ไหมมหัศจรรย์

        การปฏิบัติงานประจำเดือนเมษายนนี้ได้มีการอบรมการวางแผนการทำงานเหมือนอย่างเคยรวมทั้งการลงพื้นที่สำรวจผลิตภัณฑ์ชุมชนและภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งหลังจากได้ลงพื้นที่แล้วทำให้ได้พบสิ่งต่าง มากมาย เช่น กุ้งจ่อม การทำน้ำพริก การสานสุ่มไก่จากไม้ไผ่ การเลี้ยงไหมเพื่อนำมาทอผ้า แต่สิ่งที่เป็นที่น่าสนใจสำหรับผมคือการได้เห็นการเลี้ยงไหมอีกครั้งหลังจากที่ไม่เคยได้เห็นวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบนี้มานาน ทำให้นึกถึงในวัยเด็กที่ได้พบเห็นกับไหมครั้งแรกทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นและยังมีดักแด้ที่เป็นของทานเล่นมาโรยเกลือทานแล้วอร่อยจนลืมความน่ากลัวของเจ้าไหมที่เคยกระดึ๊บ ขึ้นมาตามลำตัวไปเลยทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีนอีกด้วย แต่นอกจากตัวไหมแล้วสิ่งที่มาคู่กันก็คือหม่อนที่เป็นพืชสำหรับเลี้ยงไหม สวนหม่อนของคุณยายคือสวรรค์ของผมเพราะผลหม่อนเมื่อสุกแล้วจะมีรสชาติที่หวานบางต้นก็อมเปรี้ยวยิ่งได้เก็บกินสด จากต้นแล้วยิ่งทำให้รู้สึกพิเศษมาก 

        สำหรับตัวไหมเป็นแมลงที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์แบ่งออกเป็น 4 ระยะคือระยะที่1 ไข่ ระยะที่2 ตัวหนอน ระยะที่3 ดักแด้ ระยะที่4 ผีเสื้อโดยวงจรชีวิตของไหมจะเริ่มต้นจากไข่ ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 9-10 วัน กลายเป็นหนอนไหม ในระยะนี้หนอนไหมจะกินใบหม่อนเป็นอาหาร และนอนประมาณ 4-5 ช่วง ใช้เวลาประมาณ 22-26 วัน พอหนอนไหมแก่ หรือสุกจะชักใยทำรังหุ้มตัวเอง ตัวไหมจะลอกคราบเป็นตัวดักแด้อยู่ในรัง ช่วงเป็นรังไหมใช้เวลาประมาณ 8-10 วัน จากนั้นดักแด้ก็จะกลายเป็นผีเสื้อ ผีเสื้อไหมจะใช้น้ำลายซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างละลายใยไหม และเจาะรังไหมออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ โดยจะมีชีวิตอยู่ในช่วงนี้ประมาณ 2-3 วัน ก็จะตาย ไหมจึงถือเป็นสัตว์ที่วิเศษมาก ใครจะคิดว่าผ้าลายสวย ผืนใหญ่ เหล่านี้ต้องผ่านกรรมวิธีที่หลากหลายขั้นตอนตั้งแต่การเลี้ยงไหม การสาวใยไหม การย้อมสีจนกว่าจะได้มาทอเป็นผืนนั้นจะมาจากสัตว์ตัวเล็ก เช่นนี้

       ผ้าไหมถือเป็นมรดกอันล้ำค่าของเมืองไทย มีความงดงามของเส้นไหมที่เป็นเอกลักษณ์ ลวดลายที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย การทอผ้าไหมของประเทศไทยในอดีตเป็นการทำกันในครัวเรือนเพื่อใช้เองหรือทำขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธี เช่น งานบุญ งานแต่งงาน หรืองานสังคมต่างๆ คนไทยมีการนำเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้กับวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ และมากยิ่งกว่าการใช้งาน คือความสวยงามและความมีเสน่ห์แบบไทย เป็นการแสดงถึงความประณีตของคนไทยที่มีมาแต่ในอดีตและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบซึ่งยังสืบต่อมาถึงปัจจุบัน และในส่วนของผ้าไหมแต่ละ ท้องถิ่นนั้นก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างกันไปอย่างเช่นที่บ้านศรีถาวร ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์นี้ก็จะมีเอกลักษณ์ที่เป็นลายพื้นเมืองไทยเขมรเป็นที่โดดเด่นอย่างเช่นผ้าซิ่นตีนแดงเป็นต้น หากท่านใดสนใจผ้าไหมแท้นี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นางติ บุญเจริญ หรือคุณยายตี ม.11 บ้านศรีถาวร ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เบอร์โทรศัพท์ 0612190960 ได้เลยครับ มีหลากหลายลายหลากหลายสีสันให้เลือกชมและราคาเป็นกันเอง ท่านใดที่ชื่นชอบผ้าไหมอย่าลืมมาแวะชมและอุดหนุนคุณยายกันเยอะ ๆ นะครับ

                                                            

อื่นๆ

เมนู