ดิฉันนางสาวอิสริยาภรณ์ บุญคล้อย ID 10 ผลการปฏิบัติงานประจำเดือน พฤศจิกายน 2564 ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบล กระสัง อำเภอ มืองบุรีรัมย์ จังหวัด บุรีรัมย์ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ(มหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ)
ในเดือนพฤศจิกายนดิฉันได้ปฏิบัติงานสำรวจพื้นที่ในชุมชนและเก็บข้อมูล CBD ในพื้นที่ชุมชน4หมู่บ้าน ซึ่งมีพื้นที่
ที่ได้รับผิดชอบ ดังนี้
1 หมู่บ้านหนองม้า หมู่ที่5
2 หมู่บ้านโพธิ์ไทร หมู่ที่8
3 หมู่บ้านหนองหว้า หมู่ที่9
4 หมู่บ้านโนนรัง หมู่ที่15
โดยได้ดำเนินการเก็บทั้งหมด 6 หมวดจำนวน 22 เรื่อง ได้แก่
หมวดที่ 1 แหล่งท่องเที่ยวจำนวน 4 เรื่อง
1 วัดบ้านโพธิ์ไทร
2 โบสถ์วัดบ้านโพธิ์ไทร
3 ศูนย์ทอผ้าบ้านโนนรัง
4 ศูนย์การเรียนรู้จักสาน
5 ทุ่งนา
หมวดที่ 2 ร้านอาหารในท้องถิ่นจำนวน 4 เรื่อง
1 ร้านก๋วยเตี๋ยวน้องพลอย
2 ร้านต้นขนุน
3 ร้าน 59 หมูกระทะ
4 ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
หมวดที่ 3 อาหารที่น่าสนใจประจำถิ่นจำนวน 5 เรื่อง
1 แกงเห็ด
2แกงขี้เหล็ก
3 แกงหน่อไม้
4 ส้มตำ
5 ยำขนมจีน
หมวดที่ 4 ภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 5 เรื่อง
1 การเลี้ยงไหม
2 การฟอกไหม
3 การย้อมไหม
4 การมัดหมี่
5 หัตถกรรมผ้าทอ
6 หัตถกรรมจักสาน
หมวดที่ 5 แหล่งน้ำในท้องถิ่น จำนวน 2 เรื่อง
1 สระเก็บน้ำบ้านหนองม้า
2 สระเก็บน้ำบ้านโพธิ์ไทร
จากการที่ดิฉันได้ดำเนินการสำรวจในพื้นที่ พบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ท่องเที่ยว อาหารประจำถิ่นหรือภูมิปัญญา โดยข้อมูลที่ดิฉันเลือกมานำเสนอในที่นี้ มี 3 สถานที่ ดังนี้
1.ศูนย์เรียนรู้การทอผ้า
แหล่งเรียนรู้ ผ้าทอ อันวิจิตร
ลวดลายงาม เพลินพิศ ให้เล่าขาน
ทอถักไว้ ทั้งจำหน่าย และใช้งาน
ภูมิปัญญา แต่โบราณ สืบสานมา
เป็นที่รู้กันดีว่าบ้านโนนรังนั้นมีความโดดเด่นในด้านการผลิตผ้าทอ ผู้คนในชุมชนมักจะทอผ้าในชีวิตประจำวันเพื่อใช้สอย และหลังจากหมดฤดูทำการเกษตร ก็ยังมีการทอผ้าเพื่อจำหน่าย ที่นี่มีศูนย์เรียนรู้ทอผ้าบ้านโนนรัง ซึ่งจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าสไบลายขิด ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ผ้าโสร่ง สามารถเข้าได้ชมได้โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย
ผู้ที่สนใจจะศึกษาภูมิปัญญาทอผ้าของบ้านโนนรังนั้นสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ผู้ใหญ่ลำใย แขนรัมย์เพื่อติดต่อขอศึกษาเกี่ยวกับภูมิปัญญาการทอผ้า แนวทางการผลิตและช่องทางการจำหน่ายนอกจากจะได้รับความรู้ในการทอผ้าแล้ว ยังสามารถรับชมและเลือกซื้อหรือสั่งทำผืนผ้าทอลายต่างๆได้อีกด้วย โดยมีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทอผ้าคือ คุณยายเพ็ญพรรณ เป็นผู้ชำนาญการเนื่องจากทอผ้ามาตั้งแต่สมัยยังเด็ก สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างละเอียดและถ่องแท้
หากท่านผู้อ่านอยากได้กลับไปสักผืน ก็สามารถเข้ามาเพื่อเลือกซื้อผ้าหรือสั่งทำเพื่อนำไปใช้เป็นของฝากหรือใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ โดยติดต่อผ่านผู้ใหญ่บ้านลำใย แขนรัมย์ (093-4368369 )นอกจากการได้เรียนรู้ภูมิปัญญาการทอผ้า รับชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว ยังจะได้เห็นถึงธรรมชาติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่อันแสนอบอุ่นของชุมชนอีกด้วย
2.วัดบ้านโพธิ์ไทร
หากจะพูดถึงสถานที่สำคัญในพื้นที่ ที่มีมาแต่โบราณ สะท้อนได้ถึงความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม เต็มไปด้วยมนต์ขลังที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ก็ต้องขอแนะนำให้ไปยังสถานที่แห่งนี้ ซึ่งก็คือ วัดบ้านโพธิ์ไทร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหมู่บ้านโพธิ์ไทร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม ชาวบ้านในชุมชนนั้นได้มีการใช้วัดในการประกอบศาสนพิธี โดยชาวบ้านในหมู่บ้านหนองม้าและหมู่บ้านโนนรังก็ได้มีการมาใช้วัดร่วมกับหมู่บ้านโพธิ์ไทรด้วย
