ID10 การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างกลไกและการดำเนินการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ (กลุ่มเกษตรปลอดภัย)
ข้าพเจ้านางสาวศุภากร ทรงชัยยศ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
สำหรับบทความประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ขอนำเสนอเกี่ยวกับความรู้และทักษะที่ได้จากการจัดอบรมครั้งที่ 2 (ช่วงบ่าย) ซึ่งกลุ่มเกษตรปลอดภัยได้จัดกิจกรรมการอบรมภายใต้กิจกรรม “การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างกลไกและการดำเนินการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ (กลุ่มเกษตรปลอดภัย)” ชื่อโครงการ ID๑๐ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน” ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (๑ ตำบล ๑ มหาวิทยาลัย)
กิจกรรมการอบรมครั้งที่ 2 จัดอบรมและให้ความรู้ในหัวข้อเรื่อง “วิธีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช” ในวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ณ วัดทรงศิลา หมู่ 7 บ้านดอนหวาย ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร 2 ท่าน คือ
- นายสุรพงษ์ ทองเชื้อ (ข้าราชการบำนาญ) อดีตอาจารย์ประจำคณะพืชศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์
- อาจารย์วงจันทร์ พูลเพิ่ม อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
การอบรมในช่วงบ่ายให้ผู้เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติการผลิตสารชีวภาพและการทำอุปกรณ์ดักแมลงเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช โดยมีวัสดุ อุปกรณ์และขั้นตอนการทำ ดังนี้
การปฏิบัติการผลิตสารชีวภาพและอุปกรณ์ดักแมลงเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช
- การผลิตเชื้อราเขียวหรือไตรโคเดอร์มา มีดังนี้
วัสดุอุปกรณ์
- หัวเชื้อราไตรโคเดอร์มา (เชื้อเป็น) 2 ขวด
- หม้อหุงข้าวไฟฟ้า (5ลิตร) 1 ใบ
- ข้าวสาร (เก่าค้างปี) จำนวน 2 กิโลกรัม
- ถุงพลาสติกใส ขนาด 8×12 จำนวน 1 กิโลกรัม
- ยางวง 1 ถุง
- เข็มหมุด 1 กล่อง
- ตาชั่ง
- น้ำเปล่า
ขั้นตอนการทำ
- หุงข้าวตามสัดส่วน (ข้าว 3 ถ้วย/น้ำ 2 ถ้วย) ข้าวไม่สุกจนเกินไป (สุก ๆ ดิบ ๆ) และตักข้าวใส่ถุงพลาสติกใส ขนาด 8×12 ที่เตรียมไว้ ถุงละ 1 ทัพพี
- หยดหัวเชื้อไตรโคเดอร์มา ใส่ลงไปในถุงพลาสติกที่ตักข้าวไว้ 3-4 หยด (1กรัม/ถุง) แล้วใช้ยางวงรัดปากถุงไว้แน่น บีบข้าวในถุงเบา ๆ ให้เชื้อกระจายทั่วถุง
- นำเข็มหมุดมาเจาะรูบริเวณปากถุง เพื่อการระบายอากาศประมาณ 10 – 15 รู/ถุง รีดถุงข้าวให้แบนแล้วนำไปเก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีมดไรและอากาศไม่ร้อน โดยจะต้องไม่วางซ้อนกัน
- ผ่านไปสองวันจะมีเส้นใยสีขาวของเชื้อราเจริญอยู่ในถุง นำถุงข้าวมาขยำเล็กน้อยให้เส้นใยแตกออก แล้วนำไปวางที่เดิม
- 4 – 5 วันต่อมา เชื้อในถุงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสามารถนำไปใช้หรือเก็บไว้ในตู้เย็นได้
- การนำไปฉีดพ่นจะนำเชื้อรามาล้างกับน้ำสะอาด เอาสปอร์ของเชื้อราไปล้างจนขาวสะอาดและกรองเอาส่วนของข้าวทิ้งไป โดยการฉีดพ่นจะใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 ลิตร ผสมกับน้ำ 200 ลิตร (ควรฉีดพ่นให้กับพืชหรือผักในช่วงเวลาก่อน 09:00 น. หรือ หลังจากเวลา 15:00 น.)
