ข้าพเจ้านางสาววนาวิน ศรีสอาด ประเภทนักศึกษา ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานพร้อมกับทีมงานที่ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จากมหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ
ดิฉันได้รับมอบหมายให้ทำงานในพื้นที่ของตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้ชื่อโครงการ ID10 “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน” ซึ่งตำบลกระสัง มีทั้งหมด 19 หมู่บ้าน โดยดิฉันได้รับมอบหมายทำงานในพื้นที่ของหมู่ 3 บ้านไทรโยง หมู่ 10 บ้านกลันทา และหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ ในหัวข้อ “การยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนโบราณบ้านไทรโยง” โดยมีเป้าหมายเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลของชุมชนโบราณบ้านไทรโยงเชิงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของตำบลกระสัง ให้เป็นที่รู้จักเพื่อต่อยอดและพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต
โดยตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 – เดือนพฤษจิกายน 2564 ดิฉันได้ลงพื้นที่ทำงานในหลายด้าน ทั้งการเก็บข้อมูลชุมชน แบบฟอร์ม 01 แบบสอบถามข้อมูลระดับบุคคล ครัวเรือนและชุมชน เพื่อนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของชุมชน เพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาชุมชนตามเป้าหมาย แบบฟอร์ม 02 แบบสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และการเก็บข้อมูล CBD ในด้านต่างๆ ของชุมชน
บทความประจำเดือนพฤศจิกายนนี้ ดิฉันได้เขียนเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล cbd ในพื้นที่ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบไปด้วยพื้นที่ของหมู่ 3 บ้านไทรโยง หมู่ 10 บ้านกลันทา และหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลด้านต่างๆ ของชุมชน ไปเก็บยังระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย 10 หมวด ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว, ที่พัก/โรงแรม, ร้านอาหารในท้องถิ่น, อาหารประจำถิ่น, เกษตรกรในท้องถิ่น, พืชในท้องถิ่น, สัตว์ในท้องถิ่น, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, แหล่งน้ำในท้องถิ่น และผู้ที่ย้ายกลับบ้านเนื่องจากสถานการณ์โควิด โดยดิฉันเก็บข้อมูล cbd ได้จำนวน 36 รายการ แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
หมวดหมู่/รายการ จำนวนข้อมูลที่เก็บได้
1.แหล่งท่องเที่ยว 2
2.ร้านอาหารในท้องถิ่น 3
3.พืชในท้องถิ่น 26
4.สัตว์ในท้องถิ่น 4
5.ภูมิปัญญาท้องถิ่น 1
จากข้อมูล cbd ที่ดิฉันได้สำรวจและรวบรวมข้อมูลดังข้างต้น พบว่า แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่น่าสนใจจะเป็นสถานที่สำคัญคือคูน้ำที่ล้อมรอบชุมชน และยังมีคาเฟ่ ร้านกาแฟ สำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่ม ทานขนม มีจุดถ่ายรูปในบรรยากาศธรรมชาติ ส่วนร้านอาหารในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะเป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณข้างทาง อาหารที่ขายจะมีความคล้ายกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ไก่ย่าง อาหารตามสั่ง เจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในชุมชน โดยแต่ละร้านจะมีโต๊ะให้นั่งทานในร้านได้ รวมๆแล้วอาหารไม่แพง พืชในท้องถิ่นส่วนจะเป็น พืชไม้ประดับและไม้ยืนต้น ที่พบมากเช่น มะม่วง มะพร้าว กล้วย ลำไย มะขาม มะยม ผักสวนครัว เช่น พริก ข่า ตะไคร้ มะกรูด หอมแดง ผักชี เป็นต้น สัตว์ในท้องถิ่นที่พบส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อจำหน่าย เช่น สุกร โค กระบือ เป็นต้น ส่วนภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พบ เช่น การทอเสื่อกก เป็นต้น
ข้อมูล cbd ที่น่าสนใจ
1.ร้านอาหารในท้องถิ่น เป็นร้านข้างทางที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ใครผ่านเป็นต้องแวะลงมาชิม ข้าวเหนียวหมูปิ้งในช่วงเช้าที่หอมอร่อย แถมราคายังถุกตกไม้ละ 5-10บาท และข้าวเหนียวห่อละ5 บาท อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำนั่นคือก๋ยวเตี๋ยวอร่อยน้ำซุปเข้มข้น ไม่ต้องปรุงซ้ำกันเลยทีเดียว และอีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนที่อยากชมวิว ถ่ายรูปในชุมชนยังมี คาเฟ่ ไทรโยงคาเฟ่ & รีสอร์ท ที่อยุ่กลางทุ่งนาอันเขียวขจี ท่ามกลางธรรมชาติ เงียบสงบและเป็นส่วนตัว และยังมีกิจกรรมปั่นจักรยาน ให้อาหารสัตว์ เครื่องดื่มก็มี อาหารก็ครบ เรียกได้ว่าไปที่นี่ที่เดียวไม่ต้องออกไปไหนก็ได้ มุมถ่ายภาพเพี้ยบ!!!!!
2.การทอเสื่อกก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำเอาต้นกกที่เป็นพืชที่พบในท้องถิ่นนำมาแปรสภาพทำให้เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย มีความคงทนและสวยงาม ในพื้นที่ของหมู่ 19 บ้านไทรโยงเหนือ มีคุณยายจันทร์ เปลี่ยนรัมย์ ที่ทำการทอเสื่อกก คุณยายเป็นคนทอเสื่อกกเองโดยมีคุณตาน้อย เปลี่ยนรัมย์ คอยช่วยเป็นลูกมือ คุณยายทำทุกขั้นตอนเอง ตั้งแต่การหาต้นกกมาปลูกไว้บริเวณบ้าน การฉีกต้นกกเป็นเส้นแล้วนำมาตากให้แห้ง รวมไปถึงการย้อมสีต้นกกที่ตากแห้งแล้ว ก่อนจะนำมาทอให้เกิดลวดลายบนเสื่อกก โดยคุณยายจะทอเสื่อกกเก็บไว้หลายผืน หากใครที่ต้องการซื้อก็สามารถเข้ามาซื้อที่บ้านของคุณยายได้ คนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นในพื้นที่ของชุมชนที่ทราบว่าคุณยายจันทร์ทอเสื่อกก
วีดีโอประจำเดือน พฤษจิกายน