หลักสูตร ID 10 : การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมีส่วนร่วมของชุมชุน ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
สินค้าผ้าทอเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่ได้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยจะมีเอกลักษณ์ของตนเองที่
แตกต่างกัน ทั้งในด้านการผลิต ลวดลายผ้า และสีสันบนผ้าที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมความเชื่อ รวมถึงค่านิยมในสังคมที่สืบทอดกันมา ผ้าทอจึงเป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจสูงทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ สามารถทำรายได้ให้แก่ชุมชน และเพื่อให้ผ้าทอเป็นสินค้าที่มีคุณค่า มีเครื่องหมายแสดงถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน จึงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยมาตรฐานนั้นก็คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
THAI COMMUNITY PRODUCT STANDARD
ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ
ขอบข่าย
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนนีครอบคลุมเฉพาะผลิตภัณฑผ้าทอมือแบบใช้งานทั่วไปและแบบใชงานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย โดยทําจากผ้าทอมือเป็นวัสดุหลัก และใช้เส้นใยธรรมชาติ เส้นใยประดิษฐ์ และเส้นใยผสม
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนนี้ไม่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และเสื้อผ้าสําเร็จรูปที่ทําจากผ้าทอมือหรือตกแต่งด้วย ผ้าทอมือ ที่ได้ประกาศเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนแล้ว
ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือแบ่งตามการใช้งานเป็น 2 แบบ
- แบบใช้งานทั่วไป เช่น กล่องอเนกประสงค์รูปภาพติดผนัง
- แบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย เช่น หมวก ผ้าเช็ดหน้า ผ้าอ้อมเด็ก
ขนาด
ความกว้างและความยาว (ถ้ามี) ต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก การทดสอบให้ใช้อุปกรณ์วัดที่มีความละเอียดไม่น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร หรือ 1 ส่วน 8 นิ้ว แล้วแต่กรณี และมี ความยาวไม่น้อยกว่า 1 เมตร
คุณลักษณะที่ต้องการ
ลักษณะทั่วไป
- ต้องสะอาด ประณีต สวยงาม มีรูปแบบและรูปทรงที่เหมาะสมกับการใช้งาน สีและลวดลายสวยงาม ผสมผสานกลมกลืนตลอดชิ้นงาน ไม่มีขอบคมและปลายแหลมยกเว้นกรณีที่เป็นลักษณะเฉพาะของชิ้นงาน ไม่มีข้อบกพร่องที่เกิดจากกรรมวิธีการทําและมีผลเสียต่อการใช้งาน เช่น รอยขาด รอยแยก รู เส้น ดายขาด เส้นด้ายแตก เส้นดายหลุดลุ่ย รอยเปรอะเปื้อนจากสีพิมพ์ รอยต่อของลวดลายไม่ตรงกันสีไม่ สม่ำเสมอยกเว้นกรณีที่เป็นลักษณะเฉพาะของชิ้นงาน เมื่อจับหรือสัมผัสแล้วสีต้องไม่ติดมือ
- กรณีที่มีการตกแต่งด้วยด้ายปักหรือดิ้นปัก ต้องไม่คลายตัวหรือแยกออกจากกัน ไม่ขาด แตก หัก งอ กรณีดิ้นทําจากโลหะต้องไม่มีสนิมหรือมีตําหนิ
การเย็บ (ถ้ามี)
- ต้องเรียบร้อย ประณีต ฝีเข็มสม่ำเสมอทั้งนอกและในตัวผลิตภัณฑ์และไม่น้อยกว่า 36 ฝีเข็มต่อความยาว 10 เซนติเมตร ตะเข็บด้านในต้องเย็บพันริมผ้า (พ้ง)ไม่ย้วยหรือหลุดลุ่ยเพื่อกันการหลุดลุ่ย ริมผ้าต้องเรียบแน่น
- การบุด้วยแผ่นฟองน้ำ (ถ้ามี) ต้องมีผ้าหุ้มหรือปิดทับและเย็บให้เรี้ยบร้อย แน่น ไม่ย้วยหรือหลุดลุ่ย ฝีเข็มสมํ่าเสมอทั้งนอกและในตัวผลิตภัณฑ์และไม่น้อยกว่า 32 ฝีเข็มต่อความยาว 10 เซนติเมตร
