจอปัญหาบ้างในช่วงแรกที่ยังไม่รู้จักและคุ้นเคยกับสมาชิกภายในทีม แต่เมื่อได้เริ่มทำงานร่วมกันได้มีการพูดคุยสื่อสารกันมากขึ้น จึงทำให้รู้จักคุ้นเคยกันทำให้การทำงานราบรื่นมากยิ่งขึ้น ในช่วงแรกจะมีปัญหาติดขัดเล็กน้อย เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียดการทำงานต่าง ๆ จึงได้มีการปรึกษากับอาจารย์ผู้ดูแลและสมาชิกภายในทีม ซึ่งอาจารย์ผู้ดูแลและสมาชิกภายในทีมได้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือเป็นอย่างดี ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้งานดำเนินต่อไปได้อย่างลงตัว ร่วมกันวางแผนและหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อการทำงานที่ราบรื่นไปสู่ความสำเร็จของทีม และการทำงานระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ ข้าพเจ้าและทีมงานจะมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายของโครงการที่ตั้งไว้
แบบทดสอบ https://forms.gle/ScXP8xK5mfAuHBMv7
วิดีโอ