ท่านผู้อ่านสามารถมาที่วัดโพธิ์ไทรเพื่อเรียนรู้และซึมซับกลิ่นอายทางทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น การทำบุญ การถวายสังฆทาน หรือเข้าร่วมงานบุญต่างๆที่จัดขึ้น โดยการเข้าในบริเวณวัดนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ในด้านของพิธีกรรมทางศาสนา สถาปัตยกรรมทางศาสนสถาน โบราณวัตถุ และวิถีชีวิตของชุมชน
การเดินทางสามารถเดินทางมาที่วัดได้โดยตรงมาจากบ้านหนองม้า เข้ามาจนสุดทาง วัดโพธิ์ไทรจะอยู่ทางด้านขวามือ ใช้เวลาเดินทางจากบ้านหนองม้า 5 นาที ใกล้กันนั้นจะเป็นที่ทำการกำนันตำบลกระสังและศาลากลางบ้านโพธิ์ไทร ภายในวัดมีลานจอดรถเป็นบริเวณกว้างและมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น แผ่กิ่่งก้านให้ พื้นที่ในวัดดูร่มรื่นอยู่ทั่วอาณาบริเวณ
3. ร้าน 59 หมูกระทะ
เป็นร้านขายเนื้อย่างแบชุดรสชาติอร่อย บรรยากาศร้านเป็นแบบ outdoor โล่งโปร่งอยู่ติดถนนใหญ่เหมาะแก่การนั่งทานพร้อมกับชมวิวยามค่ำคืนริมถนนไปด้วย ที่ตั้งร้านอยู่ติดถนนใหญ่เส้นบุรีรัมย์-ลําปลายมาศ ข้างทางเข้าบ้านหนองม้า ภายในร้านมีจำนวน 20 ที่นั่งและมีบริเวณให้จอดรถทางร้านมีบริการขายเป็นชุด ชุดเล็กราคา 200 บาท ชุดใหญ่ 250 บาทและชุดจัมโบ้ 300 บาทสามารถนั่งรับประทานที่ร้านหรือสั่งกลับบ้านได้
เพจ : 59หมูกระทะ
เบอร์โทร : 081 – 8056766
เวลาเปิด-ปิด : 17.00 – 23.00 น.
นอกจากการเก็บและนำเสนอข้อมูล CBDแล้ว ดิฉันยังได้ศึกษาในเรื่องของสารสนเทศในตำบลอื่น เพื่อเรียนรู้แนวการปฏิบัติ จัดทำสื่อสารสนเทศของชุมชนให้น่าสนใจโดยดิฉันได้ศึกษาเพจ facebook ของตำบลบ้านคู อำเภอนาโพธิ์ ที่มีชื่อว่า บ้านผ้าไหม ผักอินทรีย์ รวมของดี ตำบลบ้านครู
การศึกษาพบว่าในเพจนั้นมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชนและให้ข้อมูลด้านสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งเกร็ดความรู้และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรคโควิด-19
โดยมีจุดเด่นดังนี้
1 มีเนื้อหาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับชุมชนหลายด้าน
ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าไหม กระเป๋าผ้าไหม
ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผักอินทรีย์ อินทผาลัม
สถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนน้ำ วัด
ร้านอาหาร เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่ง
เกร็ดความรู้ เช่น การทำให้ผ้านิ่ม การทำให้ผ้านุ่มลื่น การทำน้ำหมักชีวภาพ
2 มีข้อมูลลักษณะของผลิตภัณฑ์ การใช้งาน และราคา เขียนไว้ชัดเจน
3 มีการเขียนที่ดึงดูดใจคือมีการเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าเนื้อหา เขียนด้วยถ้อยคำสั้นกระชับเข้าใจง่าย มีการใช้ระดับภาษาที่หลากหลาย มีการใช้สัญลักษณ์ที่มีสีสันประกอบการเขียน
4 มีภาพและคลิปวีดีโอประชาสัมพันธ์ที่สวยงามสีสันสดใสน่าดึงดูด
5 มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน เช่น เบอร์โทร แผนที่หรือ inbox
6 มีโลโก้ รูปภาพและแผนที่ ส่งเสริมให้สารสนเทศมีความน่าเชื่อถือขึ้
ข้อแนะนำ
ควรเพิ่มข้อมูลชุมชนเพื่อแสดงถึงลักษณะสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ของชุมชน
สรุป สื่อสารสนเทศที่จัดทำขึ้นนั้นควรจะมีเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อหรือประชาสัมพันธ์ให้ครบถ้วน มีการแบ่งหมวดหมู่ให้ชัดเจนในแต่ละหัวข้อ มีรูปภาพหรือคลิปประกอบข้อมูลเพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพมากขึ้น มีช่องทางการติดต่อที่เป็นปัจจุบันและสะดวกต่อการติดต่อ การเขียนต้องเขียนให้กระชับ เข้าใจง่าย สะกดคำให้ถูกต้อง มีการใช้สีหรือสัญลักษณ์เข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการอ่าน และการมีโลโก้ รูปภาพหรือแผนที่จะช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้สูงขึ้น
เพจ https://web.facebook.com/BankuBuriram/
วิดีโอประจำเดือน
แบบทดสอบประจำเดือน