- การเย็บหุ้มริมผ้าหรือกุ้น (ถ้ามี) ต้องเรียบร้อย ประณีต ฝีเข็มสม่ำเสมอทั้งนอกและในตัวผลิตภัณฑ์ และไม่น้อยกว่า 32 ฝีเข็มต่อความยาว 10 เซนติเมตร
- การติดกระดุมหรือซิป (ถ้ามี) ต้องเรียบร้อย แน่น และไม่ย่น กรณีเป็นโลหะต้องไม่มีสนิม ขอบคม และปลายแหลม
การประกอบ (ถ้ามี)
ต้องเรียบร้อย ประณีต ติดแน่น สวยงาม เหมาะสมกับชิ้นงาน ไม่มีรอยแตกร้าวหรือรอยเครื่องมือจากการ ประกอบชิ้นงาน รอยต่อต้องไม่แยกออกจากกัน ไม่มีกลิ่นของสารเคมีและรอยเปรอะเปื้อนของสารที่ใช้ยึดติดชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน
การประกอบหรือตกแต่งด้วยวัสดุอื่น (ถ้ามี)
- ต้องประณีต ติดแน่น สวยงาม กลมกลืนและเหมาะสมกับชิ้นงาน รอยต่อต้องไม่แยกออกจากกัน ไม่มีกลิ่นของสารเคมี และรอยเปรอะเปื้อนของสารที่ใช้ยึดติดชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ไม่มีขอบคมและปลายแหลมยกเว้นกรณีที่เป็นลักษณะเฉพาะของชิ้นงาน กรณีวัสดุประกอบหรือตกแต่งเป็นโลหะต้องไม่มีสนิม กรณีใชวัสดุจากธรรมชาติต้องไม่มีราหรือตําหนิที่เกิดจากการทําลายของแมลง กรณีใช้พลาสติกต้องไม่มีเสี้ยนหรือครีบ การทดสอบให้ทําโดยการตรวจพินิจ
- การใช้งาน (เฉพาะแบบใช้งานทั่วไป) ต้องสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
- ชนิดเส้นใยของผ้าที่ใช้ (เฉพาะแบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย) ต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ที่ฉลาก
- ความเป็นกรด-ด่าง (เฉพาะแบบใช้งานที่ตองสัมผัสกับร่างกาย) ต้องอยู่ระหว่าง 5.0 ถึง 8.0 ยกเว้นกรณียอมห้อมหรือครามต้องอยู่ระหว่าง 5.0 ถึง 8.5 การทดสอบให้ปฏิบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม วิธีทดสอบสิ่งทอ เล่ม 32 ความเป็นกรด-ด่าง ของสารที่สกัดด้วยน้ำ มาตรฐานเลขที่ มอก.121 เล่ม 32
- สีเอโซที่ให้แอโรแมติกแอมีน 24 ตัว (ยกเว้นสยอมธรรมชาติ และสีธรรมชาติของเส้นใย) (เฉพาะแบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย) แอโรแมติกแอมีนแต่ละตัวต้องไม่เกิน ๓๐ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- การเปลี่ยนแปลงขนาดภายหลังการซักและทําให้แห้ง (เฉพาะแบบใช้งานที่ตองสัมผัส ต้องไม่เกินร้อยละ 5 กับร่างกาย)
- ความคงทนของสีต่อการซัก (ยกเว้นผ้าสีขาวและสีธรรมชาติของเส้นใย) (เฉพาะแบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย) ต้องไม่น้อยกว่าเกรย์สเกลระดับ 3 ทั้งการเปลี่ยนสีและการเปื้อนสี ยกเว้นกรณีย้อมสีธรรมชาติต้องไม่น้อยกว่าเกรย์สเกลระดับ 2-3 ทั้งการเปลี่ยนสีและการเปื้อนสี
- ความคงทนของสีต่อเหงื่อ ทั้งสภาพกรดและสภาพด่าง (ยกเวนผ้าสีขาวและสีธรรมชาติของเส้นใย) (เฉพาะแบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย) ต้องไม่น้อยกว่าเกรย์สเกลระดับ 3 ทั้งการเปลี่ยนสีและการเปื้อนสี ยกเว้นกรณีย้อมสีธรรมชาติต้องไม่น้อยกว่าเกรย์สเกลระดับ 2-3 ทั้งการเปลี่ยนสีและการเปื้อนสี
การบรรจุ
ให้หุ้มห่อหรือบรรจุผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม สะอาด แห้ง เรียบร้อย และสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือได้ การทดสอบให้ทําโดยการตรวจพินิจ
เครื่องหมายและฉลาก
- ที่ฉลากหรือจุบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนีให้เห็นไดง่าย ชัดเจน
-ชื่อผลิตภัณฑ์ (ตามชื่อ มผช.)