- การผลิตกับดักกาวเหนียว มีดังนี้
วัสดุอุปกรณ์
- ไม้ไผ่เหลา กว้างขนาด 2 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร จำนวน 10–20 ท่อน
- มีดอีโต้ จำนวน 1 ด้าม
- ค้อน จำนวน 1 เต้า
- ลวด จำนวน 1 ขด
- แผ่นฟิวเจอร์บอร์ด (สีเหลือง) ขนาดเท่ากระดาษ A4 จำนวน 20 แผ่น
- ไม้พายเล็ก จำนวน 6 อัน
- กาวเหนียวสำหรับกำจัดแมลงศัตรูพืช ได้แก่ แทงเกิลฟุตไบโอกูล-ซี 1 กระปุก
ขั้นตอนการทำ
- นำไม้ไผ่ที่เตรียมไว้เสี้ยมโคนให้แหลม จากนั้นนำไปติดกับแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีเหลืองที่เตรียมไว้โดยใช้ลวดยึดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดกับไม้ไผ่ให้แน่นตามจำนวนที่ต้องการ
- นำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 จากนั้นใช้ไม้พายจุ่มกาวเหนียวแล้วนำมาทาให้รอบด้านทั้งหมดของแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด
- นำกับดักสีเหลืองไปติดตั้งในแปลงปลูกพืชบริเวณที่ต้องการ โดยใช้ระยะห่าง 4 × 4 เมตร สูงจากพื้น 30 – 50 เซนติเมตร
- ช่วงอากาศหนาวการระบาดของแมลงน้อยอาจติดกับดักกาวเหนียวสีเหลืองไว้ประมาณ 15-20 อัน/พื้นที่ 1 ไร่ แต่ในฤดูร้อนและฤดูฝนแมลงระบาดมากอาจต้องใช้กับดักประมาณ 60-80 อัน/พื้นที่ 1 ไร่
- หลังจากเทหรือป้ายกาวเหนียวในหนึ่งครั้งจะอยู่ได้นาน 10-15 วัน หลังจากนั้นจึงทาหรือป้ายกาวเหนียวใหม่อีกครั้ง โดยจะต้องทำความสะอาดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดด้วยวิธีการล้างแมลงศัตรูพืชที่ติดกาวเหนียว โดยให้ใช้น้ำมันเบนซินล้างหลังจากนั้นทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก
หลังจากที่ให้ผู้เข้าร่วมอบรมลงมือปฏิบัติการผลิตสารชีวภาพและอุปกรณ์ดักแมลงเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชเรียบร้อยแล้ว ในช่วงต่อมาได้มีการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมแปลงผักและสาธิตการใช้กับดักกาวเหนียวให้กับกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรม ได้ทำการสาธิต ณ แปลงปลูกผักของ นางหลัน โขงรัมย์ หลังจากทำการสาธิตการใช้กับดักกาวเหนียวได้มีการทำแปลงเกษตรแบบเขตกรรมโดยท่านวิทยากรอีกด้วย
ขั้นตอนการทำแปลงเกษตรแบบเขตกรรม มีวิธีดังนี้
- ทำการขุดดินเป็นหลุมลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ความกว้างและความยาวตามความต้องการ
- เมื่อทำการขุดดินตามข้อที่ 1. เรียบร้อยแล้ว นำปุ๋ยหมักแห้งที่หมักเตรียมไว้ (ปุ๋ยหมักแห้งทำการหมักไว้ในช่วงการอบรมครั้งที่ 1 ซึ่งวิธีการทำอยู่ในบทความเดือนมิถุนายน) มาเทใส่ให้ทั่วหลุมที่ขุดไว้จากนั้นนำดินกลบหลุมให้เรียบร้อย
- หลังจากกลบหลุมตามข้อที่ 2. เรียบร้อยแล้วให้นำเอาฟางแห้งหรือหญ้าแห้ง มาวางบนหลุมที่ทำการกลบแล้วนำบัวรดน้ำมารดให้ดินชุ่ม หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน จึงจะสามารถนำพืชผักมาลงแปลงผักได้
เขตกรรม หมายถึง การปรับปรุงดิน น้ำ อากาศ แสงแดด สภาพแวดล้อม ให้มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช การบำรุงให้พืชมีความสมบูรณ์อยู่เสมอจะทำให้พืชมีความแข็งแรงทนทานต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลงศัตรูพืชได้ (ที่มา : www.gotoknow.org)
เขตกรรม หมายถึง แนวทางสำคัญในการป้องกันศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพเพราะเป็นการจัดการระบบการเพาะปลูกที่สร้างเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช โดยอาจเป็นการจัดการระบบการเพาะปลูกทั้งในเชิงของพื้นที่หรือเวลาที่มีเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของศัตรูพืช-ศัตรูธรรมชาติ ปรับเปลี่ยนร่มเงาและสภาพภูมิอากาศย่อยในระดับฟาร์มหรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของการระบาดของโรคและแมลง แนวทางของการเขตกรรมที่ดีอาจเป็นการปลูกพืชที่หลากหลาย การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชร่วม การปลูกพืชในเวลาที่เหมาะสมและการปลูกพืชไล่และล่อแมลง เป็นต้น (ที่มา : www.greennet.or.th)
ดูความหมายจากแหล่งข้อมูลที่ได้มา ทำให้สรุปได้ว่า การเขตกรรม เป็นการจัดการพื้นที่ทางการเกษตร โดยมีวิธีการต่าง ๆ ที่ทำให้พื้นที่การเกษตรมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดและลดการระบาดของแมลงศัตรูพืชและให้พืชมีการเจริญเติบโตได้ดี
ลิงก์สำหรับทำแบบทดสอบ https://forms.gle/JnZmTHwarcwSphWo7