-แบบ
-ชนิดเส้นใยของผ้าที่ใช้ (เฉพาะแบบใช้งานที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย)
-ความกวางและความยาว (ถ้ามี) เป็นนิ้วหรือเซนติเมตร
-กรณีใช้สีธรรมชาติใหระบุพร้อมส่วนของพืชที่ ใช้ เช่น สีส้มจากเมล็ดคําแสด
-ข้อแนะนําในการใช้และการดูแลรักษา
-ประวัติผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี)
-วัน เดือน ปีที่ทํา
-ชื่อผู้ทำหรือสถานที่ทํา พร้อมสถานที่ตั้ง หรือเครี่องหมายการค้าที่จดทะเบียน ในกรณีที่ใช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กําหนดไว้ข้างต้น
มาตรฐานผ้าทอที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงมาตรฐานเบื้องต้นที่ใช้ในการกำหนดคุณภาพ และยังมีรายละเอียดอีกมากที่ระบุไว้ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ฉบับเต็มซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ตามเอกสารอ้างอิง
โดยหลังจากที่ได้ทำการ SWOT กับทางกลุ่มทอผ้าชุมชนบ้านโนนรังนั้นได้ข้อสรุปดังนี้
จุดแข็ง
1.ชาวบ้านมีภูมิปัญญาในการทอผ้า
2.ในชุมชนมีผ้าขิตโบราณ
3.มีกลุ่มอาชีพที่ส่งเสริมในด้านการทอผ้า และการจำหน่ายผ้าอยู่ภายในชุมชน
4.ผลผลิตที่ได้จากกลุ่มทอผ้าเป็นที่ต้องการของตลาดด้วยความแน่นของลาย และความสวยงามของผลิตภัณฑ์
จุดอ่อน
1.ขาดลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน
2.มีปัญหาในด้านสุขภาวะด้วยคนในชุมชนที่ทอผ้านั้นมีอายุมากทำให้การทำงานไม่สามารถทำต่อเนื่องได้
3.ยังคงต้องนาเข้าวัตถุดิบอยู่จากายนอก
4.วัตถุดิบมีราคาแพง
5.ยังขาดช่องทางตลาดอื่นเพิ่มเติม
โอกาส
1. ชุมชนอยู่ใกล้ตัวเมืองและปัจจัยในการซื้อสินค้ายังคงมีอยู่
2. คนในชุมชนมีองค์ความรู้ที่หลากหลาย
3. มีการทำเกษตรอินทรีย์ และยังมีการขายสินค้าในตลาดสีเขียวของทางจังหวัด
อุปสรรค
1. ผลผลิตไม่เพียงพอต่อการขาย
2. ขาดการต่อยอดจากคนรุ่นใหม่
3. ขาดวัตถุดิบและยังคงต้องนาเข้าวัตถุดิบอยู่จากภายนอก
4. ประชาชนที่ทอผ้ายังคงมีอาชีพอื่นเสริมอยู่เช่น เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
5. ยังขาดความรู้เกี่ยวกับช่องทางของตลาดอื่นเพิ่มเติมจากภายนอก
อ้างอิง
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน. 2558. ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ. แหล่งที่มา : http://tcps.tisi.go.th/public/StandardList.aspx?fbclid=IwAR07yogtC-qSQMyYkAoku25FD2ETJpy0ZOzkWtUwlHyzTM5sIX3Tzr66Agk. สืบค้นเมื่อ 12 เมษายน 2564
คำถาม :https://forms.gle/rtFJfeFaDGXJcFXa6